ข่าวการเมือง

คนไทยแห่ #คัดค้านการยุบพรรคก้าวไกล ลุ้นศาลรธน. นั่งบัลลังก์พิจารณาบ่ายนี้

คนแห่วิจารณ์จนแฮชแท็ก #คัดค้านการยุบพรรคก้าวไกล พุ่งเทรนด์เอ็กซ์ การเมืองนำกฎหมายหรือไม่ ย้ำไม่ต่างเผาแบงก์ 1000 เพื่อหาเหรียญบาท

“ศาลรธน. 9 คนจะมาตัดสินแทนคน 14.5 ล้านคน วันนึ้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าใช้ หลักการ หรือ หลักกู (หลักกล้วย) ทุกการตัดสินใจ มันมาด้วยความรับผิดชอบ ถ้าการตัดสินไม่ทำให้ประชาชนสิ้นสงสัย นึกถึงคำปฏิญาณก่อนมาเป็นศาล สิ่งนั้นมันคืนพวกคุณแสนล้านเท่า”

ตัวอย่างหนึ่งในเนื้อหาที่ผู้ใช้บัญชีเอ็กซ์ได้แสดงคาวมคิดเห็นผ่าน #คัดค้านการยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งตอนนี้แฮชแท็กวิพากษ์วิจารณ์กำลังพุ่งติดเทรนด์ หลังจากวันนี้ (7 ส.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ในเวลา 15.00 น.

ทั้งนี้เนื้อหาของคอมเมนต์ดังกล่าว เป็นการอ้างอิงจากบทสัมภาณ์ ผศ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ที่ได้วิเคราะห์กับไทยพีบีเอสโดยช่วงหนึ่งอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตอบข้อซักถามกรณีตั้งข้อสังเกต คดียุบพรรคก้าวไกลนั้นเป็นเรื่องของ “การเมือง” นำกฎหมายหรือไม่

ซึ่งอีกฝ่ายก็ให้ข้อมูลเป็นทรรศนะผ่านปลายสายโฟนอิน ระบุ

ต้องเข้าใจวิธีการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนในลำดับแรก ซึ่งตามระเบียบจะใช้วิธีการลงมติ โดยการตั้งประเด็นขึ้นมา จากนั้นแถลงแนวทางว่าจะเอาอย่างไรแล้วก็ลงมติเลย เสียงข้างมากมาทางไหนก็ไปทางนั้น

“ว่าง่าย ๆ คือ วิธีการของเราเนี่ย ไม่ได้เป็นวิธีการที่จบด้วยข้อเท็จริงหรือข้อกฎหมาย คือไม่ได้คุยจนได้ข้อยุติแบบเห็นพ้องต้องกัน จนยุติ ได้ความยุติธรรมออกมา ตคือท่านใช้วิธีการโหวตเลยอ่ะครับ” ผศ.ปริญญา กล่าว.

อ.ปริญญา ยังระบุด้วยว่าวิธีการโหวตของศาลรัฐธรรมนูญนั้นทำให้กระบวนการวินิจฉัยเร็วขึ้นก็จริง

แต่ปัญหาหาคือ สิ่งที่เป็นประเด็นซึ่งถูกตั้งขึ้นมานั้นจะไม่จบด้วข้อเท็จจริง แล้วผลสืบเนื่องหลังจากเกิดการโหวตขึ้นมาแล้ว ก็จะเอาความเห็นเสียงข้างมากที่เขียนเหุตผลมารวมกันเป้นคำวินิจฉัย แบบนี้โอกาสที่จะทำให้เป็นเรื่องการเมืองไปได้ เพราะไม่ได้เอาเหตุผลหรือข้อกฏหมายมายตุิ แต่ใช้ตัวแปรคือการโหวตโดยศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 ราย

นอกจากนี้ บนโซเชียลยังมีการแชร์บทสัมภาษณ์ล่าสุดของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก่อนจะฟังผลคำวินิจฉัย พร้อมกับเขียนเนื้อหาแสดงความเห็นว่า “ไม่พูดเรียกร้องความยุติธรรมนะ แต่ซีนแรกสัมคือห่วงการจัดการน้ำ #พิธา พวกมันกำลังจะตัดสิทธิ์คุณ ทำไมไม่หลอกมวลชนมาม๊อบ มากดดันมาตายแทน เนี่ยเหรอคนจะล้มล้างการปกครอง”

ขณะที่ ตัวอย่างความเห็นอีกหลาย ๆ คอมเมนต์ยังมีอาทิ “เขาจะสร้างให้อนาคตเป็นแบบนั้นถ้าเราไม่ยอมอนาคตก็จะเป็นอย่างที่เราอยากจะให้เป็น เมื่อนักข่าวถามคนมาซื้องูเห่าเพราะรู้ล่วงหน้าว่าพรรคจะถูกยุบ เมิงฟังพิธาตอบคนเป็นผู้นำความคิดก้าวหน้าเขาตอบกันแบบนี้ #คัดค้านการยุบพรรคก้าวไกล”

“ประชาชนทำไมต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ หนี เห้ มาเจอ เห้กว่า กรรมของปชช. คนไทยมี สว. จอมปลอม ไม่พอ มาเจอ สว. สีน้ำเงินเข้าไปอีก เมื่อไหร่อำนาจจะอยู่ในมือประชาชนจริง ๆ มั่งนะ ชาตินี่จะตายก่อนไหม”

“การกระทำยังไม่เกิดขึ้น แล้วจะเป็นความผิดได้ยังไง แบบนี้มันก็แค่การใส่ร้ายเท่านั้น แล้วแก้ 112 ก็ไม่ใช่การล้มล้างการปกครอง ล้มล้างการปกครองคือ พวกก่อรัฐประหาร สังคมไทยแม่งเหมือนมีแต่พวกลอจิคพังเห็นแก่ตัว ตอนเรียนพวกมึงไม่ตั้งใจเรียนเหรอวะ #คัดค้านการยุบพรรคก้าวไกล”

ทั้งนี้ ในแฮชแท็กร้อนดังกล่าวดูจะมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง และทำท่าจะทวีความร้อนแรงของการวิพากษ์วิจารณ์ ตามเวลาที่ใกล้จะถึงช่วงเวลาชี้ชะตา โดยศาลรัฐธรรรมนูญตอนบ่ายสามโมงตรง.

แฟ้มภาพ
แฟ้มภาพ
แฟ้มภาพ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button