ยานยนต์สปอนเซอร์

รวมรถยนต์ 7 ที่นั่ง มือสอง ประหยัด คุ้มค่า ตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่

สำหรับครอบครัวใหญ่ การมีรถยนต์ที่สามารถรองรับทุกคนได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยในการเดินทางเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ดังนั้น รถยนต์ 7 ที่นั่ง จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ แต่หากต้องการประหยัดงบประมาณด้วยแล้ว รถมือสองคุณภาพดีก็เป็นอีกทางเลือกที่คุ้มค่า วันนี้ทีมงาน Thaiger ได้รวบรวม 8 รุ่นรถมือสอง 7 ที่นั่ง จากเต็นท์รถคุณหญิง ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องราคาเริ่มต้นที่หลักแสน ความคุ้มค่า และประหยัดน้ำมัน มาให้พิจารณากัน

1. Mitsubishi Xpander 1.5 GT

เริ่มต้นกันที่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ (Mitsubishi Xpander) รถอเนกประสงค์เปิดตัวปี 2019 มีความทันสมัยสไตล์อวกาศ โดดเด่นในเรื่องความใหญ่โตอลังการเกินรถระดับเดียวกัน มาพร้อมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ

Advertisements

เริ่มต้นกันที่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ (Mitsubishi Xpander) รถอเนกประสงค์เปิดตัวปี 2019

จุดเด่นการออกแบบภายนอกและภายใน

ดีไซน์ภายนอกมีความสูงจากพื้นมากกว่ารถยนต์ในกลุ่มเดียวกันที่ 205 มม. ลักษณะการออกแบบเป็น Advanced “Dynamic Shield” เน้นวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ไฟหรี่เป็นสไตล์ Crystal LED ไฟหน้าเป็นมัลติรีเฟลกเตอร์แบบฮาโลเจน พร้อมไฟตัดหมอก กระจังหน้ารูปตัว “X” กันชนทรงสปอร์ต ไฟท้ายแบบ LED ทรงคล้ายบูมเมอแรง กระจกมองข้างขนาดใหญ่โต ประตูทั้ง 4 บานมีขนาดใหญ่ขึ้นลงได้สะดวก ประตูท้ายกว้างขวาง

ด้านการออกแบบภายในเน้นการใช้งานพื้นที่กว้างขวาง คอนโซลหน้าออกแบบให้หรูหรามากขึ้น ใช้วัสดุค่อนข้างดีงานประกอบนับว่าใช้ได้ พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันควบคุมทั้งเครื่องเสียง หน้าจอแสดงผล และครุซคอนโทรล พร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์

พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันควบคุมทั้งเครื่องเสียง หน้าจอแสดงผล และครุซคอนโทรล พร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์

Advertisements

ในส่วนของเบาะคู่หน้าขนาดใหญ่นั่งสบายแบบปรับมือ พร้อมปรับระดับสูงต่ำทางด้านเฉพาะคนขับ แผงประตูฝั่งคนขับมีปุ่มควบคุมล็อคประตู ทางด้านขวาคอนโซลหน้ามีปุ่ม PUSH Start, ปรับกระจกมองข้างและสวิตช์เปิด-ปิดแทรคชั่นคอนโทรล

ตอนหลังมีระบบแอร์แยกไว้ให้สามารถปรับแรงลมได้เพียงอย่างเดียว พร้อมช่องแอร์แบบ 4 ช่องเรียงกัน เบาะตอนสองพับแยกแบบ 40 : 20 : 40 ระบบ One Step เบาะที่นั่งแถวที่ 3 พับ 50 : 50 และแบบแนวราบได้ ด้านหลังมีที่เก็บของเล็ก ๆ ใส่รองเท้าและของกระจุกกระจิกพร้อมฝาปิด ตอบโจทย์การเดินทางไปท่องเที่ยวในกลุ่มครอบครัวใหญ่หรือสายขนของก็หายห่วง

