บันเทิง

รีวิว ‘Bad Boys: Ride or Die’ หนังมันส์ แอ็คชั่นส์-ฮา สนุกกว่าที่คิด

วิลล์ สมิธ และ มาร์ติน ลอว์เรนซ์ กลับมาสร้างสีสันให้หนังแอ็คชั่นคู่หูตำรวจภาค 4 สนุกกว่าที่คิด!

ในจักรวาลของ Bad Boys ที่มีมากว่า 4 ภาค เราได้เห็นวิวัฒนาการของหนังแอ็คชั่นสุดมันส์เรื่องนี้ ตั้งแต่ยุคแรกที่เต็มไปด้วยความสดใหม่ หนังต้นฉบับ (1995) ที่ทั้งซ่าส์ กวน และมันส์สุดๆ สู่ยุคที่ตัวละครเริ่มแก่ตัวลง และมาถึงช่วงสุดท้ายใน “Bad Boys: Ride or Die” ที่ทั้งนักแสดง ผู้ชม และวัฒนธรรมโดยรวมต่างก็คุ้นเคยกับความมันส์ระห่ำนี้จนคิดเอาเองว่าแทบจะไม่เหลืออะไรให้เซอร์ไพรส์

แต่ในภาคนี้ Bad Boys: Ride or Die วิลล์ สมิธและมาร์ติน ลอว์เรนซ์ กลับมาปลุกไฟความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ ด้วยความมันส์แบบจัดเต็มที่ผสมผสานระหว่างความตลกโปกฮาและความแอ็คชั่นขั้นเทพ

ที่น่าสนใจคือ จังหวะเวลาในการเข้าฉายของหนังเรื่องนี้ที่ดูเหมือนจะมาช่วยกอบกู้วงการฮอลลีวูด หลังจากที่หนังฟอร์มยักษ์หลายเรื่องทำรายได้น่าผิดหวังไปก่อนหน้านี้ เช่น “The Fall Guy” และ “Furiosa” หาก “Bad Boys: Ride or Die” ประสบความสำเร็จ มันจะเป็นเครื่องย้ำเตือนว่าหนังแอ็คชั่นสูตรสำเร็จแบบนี้ครองใจผู้ชมและยังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมภาพยนตร์มานานหลายทศวรรษ เพราะเราทุกคนต่างก็ชอบหนังที่ดูง่าย สนุก และคุ้นเคยกันดี

ในหนังภาคนี้ เราจะได้เห็น ไมค์ โลว์รีย์ (สมิธ) และ มาร์คัส เบอร์เน็ตต์ (ลอว์เรนซ์) คู่หูตำรวจขาประจำ ขับรถสปอร์ตซิ่งไปทั่วไมอามี่ พร้อมกับบทสนทนาสุดฮาในแบบฉบับของพวกเขา ฉากเปิดเรื่องที่ทั้งคู่หยุดแวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อของกินเล่น เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าหนังเรื่องนี้เน้นความบันเทิงแบบสุดๆ

ว่าด้วยพล็อตเรื่องค่อนข้างธรรมดา เกี่ยวกับการสืบสวนคดีทุจริตของตำรวจระดับสูง ซึ่งนำไปสู่การไล่ล่าสุดมันส์ เคมีของดารานำที่แม้จะต่างกันสุดขั้ว แต่ก็สามารถเล่นเข้าขากันได้อย่างลงตัว ทั้งสองไม่เพียงแค่รับส่งบทสนทนาได้อย่างไหลลื่น แต่ยังสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ชมได้อย่างไม่น่าเชื่อ

หนังแสบใช่ย่อย ใส่บทกล่าวถึงเหตุการณ์ตบหน้าของสมิธบนเวทีออสการ์อย่างตรงไปตรงมา โดยมีฉากที่มาร์คัสตบหน้าสมิธหลายครั้งพร้อมกับพูดว่า “bad boy” เป็นการล้อเลียนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอาจเป็นการช่วยให้สมิธหลุดพ้นจากภาพลักษณ์ด้านลบที่ติดตัวเขาเป็นตราบาป

“Ride or Die” เป็นหนังที่พูดถึง ‘ครอบครัว’ ในแบบฉบับของตัวเอง อดิส เอล อาร์บี และ บิลัล ฟอลลาห์ ผู้กำกับคู่หู ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการสร้างฉากแอ็คชั่นสุดระทึก ทั้งฉากยิงกันบนเฮลิคอปเตอร์ ฉากปะทะที่แคมป์ของสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ (NRA) และฉากสุดท้ายที่สวนสนุกในฟลอริด้า นอกจากนี้ ยังมีนักแสดงรับเชิญอย่าง ทิฟฟานี่ แฮดดิช, ดีเจ คาเล็ด และ ไมเคิล เบย์ มาร่วมสร้างสีสันให้กับเรื่องราวอีกด้วย

แม้พล็อตเรื่องอาจจะไม่แปลกใหม่ แต่การแสดงที่ยอดเยี่ยมของสมิธและลอว์เรนซ์ และฉากแอ็คชั่นที่จัดเต็ม ทำให้ “Bad Boys: Ride or Die” เป็นหนังที่คุ้มค่าแก่การรับชม และอาจเป็นหนังแอ็คชั่นคู่หูตำรวจที่คุณจะประทับใจที่สุดในรอบหลายปี

ในไทยเข้าฉายโรงแล้วตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา

Thaiger ให้คะแนน 2.5 เต็ม 5 ดาว

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button