บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ได้รับการพักโทษหลังติดคุก 9 ปี จากโทษ 42 ปี ในคดีจำนำข้าว ต้องติดกำไล EM คุมประพฤติ 3 ปี 5 เดือน
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับการพักโทษและปล่อยตัวจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้วในวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค. 67 หลังจากต้องโทษจำคุก 48 ปี ในคดีร่วมกันทุจริตโครงการจำนำข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)
แม้จะได้รับการปล่อยตัว แต่นายบุญทรงยังคงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของกรมคุมประพฤติ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการติด กำไล EM และให้คุมประพฤติเป็นเวลา 3 ปี 5 เดือน
ก่อนหน้านี้ นายบุญทรงได้รับพระราชทานอภัยโทษมาอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง ทำให้โทษจำคุกเหลือ 10 ปี และมีกำหนดจะพ้นโทษในวันที่ 21 เมษายน 2571
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ ยืนยันว่า การพักโทษนายบุญทรงเป็นไปตามระเบียบและดุลยพินิจของกรมราชทัณฑ์ โดยพิจารณาจากหลายปัจจัย รวมถึงสุขภาพของผู้ต้องขังด้วย
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพักการลงโทษ กระทรวงยุติธรรม ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบให้พักโทษนายบุญทรง เนื่องจากเข้าเกณฑ์การพักโทษตามระเบียบ
ประวัติ “บุญทรง” จาก 42 ปี เหลือ 9 ปี! เส้นทางคดีจำนำข้าว สู่การพักโทษ
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้มากบารมีในแวดวงการเมืองไทย เคยดำรงตำแหน่งสำคัญทั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นบุคคลใกล้ชิดกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตการเมืองของนายบุญทรง เกิดขึ้นจากคดีทุจริตโครงการจำนำข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ซึ่งนำมาสู่การชี้มูลความผิดโดย ป.ป.ช. ในปี 2558 และในเดือนสิงหาคม 2560 ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาจำคุกนายบุญทรงเป็นเวลา 42 ปี
อย่างไรก็ตาม นายบุญทรงได้รับพระราชทานอภัยโทษหลายครั้ง ทำให้โทษจำคุกเหลือเพียง 10 ปี และล่าสุดได้รับการพักโทษ โดยต้องติดกำไล EM และคุมประพฤติเป็นเวลา 3 ปี 5 เดือน
นั่นหมายความว่า จากโทษจำคุก 42 ปี นายบุญทรงรับโทษจำคุกจริงเพียง 9 ปี ก่อนจะได้รับการปล่อยตัว
คดีจำนำข้าว นับเป็นคดีสำคัญที่สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อแวดวงการเมืองไทย และจุดประกายให้เกิดการถกเถียงในประเด็นต่างๆ เช่น ความโปร่งใสในการบริหารจัดการโครงการของรัฐ บทบาทของนักการเมือง และกระบวนการยุติธรรม
การพักโทษนายบุญทรงในครั้งนี้ ย่อมได้รับความสนใจจากสังคม และเป็นที่จับตาว่าจะมีผลกระทบต่อทิศทางการเมืองไทยในอนาคตอย่างไร
อ่านข่าวอื่น ๆ
ข่าวล่าสุด