อนหลังมีระบบแอร์แยกไว้ให้สามารถปรับแรงลมได้เพียงอย่างเดียว พร้อมช่องแอร์แบบ 4 ช่องเรียงกัน เบาะตอนสองพับแยกแบบ 40 : 20 : 40 ระบบ One Step เบาะที่นั่งแถวที่ 3 พับ 50 : 50

ภาพรวม Mitsubishi Xpander 1.5 GT

เอ็กแพนเดอร์ มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน DOHC MIVEC ขนาด 1.5 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ให้ความแรงและประหยัดน้ำมัน ผนวกกับระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และจุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX จำนวน 2 ตำแหน่ง เสริมด้วยกล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด และจอแสดงผลขนาด 4.2 นิ้ว ช่วยให้การถอยจอดเป็นเรื่องง่าย มีปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ใช้งานง่ายและสะดวก ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย และลำโพง 6 ตำแหน่งให้เสียงเพลงคุณภาพ

  • สนนราคาอยู่ที่ 499,000 บาท

2. FORD Everest 3.2 Titanium+

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ (Ford Everest) รุ่น Titanium+ 2018 เป็นตัวท็อปจากปี 2018 เครื่องยนต์ดีเซลแบบ 5 สูบ ขนาด 3.2 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า ระบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบอัตโนมัติ ซึ่งมีให้เลือกตามสภาพการขับขี่ 4 โหมด คือ ทางเรียบ, พื้นทราย, โคลน/หิมะ และปีนป่ายหินขรุขระ ซึ่งจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวนั้น ๆ

รถคันนี้ยังระบบล็อคเฟืองท้ายแบบช่วยให้ล้อคู่หลังหมุนด้วยความเร็วเท่ากัน ทำให้สามารถปีนป่ายข้ามอุปสรรคได้ง่าย, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา ที่สามารถปรับตั้งความเร็วขณะลงได้ และระบบช่วยการออกตัวขณะจอดรถบนทางลาดชัน ขณะที่ตัวรถมีความสูงจากพื้นถนน 225 มิลลิเมตร สามารถรองรับการลุยน้ำด้วยความลึก 800 มิลลิเมตร โดยไม่สร้างความเสียหาย

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ (Ford Everest) รุ่น Titanium+ 2018 เป็นตัวท็อปจากปี 2018 เครื่องยนต์ดีเซลแบบ 5 สูบ ขนาด 3.2 ลิตร

โดดเด่นด้วยการออกแบบห้องโดยสารภายใน

ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งอย่างหรูหราและทันสมัย จัดวางเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง โดยเบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถปรับ-พับด้วยไฟฟ้า และสามารถพับเรียบไปกับพื้นห้องโดยสารได้เมื่อไม่ใช้งาน ติดตั้งหลังคาพาโนรามิคมูนรูฟไฟฟ้าขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถเปิดแผ่นม่านกรองแสงได้จนถึงเบาะนั่งแถวที่ 3 ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งภายในห้องโดยสาร อีกทั้งยังติดตั้งช่องจ่ายไฟขนาด 230 โวลต์ บริเวณเบาะนั่งแถวที่สอง จึงช่วยให้สามารถชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างสมาร์ทโฟนหรือโน๊ตบุ๊คคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็วทันใจ

ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งอย่างหรูหราและทันสมัย จัดวางเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง

ระบบสั่งการด้วยเสียง พร้อมตัดเสียงรบกวนจากภายนอก

บริเวณคอนโซลหน้าถูกติดตั้งระบบ SYNC 3 ที่แสดงผลผ่านหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ด้วยคำพูดที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งหน้าจอที่ว่านี้จะถูกใช้สำหรับควบคุมระบบปรับอากาศในรถด้วย โดยที่ SYNC 3 ยังรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay หรือ Android Auto ได้ ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อสื่อความบันเทิงในขณะขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริเวณคอนโซลหน้าถูกติดตั้งระบบ SYNC 3 ที่แสดงผลผ่านหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว

ด้านกำลังเสียงถูกกระจายผ่านลำโพงทั้งหมด 10 จุด พร้อมซับวูฟเฟอร์ ซึ่งสามารถปรับแต่งเสียงได้ตามความต้องการ ตัดเสียงรบกวนจากภายนอก (Active Noise Cancellation) อารมณ์แบบหูฟังราคาแพง ๆ ซึ่งจะส่งคลื่นเสียงไปหักล้างกับเสียงรบกวนที่เล็ดลอดมาจากภายนอก ทำให้ห้องโดยสารเงียบขึ้นกว่าปกติ รวมถึงยังพัฒนาซีลกันเสียงและวัสดุดูดซับเสียงภายในห้องโดยสารให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นอีกด้วย

  • สนนราคาอยู่ที่ 759,000 บาท

3. TOYOTA Veloz 1.5 Premium

โตโยต้า เวลอส 1.5 พรีเมียม (Toyota Veloz 1.5 Premium) Veloz รถยนต์ 7 ที่นั่ง จากปี 2022 ที่ตอบโจทย์สำหรับครอบครัวที่ต้องการรถยนต์ขนาดพอเหมาะ สามารถไปไหนมาไหนได้ทั้งครอบครัว ครอบคลุมทั้งการขับขี่ไปทำงานในช่วงวันธรรมดา และขับไปเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงวันหยุด มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (บนเพดาน), ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, เข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด 7 ที่นั่ง, ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยทั้ง 7 ที่นั่ง, กล้องมองภาพถอยจอด พร้อมเซนเซอร์กะระยะ, ระบบเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Monitor และ ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง Rear-Cross Traffic Alert เป็นต้น

โตโยต้า เวลอส 1.5 พรีเมียม (Toyota Veloz 1.5 Premium) Veloz รถยนตร์ 7 ที่นั่ง จากปี 2022

พื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสารตอบโจทย์การใช้งานทั้งครอบครัว

จุดเด่นของ Veloz คือเรื่องพื้นที่ใช้สอยที่พอเพียงของห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง เบาะแถวที่สามมีพื้นที่ไม่มากเหมาะสำหรับให้เด็กนั่ง ยกระดับความอเนกประสงค์เพิ่มเติมหลายจุด ด้วยขนาดของตัวถังที่ใหญ่ขึ้น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ Toyota เพิ่มเข้ามาให้อย่างเต็มที่ และการขับขี่ในความเร็วสูงโดยเฉพาะการทรงตัวในทางโค้ง เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ของ Veloz มีกำลังไม่มากนัก แต่ก็พอจะเอาตัวรอดบนถนนที่เป็นเนินสูงชัน เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียงสี่สูบความจุ 1.5 ลิตร ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงใช้ได้แม้ไม่มีระบบไฮบริดคอยช่วยเหลือ

จุดเด่นของ Veloz คือเรื่องพื้นที่ใช้สอยที่พอเพียงของห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง เบาะแถวที่สามมีพื้นที่ไม่มากเหมาะสำหรับให้เด็กนั่ง

ทั้งนี้ Toyota Veloz ติดตั้งมาตรวัดสำหรับแสดงความเร็วเป็นแบบดิจิทัล ขณะที่มาตรวัดรอบเครื่องยนต์จะแสดงบนหน้าจอ MID แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้ 4 รูปแบบตามความชื่นชอบ ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ เช่น เปลี่ยนเสียงไฟเลี้ยวได้ 3 แบบ, เปิด-ปิดระบบไฟเลี้ยว 3 ครั้ง, ปรับระดับเสียงการแจ้งเตือนฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

