ค้นสำนักงานทนายตั้ม ยันหลักฐานชัดแล้ว กุญแจไขคดีเงิน 71 ล้าน
ด่วน สอบสวนกลาง เข้าค้นสำนักงานกฏหมาย Sittra laws ของทนายตั้ม ษิทรา รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อัปเดตเอง หลักฐานสำคัญเจอแล้วเป็นบัญชีที่รับเงิน กุญแจสำคัญพิสูจน์ความผิด หรือบริสุทธิ์ทนายดัง
เกาะติดความคืบหน้าคดีทนายตั้ม ษิทรา และภรรยา นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด สองสามีภรรยาหลังถูกจับกุมตัวโดยมีความผิดร่วมกันใน 4 ข้อหา หลัก ๆ คือ ฉ้อโกงและร่วมกันฟอกเงินฯ โดยล่าสุด พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกล่าวหลังสอบปากคำทนายตั้มและภรรยา เมื่อคืนที่ผ่านมา นานกว่า 11 ชม. ระบุผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ ตำรวจได้ดำเนินคดีกับทนายตั้มและภรรยาใน 3 คดีหลัก ได้แก่ เรื่องของเงิน 71 ล้านบาท , เงินค่าออกแบบโรงแรม 9 ล้านบาท และเงินค่ารถเบนซ์ 13 ล้านบาท ส่วนกรณีเงิน 39 ล้านบาทยังไม่ได้ดำเนินคดีในส่วนนี้เนื่องจากอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่ม
อย่างไรก็ดีรายงานจากเพจสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ระบุ การตรวจค้นบ้านพัก 2 จุดเมื่อวานนี้ยืนยันว่าตำรวจได้ยึด “พยานหลักฐานสำคัญ” ที่สามารถใช้พิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ของทนายตั้มไว้ได้ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด และได้มีการอายัดบัญชีที่รับเงินจากฝ่ายผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพยานหลักฐานชัดเจนโดยตรงแล้ว ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ ทางเจ้าหน้าที่ ปปง. จะเป็นผู้มารับไม้ต่อ
อัปเดตล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. สอบสวนกลางได้นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในสำนักงานกฎหมาย Sitra Law ของทนายตั้ม ที่ย่านสาทร ในรายงานระบุเป็นการหาข้อมูลหลักฐานความเชื่อมโยงในคดีที่มีการฉ้อโกง “เจ๊อ้อย” และคดีเกี่ยวกับทรัพย์ โดยจะมีการตรวจยึดเอกสาร ,ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ และหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ
ขณะเดียวกันการขยายผลดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำความผิดคนอื่นๆ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยว่ายังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผล หากพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงบุคคลใดก็จะต้องดำเนินคดีเพิ่มเติม แต่ต้องขอระยะเวลาสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจนก่อน
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ได้สอบปากคำบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นความผิดแล้วจำนวน 3 คน ซึ่งจากการให้การนั้น พบส่อเจตนาพิรุธหลายประการ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ทั้งนี้ หากมีการออกหมายจับเพิ่มเติมบนสื่อโซเชียลก็มองว่าอาจทำให้ทนายตั้มเจอข้อหาเพิ่มอีกกระทางได้ อ้างอิงจากโพสต์เซบุ๊กทนายเกิดผล แก้วเกิด เคยออกความเห็นในมุมข้อกฏหมายไว้สั้น ๆ ว่ากรณีวางแผนฉ้อโกงร่วมกัน 5 คนขึ้นไป เป็นความผิดฐาน “ซ่องโจร” อีก 1 กระทง โดยก่อนหน้านี้ตัวละครปริศนาที่เคยถูกมีเอี่ยวโดนหมายจับเพราะความผิดมีส่วนเชื่อมโยงกับคดีฉ้อโกงเจ๊อ้อย แต่เป็นในส่วนคดีรอง คือ เงิน 39 ล้าน ประกอบด้วย 1.ทนายคนดัง 2.ภรรยาทนาย 3.นาย บ. 4.นางสาว ส. และนาย น. เป็นลำดับที่ 5.
อ่านข่าวเพิ่มเติม