แสบ หนุ่มใหญ่อ้างเป็น “นักบวชใจบุญ” ตุ๋นเงินซื้อเสื้อผ้าบริจาคคนจน
ตามตะครุบตัว หนุ่มใหญ่ อ้างเป็นนักบวชใจบุญ ตุ๋นเงินผู้เสียหายหลอกเอาเงิน อ้างนำไปซื้อเสื้อผ้าบริจาคคนยากจน อีกรายหลอกให้เอารถไปรีไฟแนนซ์
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม นายสมปอง (สงวนนามสกุล) กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” โดยจับกุมได้ที่ บ้านแห่งหนึ่ง ถ.ดอนรุน ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง จว.พัทลุง สืบเนื่องจากปี 2563 ผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดี นายสมปองฯ และนางไอซ์ (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) คู่สามีภรรยา
โดยรายแรกผู้ต้องหาอ้างกับผู้เสียหายว่าเนื่องจากญาติได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์รักษาตัว ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ โดยผู้ต้องหาต้องนำธนบัตรไปพับนกเพื่อภาวนาให้หายจากอาการเจ็บป่วย และได้บอกอีกว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้นับถือศาสนาคริสต์และตนกำลังบวชอยู่ ใช้เงินได้วันละไม่เกิน 3,000 บาท จึงได้ให้ผู้เสียหายช่วยหาเงินให้กับผู้ต้องหาทั้งสองก่อนเมื่อสึกจากการบวชก็จะนำมาคืนให้ ซึ่งผู้เสียหายบอกว่า ตนไม่มีเงิน มีเพียงรถยนต์ของบุตรสาว ผู้ต้องหาจึงแนะนำให้ผู้เสียหายเอารถยนต์ไปรีไฟแนนซ์แล้วนำเงิน มาให้ตนก่อนและผู้ต้องหาทั้งสองจะผ่อนชำระค่าเช่าซื้อด้วยตนเอง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ เมื่อได้เงินมาแล้ว ผู้เสียหายได้นำเงินจำนวน 130,000 บาท มาให้กับผู้ต้องหา
รายที่สอง ผู้ต้องหาอ้างกับผู้เสียหายว่าจะนำเสื้อผ้าไปแจกให้กับคนยากจน หากผู้เสียหายมีเสื้อผ้าอยู่แล้วจะนำไปแจกให้กับคนยากจนก่อนหลังจากที่สึกแล้วจะนำเงินมาชำระค่าเสื้อผ้าให้ จากนั้นผู้เสียหายไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านมาให้ ซึ่งค่าเสื้อผ้ามูลค่า 5,000 บาท ต่อมาเดือนพฤษภาคม 2562 ผู้ต้องหาอ้างเหตุผลเดิมเหมือนเช่นครั้งก่อน ผู้เสียหายจึงได้ไปซื้อเสื้อผ้าที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จำนวน 20,000 บาท เพื่อเอาไปให้ผู้ต้องหานำไปบริจาค
ต่อมาช่วงเดือนมิถุนายน 2562 ผู้ต้องหาออกอุบายบอกกับผู้เสียหายว่าลูกน้อง 2 คน ได้เกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำถึงแก่ความตาย ผู้ต้องหาจึงนำเสื้อผ้าไปแจกให้กับผู้ที่มาร่วมงานศพ โดยอ้างเหตุผลเดิมว่า กำลังบวชอยู่ไม่สามารถใช้เงินได้เกินวันละ 3,000 บาท หลังจากที่สึกออกมาจะนำเงินมาชำระให้ ภายหลัง ผู้เสียหายหลงเชื่อยังนำผู้ต้องหาไปซื้อเสื้อผ้าที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และที่อื่นๆ อีก 13 ครั้ง รวมมูลค่าทั้งหมด 485,500 บาท
จากนั้นเมื่อเวลาล่วงเลยมาพอสมควรผู้เสียหายทั้ง 2 ราย จึงได้ติดต่อทวงถามเกี่ยวกับเงิน จำนวนดังกล่าวแต่ผู้ต้องหาทั้งสองก็ได้บ่ายเบี่ยงเรื่อยมาจนไม่สามารถติตต่อได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกผู้ต้องหาหลอกลวง โดยทราบว่าผู้ต้องหาไม่ได้บวชในศาสนาคริสต์ ที่จะต้องใช้เงินได้ไม่เกินวันละ 3,000 บาทจริง และลูกน้องก็ไม่ได้ถึงแก่ความตาย ไม่ได้นำเอาเสื้อผ้าไปบริจาคตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างแต่อย่างใด จึงเข้า แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ภ.จว.นนทบุรี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจ กก.6 บก.ป. สืบทราบว่านายสมปองฯ ผู้ต้องหาหลบหนีมาพักอาศัย อยู่กับมารดาในพื้นที่ จ.พัทลุง จึงเข้าตรวจสอบและจับกุมดังกล่าว.