ขณะที่พวงมาลัยเป็นแบบ 3 ก้านหุ้มวัสดุหนัง เสริมด้วยเว้าบริเวณ 10 และ 2 นาฬิกาช่วยให้จับได้อย่างถนัดมือมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถปรับระดับได้ถึง 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง-เข้า-ออก) จึงสามารถปรับให้เหมาะกับสรีระแต่ละคนได้ไม่ยาก โดยมีปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและรับสาย-โทรออกติดตั้งอยู่บนพวงมาลัย รวมถึงปุ่ม “DRIVE” สำหรับปรับโหมดการขับขี่ ECO และ POWER ซึ่งความแปลกของ Veloz คือรถคันนี้สามารถเปิดทั้ง 2 โหมดไปพร้อมกันได้ หน้าจอเครื่องเสียงของ Veloz รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ได้ ให้ความละเอียดคมชัดดี มาพร้อมลำโพงทั้งหมด 6 จุดรอบห้องโดยสาร ให้คุณภาพเสียงระดับพอใช้

ขณะที่พวงมาลัยเป็นแบบ 3 ก้านหุ้มวัสดุหนัง เสริมด้วยเว้าบริเวณ 10 และ 2

เครื่องยนต์และช่วงล่างที่ทนทาน

Toyota Veloz ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ Dual VVT-i ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที พร้อมทั้งหันไปใช้เกียร์อัตโนมัติ CVT จากเดิมที่เป็นเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดในรุ่น Avanza ซึ่งตามหลักแล้วจะช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองลง รวมถึงเพิ่มความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์เพิ่มมากขึ้น โดยโตโยต้าเคลมอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเอาไว้ที่ 17.9 กม./ลิตร

สำหรับช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชันบีมและคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ติดตั้งระบบดิสก์เบรกมาให้ทั้ง 4 ล้อ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อนได้ดีกว่าระบบดรัมเบรก

  • สนนราคาอยู่ที่ 719,000 บาท

4. Isuzu Mu-x 1.9 Active 2WD

อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ 1.9 แอคทีฟ 2WD (Isuzu Mu-x 1.9 Active 2WD) รถยนต์อเนกประสงค์ (PPV) ที่ได้รับความนิยมในตลาดรถยนต์ไทย ด้วยราคาที่จับต้องได้และสมรรถนะที่น่าประทับใจ ทำให้ MU-X 1.9 Active 2WD เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ครอบครัวหรือรถสำหรับใช้งานอเนกประสงค์

อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ 1.9 แอคทีฟ 2WD (Isuzu Mu-x 1.9 Active 2WD) รถยนต์อเนกประสงค์ (PPV) ที่ได้รับความนิยมในตลาดรถยนต์ไทย

ดีไซน์ภายนอกและภายใน

มาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัยและดุดัน ไฟหน้าและไฟท้าย LED ให้ความสว่างและเพิ่มความสวยงาม ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบาย เบาะนั่งนุ่มสบายและสามารถปรับได้หลายระดับ ระบบเครื่องเสียงรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และ USB

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบาย เบาะนั่งนุ่มสบายและสามารถปรับได้หลายระดับ

สมรรถนะของ MU-X 1.9 Active 2WD

ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อขับเคลื่อน เกียร์ 6 สปีด อัตโนมัติ เครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ดีเซลของ MU-X 1.9 Active 2WD ความจุถังน้ำมัน 76 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าและแรงบิดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป อัตราเร่งดีเยี่ยมและการประหยัดน้ำมันอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ระบบช่วงล่างนุ่มสบายและช่วยให้การขับขี่มีความนิ่งและมั่นใจ

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก

Isuzu MU-X 1.9 Active 2WD มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบเบรก ABS, ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบป้องกันการลื่นไถล, กล้องมองหลัง, เซ็นเซอร์ถอยหลัง, และระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto

