อีเว้นท์ไลฟ์สไตล์

รู้จัก ‘รอมฎอน’ เดือนถือศีลอด 30 วัน ตามความเชื่อหลักมุสลิม

ในแต่ละปี ชาวมุสลิมหลายล้านคน รวมทั้งชาวมุสลิมในไทย ร่วมถือศีลอดตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตกเป็นเวลา 30 วันในช่วง รอมฎอน สำหรับในไทยเอง ปีนี้ สำนักจุฬาราชมนตรี ออกประกาศกำหนดวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1445 ตรงกับวันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2567

ในโอกาสนี้ Thaiger จึงขอพาทุกท่านมารู้จักความเป็นมา เดือนรอมฎอน คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรกับคนนับถือมุสลิม กับความเชื่อถือศิลอด 30 วัน พร้อมเผยเกร็ดน่ารู้ที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบเกี่ยวกับ รอมฎอน

Advertisements

รอมฎอน คืออะไร ?

เดือนรอมฎอน (เราะมะฎอน) เป็นเดือนรอมฎอนกะรีม ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดสำหรับชาวมุสลิมทั่วโลก เป็นช่วงเวลาแห่งการไตร่ตรองทางจิตวิญญาณ การพัฒนาตนเอง และการอุทิศตนแด่อัลลอฮ์

ในช่วงเดือนนี้ ชาวมุสลิมถือศีลอดในช่วงเวลากลางวัน หรือตลอดพระอาทิตย์ขึ้นทั้งเดือน โดยการละศีลอดสิ้นสุดลงในแต่ละวันเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน จึงจะสามารถทานอาหารที่เรียกว่าอิฟตาร์ แล้วรอมฎอน แท้จริงแล้วคืออะไรกันละ วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงความสำคัญ และบางสิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับเดือนนี้กัน

รอมฎอนกะรีม แปลว่าอะไร ?

รอมฎอน (รอมฎอนกะรีม) เป็นเดือนที่เก้าตามปฏิทินอิสลาม เชื่อกันว่าเป็นช่วงที่อัลกุรอานถูกประทานลงมาแก่ศาสดามูฮัมหมัดในช่วงเดือนนี้

ชาวมุสลิม จึงถือศีลอดในช่วงเวลากลางวันเพื่อฝึกการอดกลั้น ฝึกวินัยในตนเอง และเพิ่มความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณกับอัลลอฮ์ ซึ่งการถือศีลอดเป็นหนึ่งในห้าเสาหลักแห่งอิสลาม และเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับชาวมุสลิมที่เป็นผู้ใหญ่ทุกคน ที่สามารถถือศีลอดทั้งทางร่างกายและจิตใจได้

ทั้งนี้การถือศีลอด จะสิ้นสุดลงในแต่ละวันก็ต่อเมื่อพระอาทิตย์ตกดินด้วยอาหารที่เรียกว่าอิฟตาร์ นอกจากนี้ เดือนรอมฎอน ยังถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการให้ และชาวมุสลิมบางส่วนได้รับการให้บริจาคแก่ผู้ยากไร้และคนขัดสนในช่วงเดือนนี้เช่นกัน

Advertisements

ความสำคัญของ รอมฎอน ต่อศาสนาอิสลาม

เดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งการต่ออายุจิตวิญญาณและเป็นเวลาที่จะมุ่งเน้นไปที่ความศรัทธา การละเว้นจากอาหาร เครื่องดื่ม และความต้องการทางร่างกายอื่น ๆ ในระหว่างวัน ซึ่งทำให้ชาวมุสลิมจะสามารถพัฒนาวินัยในตนเองและการควบคุมตนเองได้

นอกจากนี้ การถือศีลอดยังเป็นเครื่องเตือนให้ชาวมุสลิมนึกถึงพรที่พวกเขามี และกระตุ้นให้พวกเขารู้สึกขอบคุณในสิ่งที่ตนมี เป็นเดือนแห่งการให้อภัย และชาวมุสลิมได้รับการสนับสนุนให้ขออภัยโทษจากอัลลอฮ์และให้อภัยผู้อื่น

