เครื่องฟอกอากาศกรองขนแมวได้ไหม? เลือกเครื่องกรองอากาศอย่างไรให้ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ทาสแมว
ปัญหาขนแมวหลุดร่วง จนกระจายอยู่เต็มพื้น ล่องลอยไปตามอากาศ หรือไปเกาะจับติดอยู่กับเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในห้อง เป็นปัญหาที่คนเลี้ยงแมวแทบทุกคนต้องเจอ ทำให้ต้องคอยกวาดพื้น ดูดฝุ่น หรือหาลูกกลิ้งมาเก็บขนแมวอยู่เสมอ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะชาวทาสแมวที่ดันแพ้ฝุ่นละออง เป็นภูมิแพ้ เพราะขนเจ้าแมวเหมียวนั้นเส้นบาง เส้นเล็กมาก ๆ บางทีอาจมองด้วยตาไม่เห็น ถึงแม้จะดูดฝุ่นถี่ ๆ ใช้ลูกกลิ้งเก็บขนบ่อยขนาดไหน ก็ยังรู้สึกคัดจมูก หรือเห็นขนแมวไปติดอยู่ตามวัตถุต่าง ๆ ในห้องอยู่ดี และหากพยายามมองหาวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้
ชาวทาสแมวอาจเคยเห็นคนรีวิวเกี่ยวกับการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไว้ที่ห้อง ด้วยเป็นไอเทมที่ออกแบบมาเพื่อที่สามารถดักจับฝุ่นละออง แบคทีเรีย และเชื้อโรคโดยเฉพาะ ทั้งนี้หลาย ๆ คนก็อาจยังไม่แน่ใจว่า เครื่องฟอกอากาศกรองขนแมวได้ไหม ขนแมวที่เส้นบาง ๆ เล็ก ๆ เครื่องฟอกอากาศจะเอาอยู่จริงหรือเปล่า วันนี้นี้เราเลยขอมาคลายความสงสัยให้ทาสแมวกัน พร้อมกับทริกในการเลือกเครื่องฟอกอากาศให้ได้ฟังก์ชันครบ ช่วยลดขนแมว และฝุ่นละออง รวมถึงแบคทีเรียที่มองด้วยตาไม่เห็นได้แบบชัวร์ ๆ ตามไปดูกัน!
เครื่องฟอกอากาศกรองขนแมวได้ไหม
เครื่องฟอกอากาศ เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อดักจับฝุ่นละออง แบคทีเรีย และเชื้อโรค แม้ในระดับที่เรามองด้วยตาเปล่าไม่เห็น พร้อมช่วยลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในพื้นที่ปิดให้มีอากาศที่บริสุทธิ์ สามารถหายใจได้อย่างสะดวก โดยในเครื่องฟอกอากาศจะมีการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับช่วยในการฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียภายในตัว เช่น การติดตั้งหลอด UV ลดเชื้อโรค หรือการใช้แผ่นกรองที่กรองได้หลายระดับ เพื่อดักจับฝุ่นละออง หรืออนุภาคขนาดเล็กต่าง ๆ รวมไปถึงอาจมีการใช้ระบบการปล่อยประจุไฟฟ้าไอออนออกมาทำลายด้วย
ดังนั้นหากสงสัยว่า เครื่องฟอกอากาศกรองขนแมวได้ไหม คำตอบก็คือ สามารถกรองขนแมวได้เพราะเครื่องฟอกอากาศนั้นพัฒนาและออกแบบมาให้สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กแม้ในระดับที่ตามองไม่เห็น ครอบคลุมทั้งฝุ่นละออง เชื้อโรค แบคทีเรีย แน่นอนว่า ขนแมวที่มีเส้นเล็ก ๆ บาง ๆ ที่ปลิวอยู่ตามอากาศในห้อง จึงจะถูกลดโดยอัตโนมัติออกไปทันทีนั่นเอง
ทริกในการเลือกเครื่องฟอกอากาศ ตอบโจทย์ทาสแมว
แม้ว่าหน้าที่ของเครื่องฟอกอากาศโดยรวมจะช่วยดักจับฝุ่นละออง แบคทีเรีย ช่วยกรองขนแมวได้ และเชื้อโรคแม้ในระดับที่เรามองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่เครื่องฟอกอากาศก็มีหลากหลายรุ่น หลากหลายขนาด หลากหลายฟังก์ชันที่ขึ้นอยู่กับการใช้งาน แล้วทาสแมวควรจะเลือกติดตั้งเครื่องฟอกอากาศแบบไหนให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ลองมาดูทริกในการเลือกเครื่องฟอกอากาศง่ายๆ ตามนี้กัน
ขนาดของห้อง VS ขนาดเครื่องฟอกอากาศ
