บริษัทใหญ่ยังไม่รอด Intel ปลดพนักงาน 1.7 หมื่นคน งดจ่ายเงินปันผล
อินเทล (Intel) บริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของโลก ประกาศปลดพนักงานกว่า 15% หรือราว 17,500 คน พร้อมระงับการจ่ายเงินปันผล ตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีนี้เป็นต้นไป เพื่อแก้ปัญหาขาดทุนจากธุรกิจการผลิตชิป
นอกจากนี้ อินเทลยังคาดการณ์รายได้ไตรมาส 3 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ เนื่องจากความต้องการชิปสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์แบบดั้งเดิมลดลง ประกอบกับบริษัทยังตามหลังคู่แข่งในตลาดชิป AI
ข่าวนี้ส่งผลให้หุ้นอินเทลร่วงลงกว่า 20% ในช่วง after-hours trade คิดเป็นมูลค่าตลาดที่หายไปกว่า 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ซีอีโอของอินเทล “แพท เกลซิงเกอร์” ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า บริษัทจำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานส่วนกลาง และเพิ่มพนักงานที่ทำงานใกล้ชิดกับลูกค้า ส่วนการระงับจ่ายปันผลนั้น เป็นไปเพื่อปรับโครงสร้างทางการเงินของบริษัทให้แข็งแกร่งขึ้น
อินเทล ซึ่งปัจจุบันมีพนักงาน 116,500 คน (ไม่รวมบริษัทลูก) คาดว่าจะดำเนินการปลดพนักงานส่วนใหญ่ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2024
บริษัทรายงานการขาดทุน 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (5.6 หมื่นล้านบาท) ในช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. เมื่อเทียบกับกำไร 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (5.3 หมื่นล้านบาท) ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
การตัดสินใจครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพลิกฟื้นธุรกิจครั้งใหญ่ของอินเทล โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาชิป AI ขั้นสูง และการขยายขีดความสามารถในการผลิตชิปตามสัญญาจ้าง เพื่อทวงคืนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่เคยเสียไปให้กับ TSMC บริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวัน
อินเทลยังประกาศแผนลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และลดค่าใช้จ่ายด้านทุนลงกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2025 ซึ่งมากกว่าที่วางแผนไว้เดิม
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า แผนการพลิกฟื้นธุรกิจของอินเทลอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเห็นผล และคาดว่า TSMC จะยังคงรักษาความเป็นผู้นำตลาดต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า
สำหรับไตรมาส 3 อินเทลคาดการณ์รายได้อยู่ที่ 12,500 – 13,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 14,350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