  • สนนราคาอยู่ที่ ราคา 879,000 บาท

5. Honda CR-V 2.4 EL AWD

ฮอนด้า ซีอาร์-วี 2.4 อีแอล เอดับบิวดี (Honda CR-V 2.4 EL AWD) อีกหนึ่งรถครอบครัว 7 ที่นั่ง เบาะกว้างขวาง จะเลือกนั่ง หรือขนของ ก็สบาย มีเบาะนั่งคู่หน้าที่สบายเนื้อสบายตัว การออกแบบเบาะและการจัดวางตำแหน่งท่านั่งที่ดี เบาะหนังสังเคราะห์นุ่มหนา นั่งยาวๆ ได้ทั้งวัน และเป็นเบาะปรับไฟฟ้า อุปกรณ์ที่เหมาะกับการขับเคลื่อนทั้งในและนอกเมือง นอกจากจะเป็นเบาะนั่งที่ดีเลิศแล้ว ช่วงล่างของมันกับชุดบังคับเลี้ยวยังปรับให้มีอารมณ์คล้ายกับรถยุโรปอีกด้วย

ฮอนด้า ซีอาร์-วี 2.4 อีแอล เอดับบิวดี (Honda CR-V 2.4 EL AWD) อีกหนึ่งรถครอบครัว 7 ที่นั่ง

สมรรถนะ ของ CR-V 2.4 EL AWD

เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร 4 สูบของ CR-V 2.4 EL AWD ให้กำลังและแรงบิดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป อัตราเร่งดีเยี่ยมและการประหยัดน้ำมันอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ระบบช่วงล่างนุ่มสบายและช่วยให้การขับขี่มีความนิ่งและมั่นใจ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อขับเคลื่อนช่วยให้การขับขี่บนทางลื่นและทางชันมีความปลอดภัยมากขึ้น ด้วยความที่ไม่ได้เป็นรถลุยเต็มรูปแบบเหมือน PPV-SUV แต่ใช้ขับฝ่าทางลูกรังขรุขระได้ ใช้ลุยน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ก็ยังพอทำได้ จากความสูง 208 มิลลิเมตร เมื่อวัดจากใต้ท้องรถถึงพื้นถนน

จุดเด่นคือความเอนกประสงค์ของห้องโดยสารจากพื้นที่อันกว้างขวางสะดวกสบาย ไม่ว่าจะขนคน หรือขนของ

ดีไซน์ภายใน-ที่นั่งห้องโดยสาร

จุดเด่นคือความเอนกประสงค์ของห้องโดยสารจากพื้นที่อันกว้างขวางสะดวกสบาย ไม่ว่าจะขนคน หรือขนของ เบาะหลังแถวที่สอง นั่งได้สบายตัว พื้นที่ของเบาะแถวที่สาม เมื่อพับเบาะก็จะสามารถขนสัมภาระเพิ่มได้อย่างจุใจ นอกจากนั้น พื้นที่เหนือศีรษะก็ยังโปร่งโล่งมากกว่ารถเก๋งขนาดกลางอย่างเห็นได้ชัด

  • สนนราคาอยู่ที่ 699,000 บาท

6. Mazda CX-8 2.5 S

มาสด้า ซีเอ็กซ์-8 2.5 เอส (Mazda CX-8 2.5 S) เอสยูวีแบบที่นั่ง 3 แถว การันตีด้วยรางวัล CAR OF THE YEAR 2021 ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โอ่อ่า ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ด้วยแนวคิดภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” ที่เน้นความเรียบง่าย แต่งดงาม บ่งบอกสไตล์พรีเมี่ยม และรสนิยมเหนือระดับ ทั้งดีไซน์ภายนอก สู่ภายในห้องโดยสาร

มาสด้า ซีเอ็กซ์-8 2.5 เอส (Mazda CX-8 2.5 S) เอสยูวีแบบที่นั่ง 3 แถว การันตีด้วยรางวัล CAR OF THE YEAR 2021

สมรรถนะของ Mazda CX-8 2.5 S

เครื่องยนต์ ขนาด 2.2 ลิตร พร้อมเทอร์โบแปรผัน ให้พละกำลังถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 17.5 กม./ลิตร และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งยังมีการติดตั้งระบบช่วยป้องกันล้อหมุนฟรีแบบ Off-Road Traction Assist เพิ่มเติมในรุ่นที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ i-ACTIV AWD โดยเฉพาะในทางโค้งและในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น

องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง แยกอิสระซ้าย-ขวาที่สามารถเดินเชื่อมต่อถึงเบาะนั่งแถวที่สาม

ดีไซน์ห้องโดยสารและห้องคนขับ

ตอบโจทย์ทุกความสะดวกสบายกับห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง แยกอิสระซ้าย-ขวาที่สามารถเดินเชื่อมต่อถึงเบาะนั่งแถวที่สาม เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระและตอบโจทย์ทุกการใช้งานของคุณและครอบครัวได้มากขึ้น โดยสามารถพับเบาะนั่งได้อย่างแบนราบ และแยกพับอิสระจากกันพร้อมคอนโซลกลาง

มาพร้อมกับเทคโนโลยีเชื่อมต่อ สามารถอัปเดตข้อมูลข่าวสาร หรือ รับ-ส่ง ข้อความ จากสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth และเพลิดเพลินไปกับไลฟ์สไตล์ดิจิตอลด้วย Apple CarPlay® แบบไร้สาย และ Android AutoTM

มาพร้อมกับเทคโนโลยีเชื่อมต่อ สามารถอัปเดตข้อมูลข่าวสาร หรือ รับ-ส่ง ข้อความ จากสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth และเพลิดเพลินไปกับไลฟ์สไตล์ดิจิตอลด้วย Apple CarPlay® แบบไร้สาย และ Android AutoTM ที่เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ที่แสดงผลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 8 นิ้ว ควบคุมด้วย Center Commander ที่จัดวางในตำแหน่งที่ผู้ขับขี่ใช้งานได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger และ USB สำหรับชาร์จไฟบริเวณเบาะนั่งแถวที่สามได้ถูกเพิ่มเข้ามาในรถรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน พร้อมเพิ่มความสุนทรีย์ภายในห้องโดยสารด้วยระบบเสียงคุณภาพจาก Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง

  • สนนราคาอยู่ที่ 979,000 บาท

7. Suzuki XL7 1.5 GLX

ซูซูกิ เอ็กซ์แอล 7 รุ่น 1.5 จีแอลเอ็กซ์ (Suzuki XL7 1.5 GLX) รถเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง สำหรับครอบครัวที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์ราคาประหยัด มีระบบ Mild-hybrid เพิ่มความประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นไปอีก เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส K15B ความจุ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ

ซูซูกิ เอ็กซ์แอล 7 รุ่น 1.5 จีแอลเอ็กซ์ (Suzuki XL7 1.5 GLX) รถเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง สำหรับครอบครัวที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์ราคาประหยัด

อุปกรณ์มาตรฐานครบครันขับขี่สนุก

เบาะนั่งทุกตำแหน่งหุ้มด้วยวัสดุผ้าสีเทา-ดำ สามารถปรับสูง-ต่ำฝั่งผู้ขับขี่ได้ ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับเลื่อนหน้า-หลัง และปรับเอนเพิ่มความสบายได้ มีพนักพิงศีรษะมาให้ครบ 3 ตำแหน่ง

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบปรับอากาศตอนหลังปรับแรงลมได้ 3 ระดับ, ช่องวางแก้ว 2 ตำแหน่งด้านหน้าพร้อมช่องเป่าลมเย็น และแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger พร้อมช่องจ่ายไฟ 12V อีก 3 ตำแหน่ง
บาะนั่งทุกตำแหน่งหุ้มด้วยวัสดุผ้าสีเทา-ดำ สามารถปรับสูง-ต่ำฝั่งผู้ขับขี่ได้ ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับเลื่อนหน้า-หลัง

หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว นอกจากจะเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ผ่านสาย USB ได้แล้ว ยังสามารถแสดงภาพจากกล้องมองหลังขณะถอยรถ พร้อมเซ็นเซอร์กะระยะด้านท้าย และยังมีการติดตั้งกล้องบันทึกภาพขณะขับขี่ (DVR) มาให้จากโรงงานอีกด้วย โดยสามารถย้อนดูคลิปเหตุการณ์จากหน้าจอ 10.1 นิ้วได้ทันที

  • สนนราคาอยู่ที่ 499,000 บาท

8. Toyota Alphard 2.5 SC Package

โตโยต้า อัลพาร์ด 2.5 เอสซี แพคเก็จ (Toyota Alphard 2.5 SC Package) รถครอบครัวอเนกประสงค์ยอดนิยมมากที่สุด มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินน้ำมันล้วน 2,493 ซีซี มาพร้อมเครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ ไฮบริด แรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 8 speeds พร้อมกล้องถอยมองหลังและกล้องรอบคัน 360 View สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความหรูหราที่มาพร้อมความสปอร์ต ด้วยรูปลักษณ์อันโดดเด่น และความสะดวกสบายครบครันอันเป็นเอกลักษณ์

โตโยต้า อัลฟาร์ด 2.5 เอสซี แพคเก็จ (Toyota Alphard 2.5 SC Package) รถครอบครัวอเนกประสงค์ยอดนิยมมากที่สุด มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิลน้ำมันล้วน 2,493 ซีซี

ตอบโจทย์ความสบายทั้งครอบครัวระดับผู้บริหาร

ภายในห้องโดยสารของ New Toyota Alphard 2.5 SC มาพร้อมเบาะ Mickey Seat ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า มาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ได้รับการออกแบบใหม่สะดวกมากขึ้น

ภายในห้องโดยสารของ New Toyota Alphard 2.5 SC มาพร้อมเบาะ Mickey Seat ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า มาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID

ระบบปรับอากาศปรับแยกอุณหภูมิแบบอัตโนมัติ 3 โซน แยกอิสระ ซ้าย-ขวา สำหรับด้านหน้า และด้านหลัง พร้อมระบบฟอกอากาศแบบ nanoe ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารแบบซ่อนฝ้า ปรับความสว่างได้ 4 ระดับ เปลี่ยนสีได้ 16 เฉดสีเพิ่มบรรยากาศ และความสะดวกสบายตลอดการการเดินทาง คอนโซนกลางมีจอ Android + ลำโพง Focal เชื่อมต่อ USB iPod และ Bluetooth

ระบบปรับอากาศปรับแยกอุณหภูมิแบบอัตโนมัติ 3 โซน แยกอิสระ ซ้าย-ขวา สำหรับด้านหน้า และด้านหลัง พร้อมระบบฟอกอากาศแบบ nanoe ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารแบบซ่อนฝ้า

ภายนอกได้รับการออกแบบใหม่ให้หรูหรา โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่ ดีไซน์หรู ไฟหน้า พร้อมไฟ Daytime Running Lights ไฟตัดหมอกด้านหน้าที่มีดีไซน์เฉพาะในรุ่นนำเข้า ไฟท้าย แบบ LED และไฟเบรกดวงที่ 3 กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED

  • สนนราคาอยู่ที่ 1,950,000 บาท

หากใครสนใจและกำลังมองหารถมือสองที่ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับครอบครัวใหญ่ อ่านมาถึงตรงนี้แล้วสนใจสามารถเข้าไปติดต่อในทางเว็บไซต์ www.koonyingcar.com หรืออยากดูสภาพรถจริง หรือรถยนต์รุ่นอื่น ๆ เพิ่มเติมเต็นท์รถตั้งอยู่ที่ถนนกาญจนาภิเษก แขวง บางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ครับ

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

 

somkiar

นักเขียนสายรีวิว ดีกรีแอดมินเพจ ชอบเล่าเรื่องผ่านตัวอักษร เนิร์ดหนังและซีรีส์ตัวพ่อ เอนจอยการถ่ายรูปและงานนิทรรศการ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button