แก๊งคอลเซ็นเตอร์สุดแสบ หลอกหนุ่ม 21 มีคดี-สั่งปิดมือถือ ก่อนตุ๋นพ่อแม่ ลูกถูกเรียกค่าไถ่
จากกรณี เจ้าหน้าที่สืบนครบาล สืบสวน บก.น.4 และ สน.หัวหมาก เข้าช่วยเหลือเหยื่อ หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรหลอกว่ากระทำความผิด ให้สร้างสถานการณ์ถูกทำร้ายและเรียกค่าไถ่จากพ่อแม่ตัวเอง
สืบเนื่องจาก เมื่อ 19 ก.ค.67 เวลา 19.00 น. ผู้ปกครอง อายุ 59 ปี แจ้งความที่ สน.หัวหมาก ว่าลูกชาย อายุ 21 ปี ได้หายไปจากที่พักอาศัยคอนโด กระทั่งต่อมาได้มีผู้ร้ายติดต่อมายังเบอร์โทรศัพท์ของผู้แจ้งและได้ข่มขู่เรียกร้องเอาเงินจากผู้แจ้งโดยอ้างว่าบุตรชายของผู้แจ้งอยู่กับบุคคลดังกล่าว
ภายหลังการสืบสวนติดตามทราบว่า บุตรชายของผู้แจ้งได้ออกจากที่พักอาศัยไปหลบหนีอยู่ที่บริเวณใกล้ห้างเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนี แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินเผชิญสืบติดตาม จนสามารถพบและให้ความช่วยเหลือบุตรผู้แจ้ง ที่บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ในวันที่ 20 ก.ค.67 อย่างปลอดภัยและนำส่งให้กับคุณแม่เรียบร้อย
จากการซักถามเหยื่อได้ให้รายละเอียดว่า ได้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงและข่มขู่ว่าตนเองได้ไปเปิดบัญชีม้าให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวอ้างตัวว่าเป็นตำรวจและจะดำเนินคดี
ถ้าจะแสดงความบริสุทธิ์ใจก็ขอให้ เชื่อฟังกลุ่มบุคคลดังกล่าวโดยเอาทรัพย์สินที่บ้านหรือเงินสด ที่มีทั้งหมดของตนและที่บ้านส่งให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อ้างว่าเป็นตำรวจดังกล่าว โดยให้นำทรัยพ์สินไปขาย ก่อนให้เปิดบัญชีและโอนให้ตามบัญชีที่สั่ง พร้อมให้ออกจากบ้านมาพักอาศัยอยู่ข้างนอก
ตลอดการออกอุบายดังกล่าวนั้น กลุ่มคนร้ายจะไม่วางสายและสั่งการควบคุมทางโทรศัพท์มือถืออยู่ตลอด กระทั่งต่อมาได้ให้เหยื่อแสดงละครการถูกทำร้ายทรมาน โดยการใช้น้ำแดงราดตัวและร้องขอความช่วยเหลือจากพ่อ-แม่ ถ่ายคลิปไว้และส่งให้กลุ่มบุคคลดังกล่าว เพื่อให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวส่งคลิปวิดีโอมาข่มขู่เรียกค่าไถ่จากพ่อ-แม่ จำนวน 500,000 บาท มิฉะนั้นจะทำร้ายให้ลูกถึงแก่ความตาย ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถช่วยเหลือ ได้อย่างปลอดภัย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ขอฝากเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้พ่อแม่ผู้ปกครอง นักเรียน นักศึกษาทุกคน ถึงวิธีการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ก่อเหตุในลักษณะนี้ เพราะยังมีคนตกเป็นเหยื่อเรื่อยๆ ขอให้อัพเดทข้อมูลข่าวสารตลอดเวลา เพื่อที่จะเป็นการป้องกันตัว และไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้.
อ่านข่าวเพิ่มเติม