สิ่งที่คุณยังไม่รู้เกี่ยวกับเดือนรอมฎอน

1. ช่วงเวลาศึกษาคัมภีร์อัลกุรอาน

เดือนรอมฎอนไม่ใช่แค่การถือศีลอดเท่านั้น ชาวมุสลิมยังได้รับการสนับสนุนให้อ่านและใคร่ครวญอัลกุรอานในช่วงเดือนนี้ด้วย ชาวมุสลิมจำนวนมากพยายามอ่านอัลกุรอานให้เสร็จทั้งหมดในช่วงเดือนรอมฎอน

การอ่านและทำความเข้าใจอัลกุรอาน เนื่องจากช่วยให้ชาวมุสลิมเชื่อมต่อกับอัลลอฮ์และเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาศรัทธา มีความเชื่อกันว่าอัลกุรอาน ถูกเปิดเผยแก่ศาสดามูฮัมหมัดเป็นครั้งแรกในช่วงเดือนรอมฎอน ทำให้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งในการศึกษาคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์นี้

2. ละเว้นการทำชั่วทั้งปวง

การถือศีลอดไม่ได้เป็นเพียงการละเว้นจากอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ชาวมุสลิมยังให้ละเว้นจากพฤติกรรมไม่ดีทั้งปวง เช่น การโกหก การนินทา และการโต้เถียง

เดือนรอมฎอน เป็นช่วงเวลาแห่งการชำระล้างตนเองและให้ความสำคัญกับพฤติกรรมและการกระทำในเชิงบวก ด้วยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเชิงลบ เพราะเชื่อว่าชาวมุสลิมจะสามารถมุ่งเน้นไปที่การเติบโตทางจิตวิญญาณและการเชื่อมโยงกับอัลลอฮ์ได้ดีขึ้น

3. ไม่จำเป็นต้องทำทุกคนก็ได้

ชาวมุสลิมที่เจ็บป่วย สูงอายุ หรือกำลังเดินทางจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องถือศีลอด พวกเขาสามารถชดเชยวันที่ขาดไปในภายหลังหรือจ่ายเงินให้คนอื่นถือศีลอดแทนพวกเขา ข้อยกเว้นนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าอิสลามให้ความสำคัญกับความเห็นอกเห็นใจและความเข้าใจ

ศาสนาควรได้รับการปฏิบัติในลักษณะที่สมเหตุสมผลและคำนึงถึงสถานการณ์ของแต่ละบุคคล เป็นสิ่งสำคัญสำหรับชาวมุสลิมในการจัดลำดับความสำคัญของสุขภาพและความปลอดภัย และเข้าหาการถือศีลอดด้วยสติและคำนึงถึงสถานการณ์ส่วนตัวของพวกเขา

เดือนรอมฎอนเป็นช่วงเวลาสำหรับการไตร่ตรองทางจิตวิญญาณ การพัฒนาตนเอง และการให้ ไม่ใช่แค่การถือศีลอด แต่ยังเกี่ยวกับการอ่านอัลกุรอาน การละเว้นจากพฤติกรรมเชิงลบ และการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ

การเข้าใจความหมายที่แท้จริงของเดือนรอมฎอนสามารถช่วยให้ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมเห็นคุณค่าของเดือนศักดิ์สิทธิ์นี้สำหรับชาวมุสลิมทั่วโลก ด้วยการถือศีลอด ชาวมุสลิมสามารถพัฒนาวินัยในตนเองและการควบคุมตนเองได้

เช่นเดียวกับความซาบซึ้งในพรที่พวกเขามี เดือนรอมฎอนเป็นช่วงเวลาแห่งการรื้อฟื้นศรัทธาและแสวงหาการให้อภัย และเป็นการเตือนใจที่ทรงพลังถึงความสำคัญของความเห็นอกเห็นใจ ความกรุณา และความเข้าใจในชีวิตของเรา

**บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ Thaiger มกราคม พ.ศ. 2565

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button