ทุกการกระทำมีราคาต้องจ่าย ‘ใบเฟิร์น อัญชสา’ ฟ้องชนะคดีหมิ่นประมาท หลังโดนคอมเมนต์ติงแรงด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ คู่กรณีโพสต์น้อมรับผิดสิ่งที่ทำไป ด้านนักแสดงนำค่าเสียหายไปบริจาค
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ข่าวคราวของนักแสดงสาวมากฝีมือ ใบเฟิร์น อัญชสา มงคลสมัย ได้ตกเป็นประเด็นร้อนแรงอยู่ช่วงหนึ่ง โดยเธอถูกผู้ใช้แอพพลิเคชั่น X (ทวิตเตอร์) รายหนึ่ง คอมเมนต์ข้อความหมิ่นประมาท ด้วยถ้อยคำว่า “โง่” เหตุเพราะสาวใบเฟิร์นโพสต์ถามประเด็นทางการเมือง จากนั้นนำไปสู่การตัดสินใจฟ้องร้อง ในคดีหมิ่นประมาท เพื่อเป็นกรณีศึกษาให้กับชาวเน็ตเกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็นเกินขอบเขต
ล่าสุด (23 พฤษภาคม 2567) ‘ใบเฟิร์น อัญชสา’ ได้ออกมาโพสต์อัปเดตความคืบหน้าคดีฟ้องร้องดังกล่าว ผ่านทางบัญชี X ส่วนตัว @b1f3rn เผยว่า ขณะนี้ชนะคดีเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะอธิบายเพิ่มเติมถึงเหตุผลที่ทำให้เธอตัดสินใจฟ้องร้องว่า ทางคู่กรณีได้ท้าทายให้ฟ้องเพราะเชื่อว่าสิ่งที่พูดเป็นการวิจารณ์โดยสุจริตและไม่มีความผิด ซึ่งนักแสดงสาวก็ได้แนบตัวอย่างคอมเมนต์หมิ่นประมาทของคู่กรณีไว้ด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น สาวใบเฟิร์นยังได้เล่าถึงกระบวนการทางกฎหมายที่เกิดขึ้นในระยะเวลาเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา โดยเผยว่าคู่กรณีได้ขอไกล่เกลี่ย โดยจะยอมโพสต์ขอโทษทางโซเชียลมีเดีย เพราะอีกฝ่ายมีภาระหน้าที่ที่ต้องดูแลมารดา ทางศาลจึงได้ขอให้พิจารณาเรื่องค่าเสียหายใหม่อีกครั้ง และหลังจากตกลงเรื่องจำนวนเงินลงตัว เธอจึงนำเงินทั้งหมดที่ได้มาโอนบริจาคไปเรียบร้อยแล้ว
“สวัสดีค่ะทุกคน จากกรณีที่ นายวรรณกฤต มาปลูก ผู้ใช้แอพพลิเคชั่น X โดยใช้ชื่อบัญชี @wnknokiminoto ได้ดูหมิ่นเฟิร์นไว้ตามข้อความนี้ “ถ้าโง่ก็ต้องโดนแบบนี้แหละค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ให้คิดให้มากกว่านี้ ใช้สมองให้มากกว่านี้เชื่อว่าจะไม่โดนทัวร์ลงอีกค่ะ“ และยังได้มีการท้าทายให้เฟิร์นฟ้องเพราะเชื่อว่าสิ่งที่พูดเป็นการวิจารณ์โดยสุจริตและไม่มีความผิด ทำให้เฟิร์นตัดสินใจฟ้อง และดำเนินมาซักพักจนวันนี้กรณีนี้ ‘จบแล้ว’ เฟิร์นเลยอยากมาเขียนเรื่องนี้เพื่อสรุปไว้ เผื่อจะเป็น case study สำหรับผู้ใช้ Social media ท่านอื่นค่ะ
จากข้อความข้างต้นและจริง ๆ ยังมีอีกหลายข้อความที่ทางนายวรรณกฤต มาปลูก ได้พิมพ์ไว้ วันนี้ศาลได้ตัดสินแล้วว่าคำเหล่านั้น ‘มีความผิดตามกฏหมาย’ นะคะ ทางนายวรรณกฤต (หลังจากนี้จะขอเรียกว่า นายเกมส์) ได้ชี้แจงกับเฟิร์นว่า เข้าใจว่าคำว่า ‘โง่’ เป็นคำทั่วไปที่ใช้ใน X และไม่น่าจะมีความผิด โดยเจตนาของข้อความคือการ ‘เตือนด้วยความหวังดี’
