ทนายพัช เผย ความยุติธรรมยังไม่เกิด ศาลไม่ยกประเด็นจำเลยพิจารณา
ทนายพัช เผย ความยุติธรรมยังไม่เกิด ชี้ศาลไม่ยกประเด็นจำเลยพิจารณา เตรียมสู้ต่อในชั้นอุทธรณ์ต่อไป เล่า แอมไซยาไนด์ เครียด ตาแดงก่ำ
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 67 ทนายพัช หรือ นางสาวธันย์นิชา ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังได้รับประกันตัวจากคดีซ่อนเร้นหลักฐาน สืบเนื่องจากคดีแอม ไซยาไนด์
โดย ทนายไชยยา ทนายความของทนายพัช กล่าวว่า ในส่วนคำพิพากษาในวันนี้นั้นถือเป็นดุลยพินิจของศาล เราต้องเคารพและไม่ก้าวล่วงต่อศาล เมื่อศาลใช้ดุลพินิจแบบไหนเราต้องมีหน้าที่ในการต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ต่อไป แต่อย่างไรก็ตามด้วยความเคารพต่อศาลตนไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาดังกล่าว เนื่องจากยังไม่ปรากฏประจักษ์พยานที่เห็นชัดจากฝั่งโจทก์ ที่นำมาประกอบในคำพิพากษา โดยพยานหลักฐานที่โจทก์กล่าวอ้างมีเพียงแค่แต่ไม่มีพยานที่ฝั่งจำเลยกล่าวอ้างเลย
ขณะที่ ทนายพัช กล่าวว่า พยานฝั่งจำเลย ทั้งคนติดตั้งกล้องวงจรปิดและความเห็นของหมอพรทิพย์ โดยในคำพิพากษาไม่มีการกล่าวถึงพยานส่วนนี้ของฝั่งจำเลยแม้แต่น้อย ทำให้ตนรู้สึกติดใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความเห็นในส่วนของหมอพรทิพย์ที่ไม่มีอยู่ในคำพิพากษาได้อย่างไร
ทนายไชยยา กล่าวอีกว่า ตนมองว่าทั้งพยานและคำให้การของฝั่งจำเลยนั้นได้นำเสนอแก่ศาลในชั้นพิจารณาเรียบร้อยแล้ว แต่ตนมีความเห็นว่า ศาลไม่ยกประเด็นฝั่งจำเลยมาพิจารณาเลย ศาลมองแค่จำเลยได้กระทำความผิดตามที่โจทก์กล่าวอ้างเท่านั้น โดยศาลรับฟังแต่ในส่วนที่โจทก์นำสืบพยานและในส่วนที่โจทก์ไม่ได้นำสืบพยานแต่ศาลใช้ดุลยพินิจเชื่อว่าน่าจะได้กระทำความผิดหรือมีพยานหลักฐาน
โดยในชั้นอุทธรณ์นั้น จะมีหลายประเด็นที่ต้องต่อสู้ในส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับการวินิจฉัยของศาล โดยจะเน้นพยานหลักฐานฝั่งตนที่เคยนำสืบไปแล้วมาต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ ตนคงไม่นำเสนอพยานหลักฐานใหม่ เช่น กรณีที่มีการปลอมปนยาในรถ ซึ่งฝั่งของตนมีการนำสืบว่าพบภาพวงจรปิดที่ขยายเห็นภาพภายในรถ แต่ในประเด็นดังกล่าวฝั่งโจทก์ไม่ได้นำเสนอในชั้นศาลตามที่กล่าวอ้างว่ามีการปลอมปนยาภายในรถ ทำให้ศาลเชื่อว่ามีการกระทำความผิดดังกล่าว โดยตนเชื่อว่าฝ่ายโจทก์ไม่ได้ยกประเด็นกล้องวงจรปิดมานำสืบ เพราะจะทำให้ศาลเห็นว่าจำเลยไม่มีพฤติการณ์วางยาพิษ
ทนายไชยยา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนยังได้โต้แย้งในประเด็นนี้ว่า รถดังกล่าวลูกของผู้ต้องหาก็อยู่ภายในรถด้วย แต่ไม่มีใครได้รับอันตราย เพราะถ้าหากเปิดขวดไซยาไนด์ขึ้นมา สารพิษจะต้องฟุ้งกระจายในรถแล้ว รวมทั้งผู้ที่มาตรวจรถต้องได้รับอันตรายจากสารไซยาไนด์แล้ว
เมื่อถามว่าประเด็นที่มีการพบขวดไซยาไนด์ภายในรถได้อย่างไร ด้าน ทนายพัช กล่าวว่า ทางตำรวจมีการสั่งซื้อไซยาไนด์ เมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 แล้วนำมาทดสอบในรถเพื่อประกอบในสำนวนคดี ตนมองว่าประเด็นที่สำคัญอีกก็คือไม่พบสารไซยาไนด์ในตัวของ แอม รวมทั้งเสื้อผ้าหรือที่เล็บและเสื้อผ้าของผู้ตายก็ไม่พบดีเอ็นเอของบุคคลอื่น ส่วนประเด็นที่พบว่ามีถุงดำหรือถุงมือปรากฎในข่าวนั้นก็ไม่พบดีเอ็นเอของแอมเช่นเดียวกัน
เมื่อถามว่าภายหลังศาลมีคำพิพากษาประหารชีวิต แอมมีความรู้สึกอย่างไร ทนายไชยยา กล่าวว่า แอมบอกเพียงว่า ไม่เห็นความยุติธรรมและแอมได้ทำใจไว้แล้วว่าผลพิพากษาจะต้องออกมาเป็นแบบนี้ ด้วยความเป็นผู้หญิง ไม่มีทางที่ลูกความของตนจะไม่มีความเครียด รวมทั้งแอมมีความเป็นห่วงและคิดถึง พ.ต.ท.วิฑูรย์ และทนายพัชมากกว่าตัวเอง โดยระหว่างพูดคุยหลังคำพิพากษา แอมตาแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด
ด้านทนายพัช กล่าวเสริมว่า มีคำพูดที่แอมพูดไว้ด้วยแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเกรงว่าจะละเมิดอำนาจของศาล ส่วนการต่อสู้ของตนและพ.ต.ท.วิฑูรย์ ในชั้นอุทธรณ์ ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นการช่วยปกปิดพยานหลักฐาน และทำให้ผู้กระทำความผิดไม่ต้องรับโทษ แต่ตนไม่ขอเปิดเผยข้อต่อสู้เพราะจะมีผลต่อการต่อสู้ของรูปคดี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ทนายพัช-อดีตสามีแอมไซยาไนด์ รอดนอนคุก ศาลให้ประกัน
- ด่วน! สั่งประหารชีวิต แอม ไซยาไนด์ วางยาฆ่าชิงทรัพย์เพื่อน
- สาเหตุนี้เอง ทนายพัช ถึงโดนคุก 2 ปี คดีแอม ไซยาไนด์ วางยาเพื่อน