ประวัติ ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา
- IG : charlettewasiiita
- เกิดวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2548 อายุ 19 ปี
- เกิดที่เมืองเบราน์ชไวค์ เยอรมนี
- ลูกครึ่ง แม่คนไทย พ่อคนเยอรมนี
- จบการศึกษาระดับประถมศึกษาจาก โรงเรียนเลิศหล้ากาญจนาภิเษก
- สอบ GED หรือ General Educational Development
- ศึกษาระดับปริญญาตรีหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล (สองภาษา/สามภาษา) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
- ผลงานสร้างชื่อ ดอกส้มสีทอง Delete และ บางกอกคณิกา
จุดเริ่มต้นจาก “เรยา” วัยเด็ก ปากแจ๋น
เส้นทางชีวิตของสาวน้อยลูกครึ่งไทย-เยอรมัน “ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา” นางเอกดาวรุ่งอายุ 19 ปี เริ่มต้นขึ้นบนเวทีสายบันเทิงตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบ ด้วยบทบาทเล็ก ๆ ในละคร “วิวาห์ว้าวุ่น” แต่ใครจะรู้ว่าเพียงปีเดียว ใน พ.ศ. 2554 เด็กน้อยคนนี้จะกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศจากบท “เรยา” วัยเด็ก ในละครดัง “ดอกส้มสีทอง” ที่สร้างปรากฏการณ์ความนิยมถล่มทลายทั่วบ้านทั่วเมือง รับบทที่ท้าทายและซับซ้อนตั้งแต่อายุยังน้อย
“อีแก่บ้าน้ำลาย พูดพล่ามอะไรไม่รู้เรื่อง” ประโยคเด็ดจากฉากหนึ่งในละครที่ชะเลทต้องแว๊ดๆ ในแม่ค้าในตลาด แบบเปรี้ยวเกินวัย จนกลายมาเป็นมรมที่คนเล่นในอินเตอร์เน็ตกระทั่งเดี๋ยวนี้
เส้นทางการเรียนรู้ของชาร์เลทก็เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นและความแตกต่าง ไม่ได้ตีกรอบตัวเองแค่การศึกษาขนบ ชาร์เลทเลือกที่จะลาออกจากโรงเรียนเพื่อสอบ GED เทียบเท่า ม.6 ตามระบบอเมริกัน ซึ่งต้องใช้ความพยายามและความรับผิดชอบสูงมากกับเด็กที่ต้องทำงานในวงการไปด้วย
ชาร์เลทเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี สาขาภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล (สองภาษา/สามภาษา) ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ยืนยันความสนใจและความมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเองในสายงานที่เธอรัก ใช้ต่อยอดได้ในอนาคต
ตลอดเส้นทางการแสดง ชาร์เลทไม่เคยหยุดพัฒนาฝีมือ ผ่านบทบาทที่หลากหลาย ทั้งบทเด็กใสซื่อน่ารักใน “The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ” หรือบทดราม่าสุดเข้มข้นที่ต้องถ่ายทอดอารมณ์อย่างลึกซึ้งใน “ซ่อนเงารัก” และที่ท้าทายยิ่งกว่านั้นคือบทบู๊แอ็คชั่นใน “ดงพญาเย็น” ที่เธอต้องฝึกฝนร่างกายอย่างหนักเพื่อรับบท “สร้อย/สร้อยสุดาเทวี” ให้สมจริงที่สุด
Delete ซีรีย์ Netflix เปิดทางให้ชาร์เลทกลับมาฉายแสง
ในออริจินัลซีรีย์ของ Netflix อย่าง Delete ที่ออกฉายในปี 2023 ชาร์เลท ได้รับคำวิจารย์ชื่นชมอย่างมาก เธอพาผู้ชมดำดิ่งสู่ห้วงอารมณ์ของตัวละคร “จูน” เด็กสาวผู้มีปมในใจจากการสูญเสียแม่และต้องปรับตัวกับครอบครัวใหม่ เธอถ่ายทอดความรู้สึกโดดเดี่ยว ความโกรธ และความเจ็บปวดออกมาได้อย่างลึกซึ้ง จนทำให้ผู้ชมอินตามไปกับตัวละครได้อย่างง่ายดาย
ไม่เพียงแค่การแสดงออกทางอารมณ์เท่านั้น ชาร์เลทยังสามารถถ่ายทอดความซับซ้อนของตัวละคร “จูน” ที่มีความขัดแย้งในตัวเองออกมาได้อย่างน่าสนใจ สามารถสลับไปมาระหว่างความไร้เดียงสาของเด็กสาววัยมัธยม กับความมืดมิดที่ซ่อนอยู่ภายในได้อย่างแนบเนียน ทำให้ตัวละครนี้มีมิติและน่าติดตาม
ฉากที่ต้องแสดงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับตัวละครอื่น ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ชาร์เลทแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นความรักที่ไม่สมหวัง ความอิจฉาริษยา หรือความรู้สึกผิดที่กัดกินใจ เธอสามารถถ่ายทอดอารมณ์เหล่านี้ออกมาผ่านแววตา ท่าทาง และน้ำเสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติ
บางกอกคณิกา บทพิสูจน์ ชาร์เลท ที่ไม่มีใครกังขาฝีมือ
ปีนี้การที่ชาร์เลทได้รับโอกาสอันท้าทายกับบท “เทียนหยด” ในละคร “บางกอกคณิกา” ช่อง ONE31 ฉากถูกประมูลพรหมจรรย์ ด้วยน้ำมือ ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เธอเล่นได้สมจริงสะเทือนใจ จนแฟนละครอินไปกับเสียงร้องสิ้นหวังของหญิงสาวผู้บริสุทธิ์ที่ต้องเผชิญชะตากรรมอันโหดร้ายในซ่อง
ชาร์เลท เรื่องนี้เล่นได้ละเอียดอ่อนและทรงพลัง เธอถ่ายทอดความหวาดกลัว ความสิ้นหวัง และความเจ็บปวดออกมาได้อย่างจับใจ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเห็นอกเห็นใจและเอาใจช่วยตัวละครนี้ได้อย่างเต็มที่ แถมยังต้องโชว์ทักษะฝีมือการเต้นโชว์แนวเบอร์เลสอีกด้วยนะ
ฉากที่ต้องปะทะอารมณ์กับ “แม่ราตรี” (รับบทโดย อ้อม พิยดา) แม่เล้าผู้โหดเหี้ยม หรือฉากที่ต้องแสดงความรักและความห่วงใยต่อเพื่อนร่วมชะตากรรม เธอสามารถถ่ายทอดอารมณ์เหล่านี้ออกมาได้อย่างลึกซึ้งและกินใจ
จากเด็กน้อยหน้าจอแก้วที่เคยสะกดคนดูด้วยความน่ารักสดใส วันนี้ชาร์เลทเติบโตเป็นสาวสวยเต็มตัว พร้อมด้วยความสามารถและประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน เธอคือดาวดวงใหม่ที่เจิดจรัสในวงการบันเทิงไทย และด้วยความสามารถ ความมุ่งมั่น และความเป็นตัวของตัวเอง เชื่อว่าเส้นทางของเธอจะเปล่งประกายยิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต
ภาพจาก : charlettewasiiita