ข่าว

พ่อแม่ โร่แจ้งความ ม.ดัง รับน้องโหด จุดไฟเผาอวัยวะเพศ-รุมกระทืบ

พ่อแม่ โร่แจ้งความ รุ่นพี่มหาวิทยาลัยดังย่านนนทบุรี รับน้องโหด จุดไฟเผาอวัยวะเพศ รุมกระทืบพ่อกับลูกชาย ต่อหน้ารองอธิการบดี

นายวิชัย (สงวนนามสกุล) และ น.ส. นริสา (สงวนนามสกุล) พ่อและแม่ของนายไตเติ้ล อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านจังหวัดนนทบุรี เดินทางเข้าแจ้งความกับ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่รับน้องโหดทำร้ายลูกชาย หลังจากลูกชายไปขอลาออกจากการเข้าระบบการรับน้อง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่ห้องไอซียู รวมถึงตัวของพ่อเองก็ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกลุ่มรุ่นพี่ทำร้าย ต่อหน้ารองอธิการบดี แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ไม่เกรงกลัวกระทืบพ่อกับลูกชายก่อนหลบหนีออกจากมหาวิทยาลัยหลังก่อเหตุ

ผู้เป็นพ่อเปิดเผยว่า ลูกตนเข้าเรียนปี 1 ได้เข้าไปรับระบบในสถาบันโดยเป็นการรับระบบของรุ่นพี่ มีการทำร้ายร่างกายเอาไฟแช็ก จุดไฟเผาขนรักแร้ และขนอวัยวะเพศ หลังจากที่ลูกชายโดนมา ทนไม่ไหว จึงบอกความจริงกับแม่และบอกว่าจะขอออกจากระบบ แต่รุ่นพี่มีการข่มขู่และมีการมาถ่ายรูปที่บ้านและรถ จยย.พร้อมกับบอกว่า ถ้ามึงออกจากระบบกูจะตามไปกระทืบจนตาย และยึดบัตรประชาชนของน้องกับพาวเวอร์แบงค์ไปด้วย

รุ่นพี่ยังข่มขู่ต่ออีกว่า บอกแม่มารอรับศพลูกตนที่หน้าโรงเรียนด้วย หลังจากลูกบอกความจริง ตนจึงเข้าไปที่สถาบัน เพื่อเข้าไปคุยกับอาจารย์ จะขอย้ายให้ลูกตนไปอยู่สถาบันอีกเขต แล้วได้เจอกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ตะโกนเข้ามาและเดินปรี่เข้ามาทำร้าย ลูกตนถูกกระทืบประมาณ 20 คนโดนรุมต่อหน้าอาจารย์ และตนจะเข้าไปป้องลูกก็โดนไปด้วย ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นได้แต่ยืนดูทำอะไรไม่ได้

หลังจากเกิดเรื่องตนได้พาลูกที่มีอาการปวดศีรษะ มาหาหมอที่โรงพยาบาล เพราะถูกกระทืบที่หัวหลายครั้ง ส่วนบาดแผลของตนถูกรุมกระทืบที่หน้า กกหู แขน นิ้วมือ และนิ้วเท้า ตอนนี้ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะที่ไปสถาบันไม่เคยคิดจะไปมีเรื่องกับเด็ก ตั้งใจจะย้ายสถาบันให้ลูก เพราะลูกอยากเรียนมากๆ จากที่ตนสอบถามลูกเรื่องการรับระบบ ลูกบอกว่าทางรุ่นพี่มีการรวมเงินกันไว้ เพื่อเป็นการประกันตัวของคนที่ไปก่อเหตุและเอาไว้จ้างทนาย เหมือนเป็นเงินสโมสรเก็บไว้เพื่อใช้จ่ายให้กับเด็กพวกนี้

ส่วนสาเหตุที่ลูกตนโดนมาหนักเพราะว่ารุ่นพี่บอกว่าน้องเอาสถาบันไปขาย แต่น้องไม่ได้ทำ ตอนนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะตนคิดว่าเด็กกลุ่มนี้ ไปทำแบบนี้กับคนอื่นมาเยอะพอสมควร แต่ไม่มีใครกล้าออกมาพูด ซึ่งฟังจากหลายคน มีคนโดนเยอะ แต่ไม่กล้าบอกผู้ปกครอง เพราะโดนข่มขู่จากรุ่นพี่ ตอนนี้ห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะทางกลุ่มผู้ก่อเหตุรู้จักบ้านของตนและถ่ายทะเบียนรถไว้หมด จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้จริงจัง

ตอนนี้ตนเสียความรู้สึกมาก เพราะเลี้ยงลูกกว่าจะโตแต่กลับมาถูกกระทำแบบนี้ ถ้าตนคิดว่าจะไปมีเรื่องกับเด็กกลุ่มนี้ ตนจะไม่เอาภรรยาและลูกไปด้วย ตนคงยกพวกไปด้วยถ้าจะมีเรื่อง และงงว่าทางสถาบันทำอะไรไม่ได้เลย ที่ตนและลูกถูกกระทืบต่อหน้าอาจารย์ ส่วนเสื้อที่ตนใส่เป็นของนายกโก๊ะท่าทราย ที่ตนใส่ไปเพราะว่าจะเป็นเกาะคุ้มกัน อาจจะมีคนรู้จักนายกโก๊ะ แต่มันก็ไม่สนใจ แต่ตนก็ไม่ได้จะใส่ไปเพื่อเบ่งหรือไปข่ม และตนก็ใส่อยู่ตลอดเวลา ในนนทบุรีพื้นที่จะรู้จักนายกโก๊ะกันหมด แต่ตนไม่เคยไปอ้างถึงนายกโก๊ะ ท่าทราย เพื่อไปโชว์และไปข่มขู่ใคร ถ้าตนจะไปกร่าง ตนยกพวกไปทั้งหมด

ด้านแม่ของนายเติ้ล กล่าวว่า ตนสงสารลูก เพราะตอนรับระบบลูกตนโดนมาตลอด น้องบอกว่าต้องไปรับระบบที่เซฟเฮ้าท์ รับระบบเหมือนทหาร เผาขนรักแร้ เผาขนอวัยวะเพศ และเอาสีพ่นตัว และปั๊มเฟืองที่หน้าอก และสั่งวิดพื้น ให้ลูกตนไปแต่เช้า เข้าไปนั่งอยู่ในป่าให้ยุงกัด และทุกวันศุกร์จะต้องไปตลอด บังคับน้องให้บอกกับตนว่าเตะบอลกับเพื่อนอยู่ แต่ความจริงคือรับระบบอยู่ ตอนนี้ตนจะเอาเรื่องคดีให้ถึงที่สุด เพราะก่อเหตุในสถาบัน ไม่เกรงกลัวว่าใครเป็นใคร ซึ่งพ่อกับแม่ก็อยู่กับน้องด้วย อาการน้องตอนนี้ต้องรอสแกนสมอง เย็บปาก 4 เข็ม ส่วนทางด้านสถาบันบอกว่าจะนำกล้องวงจรปิดมาเปิดให้ที่โรงพัก และแจ้งความเอาเรื่องเพิ่มกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ

ขณะที่ไตเติ้ล เปิดใจกับทีมข่าวหลังจากฟื้นได้สติ ว่าจากการถูกรุ่นพี่รุมทำร้ายกระทืบที่บริเวณศีรษะและใบหน้า ปากแตกเย็บ 4 เข็ม ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน แพทย์ต้องทำการเอ็กซเรย์และรอดูอาการ ส่วนตามร่างกายฟกช้ำ ซึ่งเหตุการณ์ความรุนแรงนี้เกิดขึ้น ภายในมหาวิทยาลัย ต่อหน้าอาจารย์ ผู้ปกครอง และนักศึกษา โดยนายเติ้ลเปิดเผยถึงปมเหตุมีเรื่องมีราวกับรุ่นพี่ จนไม่ขอทนกับระบบ รุ่นพี่รุ่นน้องอีกต่อไป จึงได้พาผู้ปกครอง ไปพูดคุยกับอาจารย์ ที่มหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนนทบุรี

นายเติ้ลเล่าว่า ได้ไปนั่งเล่นกับเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ โดยเพื่อนคนดังกล่าวอยู่ต่างสถาบันกัน และมีคนในสถาบันเดียวกับนายเติ้ลไปเห็น ทำให้รุ่นพี่มาตักเตือน เรียกไปหลังอาคารเรียน บอกให้เลิกคบกับเพื่อนที่อยู่ต่างสถาบัน แต่นายเติ้ลอธิบายแล้วว่าเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ได้คิดถึงเรื่องสถาบัน ทำให้รุ่นพี่ไม่พอใจ คิดว่านายเติ้ลนำข้อมูลในสถาบันไปเปิดเผยจึงเตะต่อย ถูกบังคับให้กินดินในกระถางต้นไม้ และข่มขู่ด่าทอ

จากนั้นตนได้ขอกลับบ้าน ทางรุ่นพี่ก็ได้ยึดบัตรประชาชน ยึดโทรศัพท์มือถือของตนเองไป และตามไปถึงที่บ้านเพื่อไปถ่ายภาพหน้าบ้าน จากนั้นตนได้บอกกับแม่ว่าไม่ขอทนแล้ว จึงเล่าพฤติการณ์ทุกอย่าง ของลัทธิรุ่นพี่รุ่นน้องในองค์กร โดยยังบอกอีกว่า ในมหาวิทยาลัย รุ่นพี่จะมีการเรียกเก็บเงินสัปดาห์ละ 100 บาท เป็นเงินกองทุนเข้าสู่องค์กรไว้ช่วยเหลือ ประกันตัว นักศึกษาที่ก่อเหตุ

นอกจากนี้ก็มีการเก็บเงินค่ากิจกรรม เช่นค่าดอกบัว, ค่าผ้า 7 สี และต้องตื่นตี 4 มาล้างองค์พ่อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของสถาบัน ที่สำคัญจะมีการอบรมให้เรารักในระบบเพราะเราเชื่อ และมีการให้ฝึกร่างกายที่ด้านนอกมหาวิทยาลัยเหมือนทหาร เช่นอยู่ในป่าอยู่ในวัด ฝึกความอดทนถูกยุงกัดท่ามกลางยุงกัด จากนั้น ก็จะพาขึ้นหอ ก็คือการท่องกลอนและร้องเพลงหากท่องไม่ได้จะถูกจุดไฟเผาอวัยวะเพศและถูกสีสเปรย์พ่น ที่บริเวณอวัยวะเพศ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button