ประวัติ สุนทร วิลาวัลย์ บ้านใหญ่ปราจีนบุรี อดีต รมช. พ่อบุญธรรม สจ.โต้ง
เกร็ดประวัติ สุนทร วิลาวัลย์ หรือที่รู้จักกันในนาม “โกทร” นักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลแห่งจังหวัดปราจีนบุรี ผู้โลดแล่นอยู่ในแวดวงการเมืองไทยมายาวนานกว่า 40 ปี สั่งสมชื่อเสียงและบารมี จนได้รับการขนานนามว่า “บ้านใหญ่ปราจีนบุรี”
ประวัติ สุนทร วิลาวัลย์ จุดเริ่มต้นบนเส้นทางการเมือง
สุนทร วิลาวัลย์ เกิดเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2482 ปีเถาะ ราศีเมษ (ปัจจุบันอายุ 85 ปั) ณ อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี ในครอบครัวซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดาไม่ได้มีฐานะร่ำรวยแต่อย่างใด
สุนทร สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีสาขาบริหารธุรกิจ จากสถาบันราชภัฏสวนดุสิต เมื่อปี 2543 ก่อนที่เขาจะเริ่มต้นเส้นทางการเมืองครั้งแรกในวันที่ 18 เมษายน ปี 2526 ด้วยการชนะเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปราจีนบุรี สังกัดพรรคชาติไทย
จากนั้นในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2529 สุนทร ได้ย้ายไปสังกัดอยู่ที่พรรคราษฎรอยู่เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนจะกลับมาอยู่กับพรรคชาติไทยอีกครั้ง
เรียกว่าตลอดเส้นทางอาชีพ สุนทร ผ่านการสังกัดพรรคการเมืองต่าง ๆ มากมาย เช่น พรรคราษฎร พรรคความหวังใหม่ พรรคไทยรักไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย
ต่อมาในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2539 สุนทร ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลของ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2540 (1 ปี) ต่อมาในปี 2548 สุนทร ส่ง นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ศรีจันทร์งาม บุตรสาว ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
– พ.ศ. 2540 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
– พ.ศ. 2539 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
– พ.ศ. 2510 – เหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 (เหรียญทอง)
ใบแดง พรรคแตก และคดีความ
แม้จะผ่านร้อนผ่านหนาวในแวดวงการเมืองมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ ก็เริ่มก่อตัวขึ้นในปี 2550 เมื่อ สุนทร ลงสมัคร สส. ในนามพรรคมัชฌิมาธิปไตย แต่ถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้ง หรือก็คือการได้รับ “ใบแดง” เนื่องจากกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส่งผลให้พรรคมัชฌิมาธิปไตยถูกยุบในเวลาต่อมา
จากนั้นในปี 2563 สุนทร ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี แทน บังอร วิลาวัลย์ น้องสาว ที่ถูกปลดจากตำแหน่ง เนื่องจากคดีทุจริต และในปี 2565 สุนทร ถูกออกหมายเรียกใน คดีรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่ได้เข้ามอบตัว และปฏิเสธข้อกล่าวหา
ต่อมาปี 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 2 จ.ระยอง พิพากษายกฟ้องนายสุนทร ไม่มีเจตนารู้เห็นกับการออกเอกสารสิทธิ ในคดีออกโฉนดรุกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พื้นที่ปราจีนบุรี โดยนายสุนทร ยืนยันว่าได้ที่ดินมาถูกต้อง มีหน่วยงานรัฐรู้เห็นทุกกระบวนการ
บทสรุปของ “บ้านใหญ่” แห่งปราจีนบุรี
สุนทร วิลาวัลย์ คือ นักการเมือง ที่สร้างบ้านใหญ่ในจังหวัดปราจีนบุรี เขาผ่านร้อนผ่านหนาว ในแวดวงการเมืองไทยมานาน ท่ามกลางเสียงชื่นชม และวิพากษ์วิจารณ์ เส้นทางชีวิตของ สุนทร วิลาวัลย์ สะท้อนให้เห็นถึง อำนาจ อิทธิพล และความผันผวน ในโลกการเมืองไทย
ปมคดี สจ.โต้ง ถูกยิงดับภายใน บ้านใหญ่ปราจีนบุรี
อีกหนึ่งเหตุการณ์สะเทือนขั้วอำนาจการเมืองท้องถิ่นปราจีนบุรีอีกครั้ง เมื่อคืนวันที่ 11 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 20.30 น. ภายในบ้านพักของสุนทร วิลาวัลย์ นายกอบจ.ปราจีนบุรี และ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีตรมช.ศึกษาธิการ จ.ปราจีนบุรี
เมื่อนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ลูกบุญธรรมของนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ถูกยิงเสียชีวิตหลังมีปากเสียงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นลูกน้องนายสุนทร
จากการสืบสวนเบื้องต้น เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจาก สจ.โต้ง เดินขึ้นไปส่งนายสุนทรบนชั้นสองของบ้าน และขณะเดินลงบันได ได้เกิดปะทะคารมอย่างรุนแรงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุนำโดยชายที่มีชื่อเล่นว่า “กอล์ฟ” และ “ตูน” ก่อนที่จะมีการใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. และปืนลูกซองยิงใส่ผู้ตาย
พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รรท.ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 7 คน รวมถึงนายสุนทร วิลาวัลย์ ไปสอบสวนที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี โดยมุ่งประเด็นไปที่ความขัดแย้งทางการเมืองท้องถิ่น การแจ้งข้อหายังต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างรอบคอบ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่มีเวลาควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 48 ชั่วโมงก่อนขออำนาจศาลฝากขัง โดยร่างผู้เสียชีวิตถูกนำส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง อนึ่ง ในขณะเกิดเหตุ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ ไม่ได้อยู่ในบ้านพัก
อ่านข่าวอื่น ๆ
- เปิดภาพสุดท้าย สจ.โต้ง เข้ามาดูมวย ก่อนถูกยิงดับสลดที่บ้าน สุนทร
- เปิดนาทีคุมตัว สุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีน สอบปมยิง สจ.โต้ง ดับ
- “สจ.โต้ง” ถูกยิงดับ ตำรวจคุมตัว “สุนทร” นายก อบจ.ปราจีนบุรี พร้อมลูกน้อง
ข้อมูลจาก : web.archive.org, วิกิพีเดีย, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี