SHAD นักร้องฟิลิปปินส์ โพสต์ชี้แจง ดราม่าชุบมือเปิป ค่าลิขสิทธิ์เพลงไทย
ทนเสียงวิจารณ์ไม่ไหว นักร้องโคฟเวอร์ชาวฟิลิปปินส์ โพสต์ชี้แจง หลังโดนทัวร์ลง เพราะนำเพลง ‘พี่ชอบหนูที่สุดเลย’ ของนักร้อง PONCHET ไปร้องเป็นภาษาอังกฤษและอัปโหลดลงสตรีมมิ่ง ฮุบเงินค่าลิขสิทธิ์ ไม่ให้เครดิตเจ้าของเพลง
จากกรณีวิพากษ์วิจารณ์เดือดจนนำไปสู่ปมขัดแย้งระหว่างแฟนเพลงไทยและฟิลิปปินส์ เหตุเพราะนักร้องโคฟเวอร์ชาวฟิลิปปินส์นามว่า SHAD นำเพลง ‘พี่ชอบหนูที่สุดเลย’ ของนักร้อง PONCHET ไปโคฟเวอร์เป็นภาษาอังกฤษ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเพลงเป็น ‘I LIKE YOU THE MOST’ และเผยแพร่ลงสตรีมมิ่ง โดยไม่ได้ให้เครดิต PONCHET ผู้เป็นเจ้าของเพลง ซ้ำยังรับค่าลิขสิทธิ์ไปเต็ม ๆ ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนทำผลงานเพลงนี้ออกมา
หลังเงียบหายไปตั้งแต่เกิดเรื่อง ล่าสุด (27 มีนาคม 2567) พ่อหนุ่มนักร้องโคฟเวอร์ ‘SHAD’ ก็ได้ออกมาโพสต์แถลงถึงประเด็นดังกล่าว ผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว IG : shaddybu โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความถึงดราม่าทั้งหมดว่า ไม่เคยอ้างสิทธิ์ในเพลงนี้ ซึ่งชื่อศิลปินที่ปรากฏในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งก็เป็นเพียงการบอกชื่อผู้ร้อง ไม่ใช่ในฐานะเจ้าของเพลง พร้อมบอกด้วยว่าเกิดข้อผิดพลาด Spotify ทำให้ไม่สามารถระบุชื่อเจ้าของเพลงตัวจริงได้ ก่อนจะทิ้งท้ายว่าก่อนอัปโหลดเพลงได้มีการติดต่อไปยัง PONCHET เรียบร้อยแล้ว
“สวัสดีทุกคน ผมเขียนข้อความนี้ขึ้นมา เพื่อชี้แจงในถกเถียงเกี่ยวกับเพลงโคฟเวอร์ “I Like You The Most” (เพลงต้นฉบับคือ พี่ชอบหนูที่สุดเลย (I Like You The Most) ของ PONCHET ft. Varinz)
1. ผมขอย้ำว่าผมไม่เคยอ้างสิทธิ์ในเพลงนี้ ในตอนที่อัปโหลดวิดีโอโคฟเวอร์ลงบน YouTube ก็ได้ตั้งชื่อวิดีโอชัดเจนว่า “ponchet i like you the most ft. varinz (shad english cover)” เพื่อให้เครดิตแก่ศิลปินต้นฉบับ ในส่วนของชื่อเพลงบน Spotify “SHAD I Like You The Most” เป็นเพียงการระบุชื่อในฐานะผู้ร้องเพลง ไม่ได้หมายความว่าผมเป็นเจ้าของเพลง
2. สำหรับการไม่ให้เครดิตใน Spotify ในระหว่างการอัปโหลด ทางเราพบข้อผิดพลาดบางอย่าง ทำให้ไม่สามารถใส่ชื่อ Producer และนักแต่งเพลงลงไปได้ ทั้งหมดนั้นเกิดจากความไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งทางเราก็กำลังดำเนินการแก้ไขอยู่ ได้โปรดรอ 2 – 3 วัน เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล
3. ทางเราได้ติดต่อไปยังทีมงานของ PONCHET ก่อนที่จะปัญหานี้จะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจว่าให้แน่ใจว่า การเผยแพร่ในครั้งนี้ดำเนินไปอย่างรอบคอบและการให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ในระหว่างนี้ ผมตัดสินใจปิดการแสดงความคิดเห็นบนบัญชีโซเชียลมีเดียของผมชั่วคราว เพื่อไม่ให้เกิดการโต้เถียงขึ้นในพื้นที่นี้ อย่างไรก็ดี ผมจะยังคงมุ่งมั่นที่จะแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอบคุณสำหรับความเข้าใจ”
ทั้งนี้ คงต้องติดตามกันต่อไปว่าเหตุการณ์นี้จะจบลงเช่นไร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง