เลขเครื่องบินตกหลุมอากาศ SQ321 ยอดผู้โดยสาร บาดเจ็บ เวลาลงจอดฉุกเฉิน

Aindravudhเผยแพร่: 22 พ.ค. 2567 20:19 น.| อัปเดต: 31 พ.ค. 2567 15:35 น.

5,550 1 minute read

พรุ่งนี้หวยออก เลขเด็ด 1 มิถุนายน 67 เครื่องบินตกหลุมอากาศ SQ321 สิงคโปร์แอร์ไลน์ รุ่นเครื่องบิน ยอดผู้โดยสาร บาดเจ็บ เสียชีวิต เวลาลงจอดฉุกเฉิน

จากเหตุการณ์ระทึก เที่ยวบิน SQ321 ของสิงคโปร์แอร์ไลน์ เดินทางจากท่าอากาศยานฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน ไปยังสิงคโปร์ เจอเหตุการณ์ตกหลุมอากาศเหนือทะเลอันดามันเมื่อวันอังคารที่ 21 พฤษภาคม มีผู้โดยสาร 20 รายยังคงรักษาตัวในห้องไอซียู สายการบินระบุว่า โบอิ้ง 777-300ER บรรทุกผู้โดยสาร 211 คน และลูกเรือ 18 คน ร่วงลง 1,800 เมตร ภายในเวลาประมาณสามนาที

กัปตันจึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ลงจอดฉุกเฉินเมื่อเวลา 15:45 น. ทีมแพทย์ได้ทำการประเมินผู้ที่อยู่บนเครื่องและส่งตัวผู้โดยสารที่บาดเจ็บกว่า 80 คนไปโรงพยาบาล สิงคโปร์แอร์ไลน์สส่งเที่ยวบินพิเศษไปยังกรุงเทพฯ ในคืนวันเดียวกันเพื่อรับผู้โดยสารที่สามารถเดินทางต่อได้ มีผู้โดยสาร 131 คนและลูกเรือ 12 คน เดินทางถึงท่าอากาศยานชางงี สิงคโปร์ เมื่อเวลาประมาณ 5.00 น.

The Boeing 777-300ER aircraft of Singapore Airlines, is parked after the SQ321 London-Singapore flight, that encountered severe turbulence, at Suvarnabhumi International Airport, near Bangkok, Thailand (AP Photo/Sakchai Lalit)

วันพุธที่ 22 พ.ค. เจ้าหน้าที่สอบสวนการบินเดินทางถึงกรุงเทพฯ เพื่อหาสาเหตุที่เที่ยวบินสิงคโปร์แอร์ไลน์สประสบเหตุการณ์ตกหลุมอากาศอย่างรุนแรง ส่งผลให้เครื่องบินดิ่งลงอย่างกะทันหัน ผู้โดยสารและลูกเรือกระเด็นไปทั่วห้องโดยสาร มีชายชาวอังกฤษ อายุ 73 ปีเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวาย และบาดเจ็บอีกหลายสิบราย

นายโก๊ะ จุน ฟง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสิงคโปร์แอร์ไลน์ส กล่าวว่า ลูกเรือ 6 คนและผู้โดยสาร 79 คน พักรักษาตัวในกรุงเทพฯ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในโรงพยาบาล

โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่รับผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ ระบุว่า มีผู้ป่วย 20 รายที่กำลังรักษาตัวในห้องไอซียู และอีก 27 รายได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว ผู้ป่วยในห้องไอซียูประกอบด้วยชาวอังกฤษ 6 คน ชาวมาเลเซีย 6 คน ชาวออสเตรเลีย 3 คน ชาวสิงคโปร์ 2 คน และชาวฮ่องกง นิวซีแลนด์ และฟิลิปปินส์ ประเทศละ 1 คน

โรงพยาบาลกล่าวว่า มีผู้ป่วย 9 รายที่เข้ารับการผ่าตัดในวันอังคาร และคาดว่าจะผ่าตัดอีก 5 รายในวันพุธ โดยโรงพยาบาลได้ให้การดูแลรักษาทางการแพทย์แก่ผู้โดยสารทั้งหมด 104 คน

ผู้โดยสารที่บาดเจ็บ จอช ซิลเวอร์สโตน อายุ 24 ปี ซึ่งออกจากโรงพยาบาลแล้ววันนี้ กล่าวว่า “ผมมีแค่แผลที่ตาและฟันบิ่น มันอาจจะแย่กว่านี้ก็ได้ ทุกอย่างปกติดีจนกระทั่งผมกลับมาถึงสนามบินและอาเจียนไม่หยุด ผมเดินไม่ได้ มันแย่มาก” ชายชาวลอนดอนกล่าวเสริมว่า “ผมตื่นขึ้นมาบนพื้น ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมคงจะหัวกระแทกอะไรสักอย่าง มีคนนอนอยู่บนพื้น พวกเขาขยับไม่ได้”

