Looks like you have an outdated version of Thaiger ภาษาไทย! It is recommended to keep the theme up to date for security reasons and new features Jannah Theme
ข่าว

ตำรวจนครพนม ปัดให้ครอบครัวไปหาหลักฐานเอง ยืนยันรถลาวผิดจริง

ตำรวจนครพนม ปัดทิ้งภาระวให้ครอบครัวไปหาหลักฐานเอง กรณีรถทะเบียนลาวชนสนั่น ทำหญิงตาทั้งกลม ยืนยันเก๋งลาวผิดฝ่ายเดียว

จากกรณีที่ รถยนต์ป้ายทะเบียนลาว ขับมุ่งหน้ามาบนถนน นิตโย นครพนม – สกลนคร ทางหลวงหมายเลข 22 ฝั่งมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครพนม ถึงสี่แยกดอนโมง ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม ขับฝ่าไฟแดงด้วยความเร็ว ก่อนพุ่งชนรถเก๋งขับมาจากตัวเมืองนครพนม ทำให้มีคนเจ็บ ทั้งหมดเป็นคนในครอบครัว นั่งมาในรถยนต์เก๋งคันสีขาว รวม 7 คน อาการหนักสุด คือ คนนั่งเบาะซ้าย ทราบชื่อภายหลังคือ นางสาววิชุดา หรือน้องบี อายุ 23 ปี ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล ประจำห้อง ICU โรงพยาบาลนครพนม ที่สำคัญยังตั้งท้องแก่ 8 เดือนใกล้คลอด บาดเจ็บสาหัส

โดยทางเจ้าหน้าที่ต่างเร่งช่วยเหลือ ผู้บาดเจ็บทั้งหมด จากรถเกิดอุบัติเหตุทั้งสองคัน รวม 10 ราย ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม อย่างไรก็ตามน้องบีทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตพร้อมลูกในเวลาต่อมา ก่อนที่ทางครอบครัวจะบอกกับนักข่าวว่าตำรวจทิ้งภาระให้ญาติไปหาหลักฐานมาเพิ่ม จนกระทั่งญาติ และครอบครัวผู้ตาย คาใจหวั่นคดีไม่คืบ เนื่องจากคู่กรณีเป็นชาวลาว อีกทั้งยังมีข้อมูลว่า เป็นคนมีฐานะ มีบารมีทางฝั่งลาว เกรงว่าจะมีการวิ่งเต้นคดี ไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังเกิดเหตุยังไม่มีญาติคู่กรณีมาเจรจา อีกทั้งยังฝากบอกมากับคนรู้จักว่า จะจ่ายค่าเยียวยาแค่หลักหมื่น จึงต้องการให้ตำรวจชี้ชัดว่าใครผิดใครถูก ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น

ล่าสุด พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ. เมืองนครพนม ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวแล้วว่า ภายหลังการสอบสวน ตรวจสอบพยานหลักฐานมีข้อมูลหลักฐานชัดเจนจากกล้องวงจรปิด พบว่ารถยนต์ชาวลาวฝ่าไฟแดง ตามขั้นตอนของกฎหมาย ถือว่าเป็นฝ่ายผิดคันเดียว ส่วนกรณีที่ทางญาติเข้าใจว่าตำรวจให้ไปหาหลักฐานเพิ่ม ไม่ได้ทิ้งภาระให้ผู้เสียหาย แต่เพียงหากพบหลักฐานเพิ่มเติม ให้นำส่งพนักงานสอบสวนเป็นความเข้าใจผิด

อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้เชิญตัวคนขับรถชาวลาวมารับทราบข้อกล่าวหาฐานความผิดขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนการชดเชยเยียวยาเบื้องต้นจะมีการไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่ายหากไม่สามารถตกลงกันได้จะต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายยืนยันทางตำรวจให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายและดำเนินคดีตามพยานหลักฐานขอให้มั่นใจในการทำงานของตำรวจ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx