รมว.พม. อัปเดตความคืบหน้ากรณีช่วยเหลือ ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบรถบัสไหม้ ส่งทีม พมจ. เข้าดูแลสภาพจิตใจพร้อมพิจารณาเงินสงเคราะห์ 5 กรณี
วันนี้ (8 ต.ค.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พม. เผยความคืบหน้าการช่วยเหลือครอบครัวผู้ได้รับกระทบเหตุเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษาว่า ตนได้ลงพื้นที่ จ.ปทุมธานี และสั่งการทีมเจ้าหน้าที่พมจ.ปทุมฯ ดูแลผู้ได้รับผลกระทบที่อยู่ในโรงพยาบาลและศูนย์อำนวยการฉุกเฉิน
พร้อมระดมทีมเจ้าหน้าที่ทีม พมจ.อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ สุพรรณบุรี และสิงห์บุรี ทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพในศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุใหญ่ทางถนน และดำเนินการเยียวยาจิตใจครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 36 รายจาก 3 ขบวนที่รถบัสเกิดเหตุ
ส่วนการช่วยเหลือรูปแบบเงินสงเคราะห์นั้น ทางกระทรวงฯได้พิจารณาออกเป็น 5 หมวดซึ่งมีลิสต์และจำนวนครอบครัวที่ได้รับดังนี้
- เงินสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน จำนวน 23 ครอบครัว
- เงินสงเคราะห์เด็ก 25 ราย 14 ครอบครัว
- เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุในภาวะยากลำบาก จำนวน 21 ครอบครัว
- โครงการปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุให้เหมาะสมและปลอดภัย จำนวน 1 ครอบครัว
- เงินสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ จำนวน 2 ราย
อีกทั้ง พม. ยังประสานงานต่อที่ทำงานของผู้ปกครองสำหรับสิทธิลาพิเศษ เพื่อไปเยี่ยมและดูแลบุตรหลาน โดยไม่ให้ถือเป็นการลา และสำหรับเด็กที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เจ้าหน้าที่ได้จัดสถานที่ให้กับผู้ปกครอง ซึ่งเป็นที่พักของสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี หากผู้ปกครองคนใดต้องการไปเยี่ยมบุตรหลาน หรือ เฝ้าอย่างใกล้ชิดก็สามารถใช้พื้นที่นี้ในการพักอาศัยเบื้องต้นได้
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ-รมว. คมนาคม ยังเคยเผยว่าคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี มีมติมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กรณี ดังนี้
1. กรณีเสียชีวิต เป็นค่าจัดการศพ รายละ 2,400,000 บาท
2. กรณีบาดเจ็บสาหัส รายละ 700,000 บาท
3. กรณีบาดเจ็บเล็กน้อย รายละ 200,000 บาท
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เจ้าของรถบัส มอบเงินครอบครัวผู้สูญเสีย ปัดตอบสาเหตุเพลิงไหม้
- ‘โป๊ปฟรานซิส’ แสดงความเสียพระทัย เหตุรถบัสไฟไหม้ คร่า 23 ชีวิต
- รัฐบาล มอบเงินเยียวยา ครอบครัวผู้ประสบภัย ไฟไหม้รถบัส สูงสุด 2.4 ล้านบาท
