ระงับใบอนุญาต นักแข่งรถหมายเลข 17 เบียดคู่แข่งหมายเลข 29 จนรถล้ม ชูมือชนะเข้าเส้นชัย ไร้น้ำใจนักกีฬา ผู้ปกครองเด็กชายเพชรกร แถลงเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
คืบหน้ากรณีดราม่าวงการนักบิด นักแข่งรถหมายเลข 17 จงใจขับรถกระแทกคู่แข่งหมายเลข 29 ช่วงใกล้เข้าเส้นชัย จนเสียหลักล้ม แล้วเข้าเส้นชัยชูมือดีใจกับชัยชนะ เกิดขึ้นในรายการ FMSCT Thailand Road Racing Championship 2024 รุ่น Production 150 สนามที่ 5 ณ สนามแข่งรถไทยแลนด์เซอร์กิต สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากถึงความไร้น้ำใจนักกีฬา ทำให้เพื่อนร่วมอาชีพเสี่ยงอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตได้
ต่อมาทราบว่า ผู้ขับขี่รถหมายเลข 17 เป็นเยาวชนอายุ 14 ปี
ล่าสุดเฟซบุ๊ก สมาคมกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย – MSAT ได้ออกแถลงการณ์ บทลงโทษถึงผู้ก่อเหตุ ด้วยการระงับใบอนุญาตแข่งขันในปีหน้า ความว่า
“ตามที่ได้เกิดเหตุรถหมายเลข 17 และ หมายเลข 29 ในรายการ FMSCT Thailand Road Racing Championship 2024 รุ่น Production 150 สนามที่ 5 เก็บคะแนนชิงแชมป์ประเทศไทย วันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา
นายสนามได้ตัดสินว่า นักแข่งหมายเลข 17 ขับขี่รถอันตราย ปรับผลการแข่งขันลง 3 ตำแหน่ง
ต่อมาทีมแข่ง EEST NJT Racing Team ได้ประกาศลงโทษหมายเลข 17 ในสังกัด ไม่ให้ลงแข่งขันสนามที่ 6 วันที่ 21 ก.ค. โดยให้เหตุผลสอดคล้องกับคำตัดสินนายสนาม
เหตุการณ์ดังกล่าว สมาคมกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย มิได้นิ่งนอนใจ สั่งการให้คณะกรรมการจัดการแข่งขัน ประชุมพิจารณาโทษต่อเนื่อง โดยมติสมาคมมีดังนี้
1. ระงับใบอนุญาตแข่งขัน FMSCT License NO RR 67/010 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
2. งดออกใบอนุญาติ FMSCT License / FIM License ประจำปี 2568
สมาคมฯ มีนโยบายส่งเสริมกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์ตั้งแต่ระดับยุวชนจนถึงอาชีพ ไม่ส่งเสริมให้เกิดความรุนแรงและเสียหายต่อภาพพจน์กีฬาแข่งรถจักรยานยนต์
ด้านผู้ปกครองของนักแข่งหมายเลข 17 ได้แถลงผ่านเฟซบุ๊ก GUN17 เสียใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ความว่า “ผมในฐานะผู้ปกครองของเด็กชายพชรกร ขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงการแข่งขันในรายการ FMSCT Thailand Road Racing Championship สนามที่ 5 ทางผม และ เด็กชายพชรกรเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิด อยากจะขอโทษทาง
1) นักแข่งหมายเลข 29 นายกันตพัฒน์
2) ทางทีม EEST NJT Racing Team ที่ทำให้เกิดความเสียหายและเสียชื่อเสียง
สุดท้ายนี้ผม และเด็กชายพชรกร ได้รับบทเรียนและบทลงโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงอยากจะขอโทษมา ณ ที่นี้อีกครั้งครับ”
