ส่งกำลังใจ นักร้องดัง ‘ฮาลซีย์’ ต่อสู้โรคร้าย ป่วย SLE – มะเร็งเม็ดเลือดขาว

Danita S.เผยแพร่: 05 มิ.ย. 2567 11:29 น.| อัปเดต: 05 มิ.ย. 2567 12:04 น.

271 1 minute read

นักร้องสาว ‘ฮาลซีย์’ กลั่นประโยคสุดซึ้งทั้งน้ำตา “โชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่” พร้อมเปิดเผยเรื่องราวการต่อสู้กับโรคภูมิแพ้ตนเอง และมะเร็งเม็ดเลือดขาว

เมื่อวันอังคารที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา นักร้องสาวเสียงเพราะ แอชลีย์ นิคอเลตต์ แฟรนจิพานี หรือที่แฟน ๆ รู้จักกันในนาม ฮาลซีย์ (Halsey) ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวชีวิตผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @iamhalsey ว่า เธอกำลังต่อสู้กับโรค Systemic (SLE) หรือ ลูปัส และโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โพสต์ดังกล่าวปรากฏให้เห็นคลิปวิดีโอมากมายที่ถูกบันทึกไว้ขณะเข้ารับการรักษา ทั้งยังมีคลิปที่แอชลีย์หลั่งน้ำตาพรั่งพรูด้วยความสะเทือนใจ

“สั้น ๆ เลยนะ ฉันโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่” นักร้องสาววัย 29 ปี เขียนแคปชั่นเช่นนี้ไว้ในโพสต์ของเธอ พร้อมทิ้งท้ายด้วยว่า “ส่วนเรื่องราวทั้งหมด เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังผ่านอัลบั้มใหม่”

ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยการวินิจฉัยโรคที่แน่ชัดว่าเธอป่วยเป็นโรคอะไร แต่ฮาลซีย์ได้ติดแท็ก @lupusresearchalliance The Leukemia & Lymphoma Society (สมาคมโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งต่อมน้ำเหลือง) และ @llsusa Lupus Research Alliance (สมาคมวิจัยโรคลูปัส) ไว้ในโพสต์ของเธอ

ช่วงตอนของคลิปแรก ฮาลซีย์ได้กล่าวว่า “ฉันรู้สึกเหมือนคนแก่” พร้อมกับลูบขาของเธอไปมาด้วยท่าทีที่เจ็บปวด “ฉันบอกตัวเองว่า ฉันจะให้เวลาตัวเองอีกสองปีในการป่วย เมื่ออายุ 30 ฉันจะเกิดใหม่ และฉันจะไม่ป่วย ฉันจะดูสวยและมีพลังงานเยอะ ๆ ฉันจะได้กลับไปใช้ชีวิตวัย 20 ในช่วงวัย 30 ของฉัน”

ในคลิปที่สองปรากฏภาพขณะที่นักร้องสาวรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล พร้อมมีเครื่องมือทางการแพทย์ติดที่อยู่แขนขวา ระหว่างอัดคลิปเธอพูดกับกล้องว่า “วันนี้เป็นวันแรกของการรักษา” จากนั้นก็แพนกล้องไปที่เครื่องมือแพทย์และกลับมาที่ตัวเองอีกครั้ง

ภาพถัดไปในโพสต์เป็นภาพจากหน้าโน้ตในโทรศัพท์ของเธอที่มีชื่อว่า “the f***ing end of the world” และในส่วนคลิปถัดไปเป็นภาพของเธอขณะทำงานอยู่ในสตูดิโอ และกำลังอัดเพลงใหม่ที่มีชื่อว่า The End ซึ่งนักร้องสาวกำลังดีดกีตาร์ พร้อมกับร้องเพลงไปด้วย

นอกจากนี้ ฮาลซีย์ยังได้แชร์คลิปตัดต่อสั้น ๆ ที่ได้รวบรวมบันทึกการต่อสู้กับโรคของเธอ รวมถึงภาพที่เธอร้องไห้และกำลังเข้ารับการรักษาด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็มีภาพที่เธอกำลังฟังเพลง แขนของเธอที่ต่อกับสายน้ำเกลือ และภาพที่เธอชูนิ้วโป้งให้กล้องด้วยท่าทีที่เป็นบวก

อย่างไรก็ดี ในวันเดียวกันนั้น ฮาลซีย์ได้ปล่อยเพลงใหม่ที่มีชื่อว่า The End ซึ่งเป็นเพลงบัลลาดกีตาร์โปร่ง และหลังจากนี้ก็จะปล่อยอัลบั้มใหม่ ซึ่งเป็นภาคต่อจากสตูดิโออัลบั้มชุดที่สี่ของเธอ ในปี 2021 ที่มีชื่อว่า If I Can’t Have Love, I Want Power

ทั้งนี้ หลังเผยแพร่โพสต์ผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจศิลปินคนแกร่งกันอย่างล้นหลาม รวมไปถึงบัญชีอินสตาแกรมอย่างเป็นทางการของ MTV ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ด้วยว่า “คุณเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลาย ๆ คน”

นอกจากนั้นก็ยังมีข้อความให้กำลังใจจาก ริต้า โอรา (Rita Ora) นักร้องเพื่อนร่วมวงการที่เขียนไว้ว่า “ฉันหวังว่าคุณจะโอเค ผู้หญิงคนสวย” ในขณะที่ Sebastian Yatra นักร้องชาวโคลอมเบียได้เข้ามาคอมเมนต์อีโมจิมากมาย อาทิ มือที่กำลังภาวนาและแขนที่แข็งแรงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง

รวมถึงไปอินสตาแกรมของ The Leukemia & Lymphoma Society ก็ได้เข้ามาเขียนว่า “สั้น ๆ เลย ขอบคุณที่แบ่งปันเสียงและความเปราะบางของคุณกับโลก เราอยู่เคียงข้างคุณเสมอ @iamhalsey”

สื่อท้องถิ่นรายงานเพิ่มเติมว่า ฮาลซีย์กำลังบริจาคเงินให้กับทั้ง The Leukemia & Lymphoma Society และ Lupus Research Alliance ควบคู่ไปกับการเปิดตัวเพลง The End

ย้อนอาการป่วย ‘ฮาลซีย์’ นักร้องสาวผู้ต่อสู้กับโรคร้าย

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2022 ฮาลซีย์เคยโพสต์แจ้งผ่านอินสตาแกรมว่า เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค Ehlers-Danlos syndrome, Sjogren’s syndrome, mast cell activation syndrome (MCAS) และ postural orthostatic tachycardia syndrome (POTS)

ก่อนหน้านี้เธอเคยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการ Anaphylaxis หรือ อาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลันอยู่สองสามครั้ง และได้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากมาย เพื่อหาสาเหตุของอาการป่วยเรื้อรังของเธอ

ไม่เพียงเท่านั้น ศิลปินคนแกร่งยังป่วยเป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ และเคยอัปเดตอาการให้แฟน ๆ ของเธอทราบ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ถึงการยกเลิกผ่าตัด อ้างอิงจาก Mayo Clinic โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ “เป็นความผิดปกติที่มักเจ็บปวด ซึ่งเนื้อเยื่อที่คล้ายกับเนื้อเยื่อที่ปกติจะบุภายในมดลูกของคุณกลับกลายเป็นเติบโตนอกมดลูกของคุณ” และก่อนหน้านี้ เธอยังเคยเปิดเผยว่าเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้น (ADHD) และโรคไบโพลาร์ด้วย