ศาลท่านได้คุยกับนายเกมส์ถึงความเข้าใจผิดนี้ ว่าเราไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้คำแบบนี้กับคนอื่นไม่ว่าเจตนาจะเป็นอย่างไรก็ตาม เพราะคำพูดของเราได้กระทบกับผู้อื่นให้ได้รับความเดือดร้อน และถึงแม้จะลบข้อความนั้นออกไปแล้ว แต่ถือว่าสิ่งนั้นได้ทำไปแล้ว การลบไม่ได้ช่วยให้ความผิดหายไป
ทางนายเกมส์ได้ขอไกล่เกลี่ยกับเฟิร์น โดยจะยอมโพสต์ขอโทษทางโซเชียลมีเดีย และนายเกมส์ได้พูดถึงภาระที่ต้องดูแลมารดา ทางศาลจึงได้ขอให้เฟิร์นพิจารณาเรื่องค่าเสียหายใหม่อีกครั้ง เฟิร์นขอละเรื่องจำนวนเงินไว้นะคะ แต่เงินที่ได้มาในวันนี้เฟิร์นโอนเงินไปบริจาคทั้งหมดแล้ว
เผื่อใครไม่ทราบเรื่องตั้งแต่ต้น เฟิร์นได้มีการเขียนข้อความใน X เป็นคำถามเกี่ยวกับเรื่องการเมืองที่เฟิร์นไม่รู้จริงๆ และถามเพื่ออยากได้คำตอบ แต่ผลปรากฏว่ามีคนเข้ามาด่าหยาบคายเป็นจำนวนมาก (แต่ตอนนี้ลบออกไปกันเกือบหมดแล้ว) ซึ่งเฟิร์นขอแสดงจุดยืนอีกครั้งตามนี้ค่ะ
- การที่เราถามอะไรด้วยความไม่รู้ ไม่มีใครสมควรโดนด่าว่า ‘โง่’ เพราะไม่ได้มีใครรอบรู้ได้ทุกเรื่อง
- การเห็นต่างทางการเมืองไม่ควรจะต้องมาใช้คำหยาบคายด่าทอกัน เราสามารถคุยด้วยเหตุผลกันได้
- การฟ้องของบุคคลสาธารณะไม่ใช่การรังแกคนอื่น เพราะบุคคลสาธารณะไม่ใช่คนที่ต้องมารองรับทุกอารมณ์ ทุกคำพูด ทุกการกระทำ ของทุกคน
- การวิจารณ์โดยสุจริตเป็นสิ่งที่พึงกระทำได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของกฏหมาย
ทั้งนี้ ในทั้งหมดที่เขียนมาเฟิร์นได้มีการขออนุญาตทางศาลแล้ว รวมถึงรูปที่ลงก็ได้รับการอนุญาตจากนายเกมส์แล้วเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ใช้โซเชียลมีเดีย เฟิร์นขอให้ทุกคนใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีสติ ขอให้รู้ว่าทุกการกระทำมีราคาที่ต้องจ่าย และคุณต้องรับผิดชอบของการกระทำของตัวเอง สุดท้าย.. การหาตัวตนของบุคคลในโซเชียลมีเดียไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าคิดจะทำค่ะ
สุดท้ายจริง ๆ ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้เฟิร์นตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่องจนวันนี้ (1ปีพอดีเลย) ตอนนั้นมันยากมากแต่ก็ผ่านมาได้ ขอบคุณคนที่ส่งเบาะแสมาให้ด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนทั้งหน้าไมค์หลังไมค์ เฟิร์นอาจไม่ได้ตอบกลับทั้งหมดแต่อ่านหมดแน่นอน ขอบคุณอีกรอบนะคะ”
อย่างไรก็ดี นอกจากสาวใบเฟิร์นจะออกมาโพสต์อัปเดตความคืบหน้าของคดีแล้ว เธอยังได้แชร์ภาพข้อความขอโทษจากฝั่งคู่กรณีด้วย ซึ่งได้กล่าวน้อมรับความผิดที่เกิดขึ้น และบอกว่าทำไปโดยขาดการยั้งไตร่ตรอง จนเป็นเหตุให้สิ่งที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงถูกเผยแพร่อยู่บนอินเทอร์เน็ต พร้อมทิ้งท้ายว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีก หากผิดสัญญาจะยินดีรับโทษตามกฎหมาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
