ทนาย ‘บิ๊กโจ๊ก’ ยื่นขอความเป็นธรรม ชี้ สน.เตาปูน ไม่มีอำนาจออกหมาย
ทนาย บิ๊กโจ๊ก ยื่นขอความเป็นธรรม ชี้ สน.เตาปูน ไม่มีอำนาจออกหมายจับหรือหมายเรียก เพราะคดีอยู่กับ ป.ป.ช. และ DSI แล้ว ลั่นไม่พบเส้นทางถึงบิ๊กโจ๊กและภรรยา
นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ ทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ได้เดินทางมายัง สน.เตาปูน เพื่อร้องขอความธรรม เนื่องจากคดี BNK Master อยู่ในมือ DSI และ ป.ป.ช. แล้ว จึงทำให้พนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ไม่มีอำนาจสอบสวนคดี รวมไปถึงไม่มีอำนาจออกหมายเรียกและหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในคดีฟอกเงิน
โดยนายณัฐวิชช์ ระบุว่า ตนได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้มายื่นหนังสือต่อ ผกก.สน.เตาปูน เพื่อให้ทราบถึงข้อเท็จจริงว่า ในคดี BNK Master ไม่อยู่ในอำนาจการสอบสวนของตำรวจ สน.เตาปูนแล้ว เพราะอำนาจการสอบสวนของคดีนี้อยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. จึงไม่ชอบที่จะมีการออกหมายเรียกหรือถึงขั้นออกหมายจับตามที่ปรากฎตามข่าว
พร้อมยืนยันว่า จากข้อกล่าวหาที่ว่ามีเส้นเงินเว็บพนัน BNK Master ถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และภรรยานั้น ไม่เป็นความจริงและไม่ปรากฎเส้นเงินตามที่กล่าวหาแต่อย่างใด แต่ที่เอามาดำเนินคดีเพราะอ้างว่า มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงถึง พ.ต.ท.คริษฐ์ ซึ่งเป็นเรื่องในคดีเว็บพนันมินนี่ แต่นำมาดำเนินคดีอีกครั้งที่ สน.เตาปูน โดยอ้างว่าเชื่อมโยงถึงคดีเว็บพนัน BNK Master ทั้งที่ความจริง คดีเว็บพนันมินนี่อยู่ในมือ ป.ป.ช. แล้วตั้งแต่ 4 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ทว่า ผบช.น. ตั้งคณะพนักงานสอบสวนมาดำเนินคดีที่ สน.เตาปูน โดยนำพยานหลักฐานเดิมของคดีมินนี่มาใช้กล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทั้งที่ไม่ว่าเส้นเงินทั้งสองคดี ไม่มีส่วนไหนเชื่อมถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แม้แต่น้อย
ซึ่งที่ สน.เตาปูน ในคดี BNK Master เป็นการกล่าวหาฟอกเงินกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งในข้อเท็จจริง หาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทราบว่า ลูกน้องของท่านมีส่วนรับเงินพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์ ท่านต้องถูกดำเนินคดีตาม ม.149 และ 157 ด้วย แต่ทำไมที่ สน.เตาปูน ถึงแจ้งเฉพาะข้อหาฟอกเงิน ไม่แจ้งข้อหา ม.157 ก็เพื่อที่คดีนี้จะอยู่ในมือของตำรวจ ไม่ส่งไปถึง ป.ป.ช. เหมือนคดีเว็บพนันมินนี่ที่แจ้งข้อหา ม.157 ด้วย จนทำให้สำนวนคดีเข้าสู่อำนาจของ ป.ป.ช.
เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.คริษฐ์ ที่แจ้งเพียงช้อหาฟอกเงินเท่านั้น ทำไมไม่แจ้งข้อหา ม.149 กับ 157 ยังยืนยันว่า ไม่ใช่แค่เรื่องฟอกเงินอย่างเดียวเท่านั้น ต้องมีเรื่องมาตรา 149 กับ 157 ที่ท้องที่นี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือ พ.ต.ท.คริษฐ์ ทั้งที่มีข้อเท็จจริงว่าก่อนหน้านี้ มีตำรวจสืบสวนจากภูธรสงขลา มาแจ้งความเพิ่ม พ.ต.ท.คริษฐ์ ตาม ม.149 และ 157 แต่ทำไมไม่แจ้งข้อหาดังกล่าว
นอกจากนี้ตนตั้งข้อสังเกตว่า คดีเว็บพนัน BNK Master มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.เตาปูน ตั้งแต่ 3 ธันวาคม 2566 ทั้งที่ตามกฎหมายของปปชแล้ว หากเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ที่มีตำแหน่งระดับสูงถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คดีอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. ไม่ใช่พนักงานสอบสวนตามปกติ ซึ่งพนักงานสอบสวนมีเพียงแค่อำนาจในการรวบรวมข้อเท็จจริงเบื้องต้น ก่อนส่งให้ ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน ซึ่งตั้งแต่ 3 ธันวาคมมาจนถึงวันนี้ ผ่านมา 120 กว่าวันแล้ว ไม่ปรากฎการส่งเรื่องถึง ป.ป.ช. แต่อย่างใด จึงย้ำว่า ตำรวจไม่มีอำนาจออกหมายเรียกใด ๆ กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์
จึงมองว่าเรื่องนี้เป็นการเลือกปฏิบัติเพื่อเอาผิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้ได้ เพราะเส้นทางการเงินของนางพิมวิไลในคดีเว็บพนัน BNK Master โยงไปถึงนายตำรวจระดับสูงรายอื่นๆ อีก แต่ทำไมดำเนินคดีเฉพาะเส้นเงินที่โยงไปถึง พ.ต.ท.คริษฐ์ แล้วเส้นเงินอื่นๆ มีการออกหมายเรียกดำเนินคดีแล้วหรือยัง ย้ำว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่เคยได้รับหมายเรียกสักครั้ง ทำไมถึงออกหมายเรียกตามที่ปรากฏในข่าวถี่เกินไป ทั้งที่ควรเว้นไว้สัก 15 วัน แต่นี่ไม่ถึง 10 วันก็ออกใหม่เรียกครั้งที่ 2 แล้ว ถือเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ ในการเร่งรัดกันออกหมายเรียกตามสื่อมวลชนผิดปกติ
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า คณะพนักงานสอบสวนจะนำหมายเรียกครั้ง 3 ไปยื่นแก่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ภายในวันนี้ที่สำนักงาน ก.พ. ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวิชช์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับแจ้งจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แต่อย่างใด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- จับตาวันนี้! ‘บิ๊กโจ๊ก’ หลังโดนหมายเรียกรอบ 3 ถ้าไม่มาลุ้นโดนหมายจับ
- ออกหมายเรียก ‘บิ๊กโจ๊ก’ ครั้งสุดท้าย 1 เม.ย. ถ้าไม่มาอีก เจอหมายจับ
- ทนายตั้ม แจ้งเอาผิด “บิ๊กต่อ-ภรรยา” ฟอกเงิน ประสาน พิมพ์วิไล เป็นพยาน