เล็งเก็บ ภาษีความเค็ม เริ่มปี 68 หวังลดโซเดียมคนไทย หลังเกินมาตรฐาน 2 เท่า
กรมสรรพสามิตเล็งเก็บ “ภาษีความเค็ม” คาดเริ่มในปี 68 หวังลดโซเดียมคนไทย หลังพบเกินมาตรฐานสากล 2 เท่า มุ่งเน้นด้านสุขภาพประชาชนเป็นหลัก
วันที่ 25 ธันวาคม 2567 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต ในปีงบประมาณ 2567 จัดเก็บได้ 532,600 ล้านบาท ขณะที่เป้าหมายการจัดเก็บตามเอกสารงบประมาณของ ปี 2568 อยู่ที่ 609,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่ 16%
กรมสรรพสามิตเดินหน้าพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นนโยบาย ESG เพื่อสร้างความยั่งยืน สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเสริมศักยภาพของอุตสาหกรรมไทย พร้อมปรับปรุงการทำงานให้ทันสมัย โปร่งใส ตรวจสอบได้ และพัฒนาบุคลากรให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
นอกจากนั้นยังมุ่งมั่นดำเนินงานตามนโยบาย E และ S (Environment and Social) มุ่งมั่นขยายฐานภาษีเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ในด้าน G (Governance) จะมุ่งเน้นการปรับกระบวนการทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตทั้งด้านการบริหาร การจัดเก็บภาษี การปราบปราม และการปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ ตลอดจนการบูรณาการความร่วมมือและสื่อสารกับภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อสร้างความเข้าใจและการยอมรับร่วมกัน
ก่อนจะเผยต่อว่า ในด้านนโยบายภาษีจะใช้ภาษีสรรพสามิตเป็นเครื่องมือในการสร้างความยั่งยืน โดยการรักษาสมดุลระหว่างรายได้และผลสัมฤทธิ์ทางเศรษฐกิจเพื่อพัฒนาศักยภาพในการแข่งขัน
ในส่วนของ ภาษีโซเดียม หรือ ภาษีความเค็ม อยู่ระหว่างการศึกษาประเภทสินค้าสำเร็จรูปและการกำหนดเกณฑ์ปริมาณโซเดียมที่จะจัดเก็บ ซึ่งจะเป็นภาษีที่ต้องการมุ่งเน้นด้านสุขภาพประชาชนเป็นหลัก โดยปัจจุบันคนไทยบริโภคโซเดียมเกินมาตรฐานสากลถึง 2 เท่า
ดังนั้น เพื่อสนับสนุนให้คนไทยบริโภคโซเดียมลดลงกรมสรรพสามิตจึงได้เตรียมเก็บภาษีโซเดียม หรือภาษีความเค็มโดยอยู่ระหว่างการศึกษาประเภทสินค้าสำเร็จรูปและการกำหนดเกณฑ์ปริมาณโซเดียมที่จะจัดเก็บ ซึ่งจะเป็นภาษีที่ต้องการมุ่งเน้นด้านสุขภาพประชาชนเป็นหลัก
“ภายในปี 2568 นี้ กรมสรรพสามิตจะผลักดันการจัดเก็บภาษีโซเดียม หรือ “ภาษีความเค็ม” ให้เห็นเป็นรูปธรรม โดยรูปแบบจะเป็นสัดส่วนอัตราภาษีขั้นบันได เช่นเดียวกันกับภาษีความหวาน ที่มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาโดยจะเริ่มเก็บภาษีความเค็มจากขนมขบเคี้ยว ซึ่งไม่ได้จำเป็นต่อการดำรงชีวิต” นางสาวกุลยา กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ลูกจ้างเฮ ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คงที่ 17% หวังดึงแรงงานคุณภาพสูง
- เงื่อนไข Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษี 2568 สูงสุด 50000 บาท ช้อปอะไรได้บ้าง
- ครม.ไฟเขียว Easy e-Receipt 2.0 ลดหย่อนภาษี 68 สูงสุด 50000 บาท