ข่าว

รุ่นพี่เสื้อวินเทจ ปัดล่วงละเมิดเมียรุ่นน้อง เผยเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

รุ่นพี่เสื้อวินเทจ ออกมาแก้ข่าว ปัดล่วงละเมิดเมียรุ่นน้องท้อง 8 เดือน เผยตนเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ แต่ยอมรับว่ามีการทำร้ายร่างกายจริง

จากกรณีที่ เพจบ้าข่าวไปเรื่อย รายงานถึงพฤติกรรมฉาวของรุ่นพี่รายหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการคนเล่นเสื้อผ้าวินเทจ โดยไล่เรียงตั้งแต่ตอนก่อนเกิดเหตุที่มีการนัดหมายมาเคลียร์เรื่องของปัญหาหนี้สินที่อีกฝ่ายติดค้างไว้กว่าแสนบาท กระทั่งเกิดเหตุลงมือทำร้ายร่างกายไปถึงการบังคับข่มขู่แฟนสาวของผู้เสียหายกำลังตั้งท้อง 8 เดือนให้ขึ้นไปบนรถยนต์ เพื่อเป็นตัวประกันและหวังจะล่วงละเมิดทางเพศตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้

Advertisements

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อรุ่นพี่เสื้อวินเทจคนดังกล่าว โดยเจ้าตัวกล่าวว่าตนรู้สึกช็อก หลังจากที่เห็นสื่อโซเชียลเอาเรื่องราวไปลง แล้วมีคนเข้ามาด่าจำนวนมาก เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น จริงๆเป็นการนัดชำระหนี้กัน มีการจัดงานเสื้อผ้าวินเทจ ซึ่งน้องเป็นพ่อค้าจะมาเที่ยวอยู่แล้ว และหนี้สินที่เกิดขึ้นก็มาจากเสื้อผ้าที่ขายกัน มีรุ่นพี่อีกคนมานั่งดื่มกินกัน ก่อนที่น้องจะมาถึงช่วงเวลาประมาณตีหนึ่ง รุ่นพี่ที่ดื่มอยู่ก็ได้ชวนไปดื่มกันที่หน้าโรงแรมจนถึงเช้า แต่เนื่องจากเป็นวันเสาร์ ทำให้ไม่มีห้องว่าง ตนก็ถามรุ่นน้องว่าไปนอนบ้านตนไหม และรุ่นน้องก็บอกว่าไปนอนที่บ้านตนก็ได้ จังหวะนั้นตนถามเรื่องเงิน เพราะไม่เห็นมีการพูดเรื่องเงิน แต่น้องไม่มีเงิน ตนจึงโมโห และตบตีคู่กรณี ยอมรับว่ามีการทำร้ายร่างกายจริง

ส่วนเรื่องที่กล่าวหาว่าตนขู่บังคับขอมีอะไรกับเมียรุ่นน้องที่ท้อง 8 เดือน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะตนมีโรคประจำตัว เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ยอมรับที่ทำร้ายร่างกายทำไปเพื่อข่มขวัญจะเอาเงิน แต่ทางรุ่นน้องไม่ใช้หนี้เลย บอกแต่ว่ายังไงก็จะเอาเงินมาใช้หนี้ ตนจึงได้ถามว่าจะหาเงินมาจากไหน ซึ่งรุ่นน้องก็บอกว่าจะเอารถไปจำนำกับญาติ ตนก็ยังเป็นห่วงและยังได้ถามอีกว่าจะขับรถไหวไหม รุ่นน้องก็ตอบว่ากลับไหว ตนบอกว่าถ้าจะกลับก็ให้แฟนอยู่ที่นี่ก็ได้ จะได้ไม่ต้องเดินทางลำบาก หลังจากตนใจเย็นลง บอกน้องว่าถ้าติดใจเอาความเรื่องทำร้ายร่างกาย สามารถไปแจ้งความได้ หลังจากนั้น รุ่นน้องได้นำเงินมาจ่าย 100,000 กว่าบาทและใช้หนี้ตนจนหมด

หลังจากนั้น รุ่นน้องยังมาขอโทษตน และตนก็ขอโทษกลับ คิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว เพราะต่างคนต่างจบ เรื่องข่มขืน ไม่เป็นความจริงแน่นอน เพราะมีพยานอยู่ด้วยกันหลายคน ตนอยากแก้ข่าว เพราะตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ยอมรับผิดที่ทำร้ายร่างกายทวงเงิน ส่วนเรื่องที่กล่าวหาว่าตนมีแบ็กใหญ่และตำรวจหนุนหลัง ก็ไม่เป็นความจริง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Advertisements

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button