‘ออสเตรเลีย’ สั่งกำจัด ‘สเปิร์ม’ ในธนาคาร เกือบครึ่ง มีปัญหาระบุเจ้าของ
ออสเตรเลีย วุ่น สั่งกำจัด สเปิร์ม ในรัฐควีนส์แลนด์ ในธนาคารสเปิร์มเกือบครึ่ง มีปัญหาระบุเจ้าของ ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้บริจาค รวมถึงคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางการรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลียได้สั่งกำจัดน้ำเชื้อภายในธนาคารสเปิร์ม หลังจากที่การตรวจสอบของผู้การแผ่นดินด้านสาธารณสุขพบว่าน้ำเชื้อเกือบครึ่งเผชิญไม่สามารถระบุตัวตนผู้บริจาคได้ ซึ่งจะส่งผลให้ไม่สามารถทราบข้อมูลทางพันธุกรรมที่สำคัญและบันทึกทางการแพทย์ รวมถึงเสี่ยงที่จะเกิดการร่วมประเวณีระหว่างพี่น้องโดยไม่ได้ตั้งใจด้วย
โดยจากรายงานระบุว่าจากร้อยละ 42 ของ อสุจิ, รังไข่ และ เอ็มบริโอที่ถูกบริจาคในรัฐควีนส์แลนด์มีปัญหาในการระบุตัวตนและติดตามเจ้าของ ส่งผลให้คลินิกไม่สามารถติดตามหาเจ้าของ ติดป้ายกำกับไม่ถูกต้อง นอกจากนี้จากรายงานพบว่า มีการปล่อยให้ตัวอย่างมีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แนะนำให้ทำลายของบริจาคที่ไม่ได้มาตรฐานการระบุตัวตน ทั้งนี้ไม่ได้มีตัวเลขยืนยันว่าจะมีสเปิร์มถูกทำลายมากขนาดไหน
อย่างไรก็ตามคำสั่งดังกล่าวจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศออสเตรเลียเนื่องจากประเทศออสเตรเลียนั้นประสบปัญหาสเปิร์มขาดแคลนอยู่แล้ว จากสถิติพบว่า 1 ใน 6 ครอบครัวออสเตรเลียมีปัญหาในการมีบุตร และอาศัยธนาคารสเปิร์มในการช่วยเหลือ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นักบุญอสุจิมีลูก 160 คน ตั้งเป้าเดินทางบริจาคสเปิร์ม เพื่อมีลูก 2,500 คนในสิบปี
- สาวลำบากใจ หลังเพื่อนร่วมงานก้มกราบขอ ‘สเปิร์มสามี’ เหตุสามีหล่อ
- ได้หรอ! หญิงญี่ปุ่น ประกาศ บริจาคลูก หลังโดนผู้บริจาคสเปิร์มหลอก