แจ้งข้อหา 7 ตำรวจวิสามัญหนุ่มขับรถแหกด่าน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ขณะที่ผู้เสียชีวิตถูกแจ้งข้อหาพยายามฆ่า หลังขับรถชนรถที่จอดติดไฟแดง ด้านพ่อคนตาย เผยย้ายศพไปเก็บที่โรงพยาบาล รอข้อชัดเจนของคดี ขณะผู้การยันตำรวจไม่โยนปืนทิ้งตามอ้าง
สำหรับความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต และ สภ.เชิงทะเล ร่วมกันวิสามัญ นายชิษณุพงษ์ เครือจันทร์ อายุ 29 ปี เสียชีวิต เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น.ของวันที่ วันที่ 18 กันยายน2561 ที่ผ่านมา
หลังจากที่ผู้ตายได้ขับรถแหกด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจในตัวเมืองภูเก็ต และหลบหนีไปทางพื้นที่สภ.เชิงทะเล ทางญาติของผู้เสียชีวิตได้นำศพมายังศาลากลางจังหวัดภูเก็ตเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม อ้างตำรวจทำเกินกว่าเหตุ และเรียกร้องให้ย้าย ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า ในเรื่องของการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้มีการเสนอคำสั่งให้โยกย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 7 นาย มายังตนแล้ว
และขณะนี้ก็มีคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่ตำรวจภูธรจังหวัดพังงา เป็นการชั่วคราว และตั้งกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ เพื่อลดความกังวลของผู้สูญเสีย และขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงานด้วย
พร้อมกันนี้ ยังได้กำชับไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ในการให้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบสวนข้อเท็จจริงให้ทราบผลโดยเร็ว และต้องละเอียดรอบคอบเพราะเรื่องนี้มีผลกระทบต่อขวัญ และกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วยเช่นกัน
ด้าน พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของคดีขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาตำรวจทั้ง 7 นาย ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา คดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน ตำรวจต้องทำคดีอย่างรอบคอบ ตำรวจไม่ได้ทำคดีเพียงลำพัง แต่มีอัยการ ฝ่ายปกครองเข้ามาร่วมสอบสวนด้วย
ในส่วนของกรณีที่มีการเปิดคลิปที่สงสัยว่าตำรวจทิ้งปืนหลังเกิดเหตุ ในส่วนนี้ตนได้สอบถามพ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต แล้ว ทราบว่าคนที่ถูกตั้งข้อสงสัยนั้นเป็นเจ้าหน้าที่อาสา ไม่ได้เป็นตำรวจ และไม่ได้เข้าใกล้ที่เกิดเหตุ อยู่ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 20 เมตร
ซึ่งทราบว่าสิ่งที่โยนคือ หน้ากากหมวกกันน็อกที่ตกแตก ไม่ใช่ปืน ถ้าเขาจะโยนปืน ถามว่าเขาจะโยนทำไม และอาสาไม่ได้พกปืน
พล.ต.ต.ธีระพล ยังกล่าวอีกว่า ตำรวจไม่ได้ทำคดีโดยช่วยเหลือพวกกันเอง แต่ทำคดีให้ตรงไปตรงมา เพื่อความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย หากญาติผู้ตายมองว่าไม่เป็นธรรมก็สามารถไปตั้งทนายฟ้องร้องคดีเองได้ กระบวนการยุติธรรมมี 3 ศาล
ในส่วนของตำรวจเขาก็มีสิทธิที่จะต่อสู้คดีของเขาได้เช่นกัน หลังเกิดเหตุทางผู้ใต้บังคับบัญชาเสียขวัญกำลังใจแต่ตนก็ได้เรียกประชุมว่าไม่ต้องกังวลให้ทุกคนทำงานให้เต็มความสามารถ ดูแลความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้ประชาชนจนเต็มความสามารถ ทุกคนก็มีขวัญกำลังใจดีขึ้น
ด้าน นายอรุณ เครือจันทร์ บิดาของนายชิษณุพงศ์ เครือจันทร์ อายุ 29 ปี ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญหลังขับรถแหกด่าน กล่าวว่า ในส่วนของศพลูกชายขณะนี้ได้เคลื่อนมาเก็บไว้ที่โรงพยาบาลถลาง เพื่อรอผลการพิสูจน์วิถีกระสุนจากศูนย์พิสูจน์หลักฐานจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งหลังจากทราบผลจะตัดสินใจอีกครั้งว่า จะดำเนินการต่อไปอย่างไร ซึ่งยังไม่สามารถบอกระยะเวลาที่แน่นอนได้
หากผลออกมาไม่เป็นไปตามหลักฐานที่มีอยู่ โดยเฉพาะคลิปวิดีโอที่ปรากฏ ก็จะมีการส่งศพไปตรวจต่อที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และหลังจากนั้นจะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ว่า กระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์วิถีกระสุนที่ชัดเจนอีกครั้ง
- ติดตามเราได้ที่ :