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า เขากลัวมากจนต้องซื้ออินเทอร์เน็ตบนเครื่องบินเพื่อส่งข้อความถึงแม่ของเขา “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้แม่กลัว แต่ผมบอกเธอว่า ‘ผมรักแม่'”

แอนดรูว์ เดวีส์ ผู้โดยสารชาวอังกฤษเล่าว่า สัญญาณรัดเข็มขัดนิรภัยดังขึ้นก่อนเกิดเหตุการณ์ตกหลุมรุนแรง แต่ลูกเรือไม่มีเวลาเข้าที่นั่ง

“ลูกเรือทุกคนที่ผมเห็นได้รับบาดเจ็บไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง บางคนมีแผลบนหัว มีคนหนึ่งปวดหลังมาก เห็นได้ชัดว่าเจ็บปวด”

ข้อมูลการติดตามที่บันทึกโดย FlightRadar24 และวิเคราะห์โดย AP แสดงให้เห็นว่าเที่ยวบินในวันอังคารบินที่ระดับความสูง 11,300 เมตร

ข้อมูลระบุว่า ณ จุดหนึ่ง โบอิ้ง 777-300ER ร่วงลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงไปอยู่ที่ระดับความสูง 9,400 เมตร ภายในเวลาประมาณสามนาที จากนั้นเครื่องบินอยู่ที่ระดับความสูง 9,400 เมตร เป็นเวลาน้อยกว่า 10 นาที ก่อนที่จะเปลี่ยนเส้นทางและลงจอดที่กรุงเทพฯ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อมา

คนส่วนใหญ่มักจะเชื่อมโยงความปั่นป่วนกับพายุหนัก แต่ประเภทที่อันตรายที่สุดคือสิ่งที่เรียกว่า clear air turbulence (CAT) Wind shear สามารถเกิดขึ้นได้ในเมฆเซอรัสที่บางเบาหรือแม้แต่ในอากาศแจ่มใสใกล้กับพายุฝนฟ้าคะนอง เนื่องจากความแตกต่างของอุณหภูมิและความดันสร้างกระแสลมที่เคลื่อนที่เร็ว

ตามรายงานปี 2021 ของคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ ตกหลุมอากาศ คิดเป็น 37.6% ของอุบัติเหตุทั้งหมดในสายการบินพาณิชย์ขนาดใหญ่ระหว่างปี 2009 ถึง 2018 สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ อีกแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ครื่องบินตกหลุมอากาศระหว่างปี 2009 ถึง 2021 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 146 คน

“สำหรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและผู้โดยสาร ความรู้สึกสั่นไหวกลางอากาศที่เรียกว่า turbulence เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของกระแสลม” แถลงการณ์จากสมาคมพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินในสหรัฐอเมริกากล่าว

แถลงการณ์กล่าวเสริมว่า turbulence ที่เกิดขึ้นในอากาศแจ่มใสนั้นแทบจะตรวจไม่พบด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน “วินาทีหนึ่งคุณกำลังบินอย่างราบรื่น วินาทีต่อมาผู้โดยสาร ลูกเรือ และรถเข็น หรือสิ่งของอื่นๆ ที่ไม่ได้รับการรักษาความปลอดภัยก็ถูกเหวี่ยงไปทั่วห้องโดยสาร”

“ปฏิบัติตามคำแนะนำของลูกเรือเสมอและคาดเข็มขัดนิรภัยเมื่อนั่ง มันเป็นเรื่องของชีวิตและความตาย” แถลงการณ์กล่าวเสริม

สิงคโปร์แอร์ไลน์สกล่าวว่า ผู้โดยสารนอกเหนือจากชาวออสเตรเลีย 56 คน ยังมีชาวแคนาดา 2 คน ชาวเยอรมัน 1 คน ชาวอินเดีย 3 คน ชาวอินโดนีเซีย 2 คน ชาวไอซ์แลนด์ 1 คน ชาวไอริช 4 คน ชาวอิสราเอล 1 คน ชาวมาเลเซีย 16 คน ชาวเมียนมา 2 คน ชาวนิวซีแลนด์ 23 คน ชาวฟิลิปปินส์ 5 คน ชาวสิงคโปร์ 41 คน ชาวเกาหลีใต้ 1 คน ชาวสเปน 2 คน ชาวอังกฤษ 47 คน และชาวสหรัฐอเมริกา 4 คน