โรคฉี่หนูระบาดอีสาน ป่วยเกือบร้อย เสียชีวิต 2 ราย เช็กอาการ-วิธีป้องกัน
โรคไข้ฉี่หนู ระบาดหนัก 4 จังหวัดภาคอีสาน พบผู้ป่วยเกือบร้อย เสียชีวิตแล้ว 2 ราย กรมควบคุมโรคแนะสังเกตอาการเบื้องต้น พร้อมวิธีการป้องกันที่ถูกต้อง
เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อํานวยการสํานักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวว่า ช่วงนี้โรคฉี่หนูกำลังแพร่ระบาด เนื่องจากประเทศไทยมีฝนตกหนักและน้ำท่วมขัง หากเดินลุยน้ำหรือโคลนด้วยเท้าเปล่า อาจทำให้เชื้อโรคไข้ฉี่หนูปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายได้
สถานการณ์โรคไข้หนูในเขตสุขภาพที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 2 กันยายน 2567 พบผู้ป่วยจำนวน 98 ราย เสียชีวิต 2 ราย แยก เป็นรายจังหวัด ดังนี้ 1) จ.นครราชสีมา มีผู้ป่วย 36 ราย เสียชีวิต 1 ราย 2) จ.บุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 23 ราย 3) จ.สุรินทร์ มีผู้ป่วย 20 ราย เสียชีวิต 1 ราย 4) จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วย 19 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์
กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ กลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 55-64 ปีขึ้นไป และ 45-64 ปี ตามลําดับ
สำหรับ โรคไข้ฉี่หนู มักแพร่ระบาดในฤดูฝนหรือเกิดพายุมรสุม เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในปัสสาวะของสัตว์ เช่น หนู หมู วัว ควาย สุนัข แพะ แกะ และปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำ ลำคลอง แอ่งน้ำขังเล็ก ๆ และพื้นดินโคลนที่ชื้นแฉะ ซึ่งเชื้อโรคจะอยู่ได้นานเป็นเดือน สามารถเข้าสู่ร่างกายคนได้ทางบาดแผลหรือรอยถลอก รอยขีดข่วน หรืออาจชอนไชผ่านผิวหนังที่อ่อนนุ่มจากการแช่น้ำนาน ๆ หรือรับประทานอาหารและดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ
อาการของโรคฉี่หนู
1. ในระยะแรกผู้ป่วย จะมีอาการคล้ายกับโรคติดเชื้อทั่วไป แต่สังเกตความแตกต่างได้ คือ หลังติดเชื้อประมาณ 2-10 วัน จะเริ่มมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะอย่าง รุนแรง ปวดเมื่อยตามตัว โดยเฉพาะบริเวณน่องและโคนขา ร่วมกับมีอาการหนาวสั่น
2. อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และ ตาแดง หากมีอาการดังกล่าวหลังเดินลุยน้ำโคลนหรือแช่น้ำนานให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว และแจ้งประวัติการเดินลุยน้ําหรือโคลนให้แพทย์ทราบ อย่าซื้อยามารับประทานเอง เพราะทำให้อาการรุนแรง เช่น ตับไตวาย ซึ่งข้อมูลการเสียชีวิตเกิดจากการชะล่าใจและมาพบแพทย์ช้า
5 วิธีง่าย ๆ ป้องกันโรคฉี่หนู
1. หลีกเลี่ยงการแช่น้ำเป็นเวลานาน หรือเดินลุยน้ำ ย่ำโคลนด้วยเท้าเปล่า โดยเฉพาะผู้ที่มีบาดแผลหรือรอยขีดข่วนที่เท้าต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หากจํำเป็นต้องเดินลุยน้ำควรสวมรองเท้าบูต หากมีบาดแผลควรปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ รีบทำความสะอาดบาดแผลและร่างกายหลังลุยน้ำ
2. ล้างมือ อาบน้ำ เมื่อลุยน้ำมา ต้องชำระล้างร่างกายทันที หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่
3. รับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ อาหารค้างมื้อควรเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด และอุ่นให้เดือดก่อนรับประทาน หากทานผัก ผลไม้ต้องล้างให้สะอาดก่อน
4. หากทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลดควรสวมถุงมือยางและรองเท้าบูท เก็บขยะ เศษอาหารในถังที่มีฝาปิดมิดชิด หรือทิ้งในถุงพลาสติกและมัดปากถุงให้แน่น เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหนู
5. หากมีไข้สูง ร่วมกับปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อโดยเฉพาะที่น่อง หลังสัมผัสพื้นที่น้ำขัง/ดินที่มีโอกาส ปนเปื้อนปัสสาวะสัตว์ ห้ามซื้อยามารับประทานเองเพราะอาจทำให้โรครุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติเสี่ยงให้ทราบ
ข้อมูลจาก Facebook : สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง