แม่ร้อง ลูกสาว ป.4 เรียนทำ CPR ถูกจับแก้ผ้า ให้เพื่อนเวียนปั๊มอก-เขี่ยจุก ที่ไหนทำกัน?
เกิดอะไรขึ้น! เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรียนการวัดชีพจร ซีพีอาร์ เผยให้คุณแม่ว่า โดนให้ถอดเสื้อ เหลือแค่กางเกงใน แถมยังต้องเขี่ยจุกนมให้เพื่อนชม ผู้ปกครองเดือดจัด แบบนี้ส่อผิดกฎหมายทางเพศหรือไม่
รายงานข่าวไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นอีก(แล้ว)ในสังคมไทย กรณีเฟซบุ๊กเพจ จิตวิทยาเด็กและครอบครัว ปรึกษาเรื่องเลี้ยงลูก กลุ่มให้ความรู้ เล่าเหตุการณ์สุดแปลก เมื่อลูกสาววัยเด็ก ที่เพิ่งเรียนอยู่ในระดับชั้น ป.4 ถูกคุณครูในโรงเรียน จับแก้ผ้าเหลือแต่กางเกงในต่อหน้าทุกคน เพื่อสอนวิธีทำ ซีพีอาร์ (CPR) หรือการวัดชีพจร ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น จนทำผู้ปกครองในกลุ่มวิตกว่า นี่เป็นการสอนที่ถูกหลักแน่หรือ และกลายเป็นกระแสดราม่า ถกเถียงถึงความเหมาะสมกันอย่างดุเดือดบนโลกโซเชียล
ทั้งนี้ คุณแม่คนดังกล่าว จึงได้เขียนบรรยายรายละเอียดเรื่องราวทั้งหมด โพสต์ลงในกลุ่มจิตวิทยาเด็กและครอบครัวฯ ถึงประเด็นเรื่องความเหมาะสมของกิจกรรมการสอนปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่โรงเรียนของลูกสาวได้จัดการเรียนการสอนไป โดยระบุว่า
“สอบถามค่ะยาวหน่อยนะคะจะได้ไม่ตกหล่น มีการสอนทํา cpr แล้วใช้ลูกสาวมาเป็นคนที่นอนสลบ แล้วขั้น ตอนการสอนจะมีการถอดเสื้อเพื่อปั๊มหัวใจ แล้วก็สอนใช้ เครื่องมือที่เอามาแปะไม่รู้ชื่ออะไร พอแปะๆแล้วก็สอนขั้นตอน ต่างๆ สังเกตุสีจุกว่าจะสีแบบไหน อธิบายไปหมด แล้วก็ให้แตะ จุกว่าตั้งมั้ยเพื่อดูการตอบสนอง
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตอนแรกเป็นผู้ หญิง แต่ก็มีการถามว่าเด็กคนไหนอยากลองทํามั้ย เด็กก็ ยกมือมาวนเวียนทําพร้อมทีมสอนไปด้วย จากที่เห็นเจ้าหน้าที่ ก็สอนปกติ เด็กก็ปั้ม จุดที่แม่ไม่ค่อยชอบก็ตอนปั๊มมันมีโดน หน้าอกน้อง กับตอนเขี่ยจุกดูซึ่งเด็กชายเนอะเห็นเลยว่าจุกลูก ตั้งทีมงานก็บอกจะเป็นการตอบสนองถ้าไม่ตั้งสีซีดคืออันตราย
จบรอบแรกก็ไปหลังเวทีเตรียมรอบสอง รอบสองจากกรณีจมน้ําเป็นการเป็นลมแทน ขั้นตอนปั๊มก็ เหมือนเดิม ถอดเสื้อออกอีกแล้วมีคนพัดลมให้ แต่ที่ตกใจรอบ นี้ถอดกระโปรงกางเกงในน้องด้วยกางขาเล็กน้อยแต่เห็นเค้า แปะเทปกาวที่จุดลับน้องอยู่ โดยทีมสอนบอกว่ากรณีเป็นลม เพราะอากาศจะต้องให้สบายตัวไม่อึดอัดที่สุดแล้วกดตรวจชีพจรที่ขาหนีบ
เลยสอบถามค่ะว่านี่ขั้นตอนตามปกติเลยใช่มั้ยคะ เพราะที่มาสอนจะเป็นพี่กู้ภัย แค่ไม่ค่อยดีกับที่ลูกต้องโดนจับหน้าอกเขี่ย จุกเกือบเห็นหมดแล้วแต่ตอนนั้นก็คิดแค่ว่ามันอาจจะดีเพราะที่ มีการสอนเกิดจากมีเด็กจมน้ําบ่อยๆเลยอยากให้มีความรู้เบื้องต้น ก่อนหน้ามีการสอนช่วยคนจมน้ํา สอนว่ายน้ําไปแล้ว (เด็กที่เข้ารับการสอนจะเป็นป.4/ป.6) สถานที่แบบปิดคนนอก เข้าไม่ได้ แม่ ๆ คิดว่าไงบ้างคะ”
กระทั่ง ต่อมา เฟซบุ๊กเพจ แม่บ้านคุณหมอ ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า การใช้คนจริง ๆ เพื่อสอนวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นแบบ CPR อาจเกิดอันตรายร้ายแรงได้ อาทิ ซี่โครงหัก ทำให้หน่วยงานหลายแห่งมักใช้หุ่นทดสอบเพื่อทำการฝึกภาคปฏิบัติ
สำหรับ เหตุการณ์สอนเด็ก ป.4 ทำซีพีอาร์ เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะเด็กผู้หญิงบางคนเริ่มมีหน้าอก การที่ให้ทำกิจกรรมเหล่านี้ท่ามกลาง เจ้าหน้าที่ชายและนักเรียนชาย จึงเป็นสิ่งที่ไม่ให้การเคารพในสิทธิส่วนบุคคล
“เมื่อวานอ่านกิจกรรมกีฬารร.ให้เด็กอนุบาลแก้ผ้าแล้วแต่งตัว ยังช็อคไม่หาย!!! วันนี้ตื่นมาอ่านสอนเด็กป.4 CPR แบบแปลกๆอีก #ใช้คนจริง!! การ cpr กับคนจริงมีโอกาสเกิดอันตรายได้ เช่น ซี่โครงหัก หลายที่จึงจำเป็นต้องใช้หุ่น หากใช้คนจริงจะไม่ลงนน. สอนแค่สถานการณ์+ทำท่าเท่านั้น #ถอดเสื้อหมด!! ป.4 น้องผู้หญิงบางคนเป็นสาวมีหน้าอกแล้ว กิจกรรมนี้มีทั้งจนท.ชาย และนร.ชาย #วัดชีพจรขาหนีบให้ถอดช่วงล่าง!! บุคลากรยังหาชีพจรขาหนีบยาก ภาคปชช.วัดที่คอก็ได้ #เขี่ยจุก!!! นี่อ่านวนหลายรอบมาก แวบแรกคิดว่าอุปกรณ์ ย้อนกลับไปอ่านดีๆ เด็กผญ. ป.4/ป.6 ถอดเสื้อ ดูสีจุก เขี่ยจุก‼️ ถ้าฉันเป็นแม่เด็ก…โรงพักไปทางไหน Cr. กลุ่ม จิตวิทยาเด็กและครอบครัว ปรึกษาเรื่องเลี้ยงลูก”
นอกจากประเด็นเกี่ยวกับการเรียนทำซีพีอาร์แล้ว ยังมีในเรื่องข้อกฎหมายเกี่ยวกับ การที่โรงเรียนให้นักเรียนชั้น ป.4 ถอดเสื้อโชว์เรือนร่างต่อหน้าผู้อื่น จะเป็นการเข้าข่ายการกระทำผิดข้อกฎหมายเกี่ยวกับเพศหรือไม่ เช่น ความผิดการคุกคามทางเพศ หรือการคุกคามอันมีลักษณะส่อไปในทางที่จะล่วงเกินทางเพศ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 วรรคสอง
ทั้งนี้ อาจต้องรอการชี้แจงจากโรงเรียนและการอัปเดตข่าวสารเบื้องต้นจากผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ป.4 ที่อยู่ในเหตุการณ์ ว่าจะมีการร้องเรียนในประเด็นนี้ต่อไปไหม หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะมารายงานให้ทราบต่อไปครับ.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง