ข่าว

รวบ ‘เจมส์ บางบอน’ โจรเพี้ยน เข้าไปนอนห้องตำรวจ 8 ครั้ง ไม่ฉกของมีค่า

เจ้าหน้าที่สืบนควรบาลรวบตัว เจมส์ บางบอน โจรเพี้ยน สะกดรอยตามสารวัตร 10 วัน เข้าไปนอนห้องตำรวจ 8 ครั้ง แต่ไม่ได้ฉกของมีค่า

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ผกก.สส.บก.น.9, พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. นำกำลังจับกุมตัว นายมนัสวิน หรือ “เจมส์-บางบอน” อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 647/2567 ข้อหา “ลักทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืนในเคหสถาน และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต่างกรรมต่างวาระ”

สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 27 มิ.ย. ผู้เสียหายเป็นนายตำรวจระดับสารวัตร สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้กลับเข้ามาที่ห้องพักในคอนโดชื่อดังย่านบางแค พบข้าวของบางอย่างถูกขยับเขยื้อน อาทิ เศษเงินเหรียญที่วางไว้จำนวนหนึ่งหายไป เมื่อสืบสวนเบื้องต้นด้วยตัวเองพบคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นบุกเดี่ยวเข้ามาในห้องถึง 8 ครั้งในช่วงเดือน มิ.ย. วันที่ 17, 19, 20, 21, 22, 24, 26 และ 27 มิ.ย. ก่อนเข้าแจ้งความ สน.เพชรเกษม

หลังรับแจ้งและเรื่องถูกรายงานไปตามลำดับชั้นจนมาถึง บก.สส.บช.น. แรกเริ่มเหมือนจะเป็นคดีลักทรัพย์ทั่วไป ชุดสืบสวนเริ่มไล่ไทม์ไลน์ย้อนหลังจนพบว่านายตำรวจผู้เสียหายถูกคนร้ายสะกดรอยเฝ้าดูพฤติกรรมมากว่า 10 วัน ยิ่งไปกว่านั้นคนร้ายยังแอบย่องเข้าไปในห้องผู้เสียหายมากว่า 7 ครั้งก่อนก่อเหตุในครั้งที่ 8 โดยคนร้ายสะกดรอยจนทราบที่เก็บคีย์การ์ดสำรองของผู้เสียหายที่ถูกเก็บไว้ในช่องตู้ไปรษณีย์ชั้นล่างคอนโด และใช้จังหวะนายตำรวจผู้เสียหายออกไปทำงานหรือไม่อยู่ที่ห้องพักแอบไปหยิบคีย์การ์ดสำรองใช้ขึ้นตึกและเข้าไปในห้องพัก ก่อนจะนำคีย์การ์ดเก็บไว้ที่เดิมโดยไม่แตะทรัพย์สินมีค่า เสมือนไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์แต่อาจมีเจตนาแอบแฝง ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น.และ กก.สส.บก.น. 9 ร่วมกันใช้เวลากว่า 1 เดือนสืบสวนติดตามเพราะพบพฤติกรรมสุดซับซ้อนเสมือนเลียนแบบภาพยนตร์ กระทั่งทราบตัวคนร้ายและขอศาลออกหมายจับ โดยพบว่าหลังก่อเหตุวันสุดท้ายเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. คนร้ายได้หายตัวไปสืบทราบว่าร่อนเร่พเนจรไปนอนตามป้ายรถเมล์ ปั๊มน้ำมัน กระทั่งจับกุมได้

จากการสอบสวนนายมนัสวิน หรือ “เจมส์-บางบอนด์” รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาอ้างว่าจบการศึกษาชั้น ม.6 และต่อ ปวช.สายช่างก่อสร้าง แต่เรียนไม่จบ ปัจจุบันเป็นคนตกงานและไม่เป็นที่ยอมรับของครอบครัวภรรยา ชอบร่อนเร่ไปพักอาศัยตามที่ต่างๆ ส่วนเรื่องคดีไม่ได้หวังปองร้ายหรือรับงานใครมา แค่มานั่งสังเกตการณ์บริเวณใต้อาคารคอนโดที่เกิดเหตุบ่อยๆ เห็นว่านายตำรวจผู้เสียหายมักซ่อนกุญแจและคีย์การ์ดสำรองไว้ในช่อง Mail Box ตั้งใจแค่ขึ้นไปนอนบนห้องผู้เสียหายขณะที่ไม่อยู่ ไม่ได้คิดจะสอดแนมหรือปองร้ายใดๆ ส่วนที่ถูกจับกุมที่บางปะกงไม่ได้หลบหนีมา แต่ได้งานทำใหม่ ส่วนที่ไม่ได้อยู่ละแวกบางบอนเพราะหลังก่อเหตุรู้สึกว่าเหยื่อน่าจะรู้ตัวและมีเจ้าหน้าที่บางส่วนติดตาม จึงออกร่อนเร่เดินเท้าไปอย่างไร้จุดหมายกระทั่งมาถูกจับกุม

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมเคยก่อคดี 3 คดี 1.วันที่ 9 ส.ค.62 ถูกจับกุมข้อหามียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองฯ พื้นที่ สน.หลักสอง 2.วันที่ 8 ธ.ค.66 ก่อเหตุลักทรัพย์ฯ ขโมยซองผ้าป่า พื้นที่ สน.ท่าข้าม และ 3.วันที่ 23 พ.ค. 67 ก่อเหตุลักทรัพย์นาฬิกาในห้างสรรพสินค้า พื้นที่ สน.ภาษีเจริญ

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.กล่าวว่า ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การผู้ต้องหา เพราะยังเป็นที่น่าสงสัยอยู่หลายประเด็น อีกทั้งแผนประทุษกรรมมีลักษณะใจเย็น ช่ำชอง ที่สำคัญคือรู้ว่าเป็นห้องเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ยังกล้าที่จะลงมือกระทำ หลังจากนี้จะขยายผลโดยละเอียดต่อไป อยากให้คดีนี้เป็นการเตือนภัยให้กับประชาชน แม้จะเป็นคอนโดที่มีระบบความปลอดภัยแน่นหนาให้หลีกเลี่ยงการเก็บคีย์การ์ดหรือของสำคัญไว้ในตู้ไปรษณีย์หรือตู้ Mail Box หรือหลีกเลี่ยงการซ่อนกุญแจไว้ตามที่ต่างๆใกล้ประตูหน้าบ้าน เพราะการกระทำดังกล่าวอาจตกอยู่ในสายตาของผู้ไม่ประสงค์ดี หากท่านใดมีเบาะแสในลักษณะนี้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาได้ที่เพจสืบนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชม.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button