ก่อนอื่นเลย แนะนำให้ชาวทาสแมวพิจารณาขนาดห้องให้มีความสัมพันธ์กับเครื่องฟอกอากาศ เพราะปริมาณอากาศในห้องแต่ละขนาดมีความแตกต่างกัน ทั้งความหนาของผนัง ความกว้างของพื้นที่ จะเป็นตัวกำหนดประสิทธิภาพในการฟอกอากาศของเครื่องฟอกอากาศ สำหรับหลักในการวัด โดยทั่วไปมักจะคิดเป็นหน่วยตารางเมตรและอัตราการสร้างความบริสุทธิ์เป็นลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เช่น เครื่องฟอกอากาศสำหรับคอนโด ห้องนอนที่พื้นที่เล็ก ๆ เป็นพื้นที่ปิด ก็อาจจะมีฝุ่นละลอง มลพิษทางอากาศน้อยกว่าบ้าน หรือสำนักงาน ดังนั้นหากทาสแมวคนไหนที่เลี้ยงแมวในห้อง ในห้องคอนโดก็อาจเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดเล็ก ๆ ส่วนทาสแมวที่เลี้ยงในบ้าน ห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่กว้าง ก็อาจเลือกฟอกอากาศที่มีขนาดใหญ่ เพื่อเน้นการทำงานให้รวดเร็วมากขึ้นนั่นเอง
แผ่นกรอง ต้องมีความละเอียดสูง
ฟังก์ชันแผ่นกรองที่อยู่ในเครื่องฟอกอากาศมีความสำคัญมาก หากอยากมั่นใจได้ว่าเครื่องฟอกอากาศของเราสามารถกรองขนแมวได้ทุกเส้น ดักจับฝุ่นละออง เชื้อโรค แบคทีเรียต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม รวมถึงการลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ทาสแมวควรเช็กฟังก์ชันแผ่นกรองที่อยู่ในเครื่องฟอกอากาศให้มีความละเอียดสูง กรองได้หลายระดับ เช่น มี HEPA filter (High Efficiency Particulate Air Filter) แผ่นกรองอากาศที่มีคุณภาพสูง ที่ถูกออกแบบมาเพื่อดักจับอนุภาคขนาดเล็กในอากาศ โดยมีประสิทธิภาพในการกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้มากกว่า 99% เป็นต้น
ค่า Airflow หรือกำลังแรงลม
ในเครื่องฟอกอากาศ หรือเครื่องกรองอากาศจะมีค่า Air Flow หรือ Air Volume หรือกำลังแรงลมที่เป็นค่าแสดงความเร็วในการกรองอากาศ หมายความว่า ยิ่งมีค่าสูงมากเท่าไหร่ ก็แสดงว่าเครื่องฟอกอากาศสามารถทำความสะอาดอากาศ กรองขนแมว ดักจับฝุ่นละออง มลภาวะต่าง ๆ พร้อมกับปล่อยอากาศที่สะอาดออกมาได้รวดเร็วมากขึ้น นอกจากนี้ในเครื่องฟอกอากาศบางรุ่นยังสามารถปรับความแรงลมได้แบบอัตโนมัติตามความเหมาะสมด้วย เป็นอีกทางเลือกที่ทาสแมวมีไว้ อุ่นใจว่ากรองขนแมวได้อย่างรวดเร็วแน่นอน
ค่า CADR หรือปริมาณอากาศที่เครื่องฟอกอากาศสามารถกรองได้
ค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) เป็นปริมาณอากาศที่เครื่องฟอกอากาศสามารถกรอง หรือทำความสะอาดได้ เช่น เครื่องฟอกอากาศที่มีอัตราการกรองอากาศสะอาด (CADR) สูง 300 ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที แสดงว่า ใน 1 นาที เครื่องฟอกอากาศสามารถฟอกอากาศ กรองฝุ่นละอองต่าง ๆ ได้มากถึง 300 ลูกบาศก์ฟุต โดยยิ่งค่าสูง ประสิทธิภาพการฟอกอากาศก็จะสูงตาม หากอยากมั่นใจว่าขนแมวและฝุ่นละอองต่าง ๆ จะถูกดักจับได้หมด ห้องมีอากาศก็แนะนำให้เหล่าทาสแมวมองหา เครื่องฟอกอากาศที่มีค่า CADR สูง ๆ เอาไว้จะดีที่สุด
จะเห็นได้ว่า เครื่องฟอกอากาศ เป็นอีกไอเทมสำคัญที่ทาสแมวควรมีติดเอาไว้ที่ห้อง เพราะช่วยกรองขนแมวดักจับฝุ่นละออง เชื้อโรคและแบคทีเรีย แม้ในระดับที่เรามองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แถมยังช่วยลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ให้เราได้รับอากาศที่สะอาด ป้องกันอาการภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ทาสแมวอย่าลืมพิจารณาหลักในการเลือกเครื่องฟอกอากาศให้ตอบโจทย์ ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาขนาดห้องให้มีความสัมพันธ์กับเครื่องฟอกอากาศ เช็กแผ่นกรองหรือฟิลเตอร์ให้ละเอียด เลือกค่า Airflow และ CADR สูง เพื่อให้ได้รับประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด สามารถเลี้ยงเจ้าแมวเหมียวได้อย่างสบายใจ ไร้กังวลเรื่องขนแมวที่ทำให้เกิดภูมิแพ้
ข่าวล่าสุด
