ก้าวไกล แสดงความกังวล หลังศาลอ่านคำวินิจฉัย กรณีแก้ ม.112 ชี้กระทบประชาธิปไตยประเทศ อาจจะเป็นปมปัญหาขัดแย้งยิ่งขึ้น
จากกรณีที่ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย แก้ ม.112 ล้มล้างการปกครอง สั่งยุติการกระทำ เลิกแสดงความเห็น พูด คิดเห็น พิมพ์โฆษณา โดยระบุว่าเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ทำให้อ่อนแอลง นำไปสู่การล้มล้างการปกครอง แต่ยังไม่โดนยุบพรรคตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี่นั้น
นาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้ตั้งโต๊ะแถลงถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่าวันนี้จะให้นายด ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นคนแถลงเป็นภาษาไทย ส่วนนายพิธาจะแถลงเป็นภาษาอังกฤษ
นาย ชัยธวัช กล่าวว่า แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่าพรรคก้าวไกลใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขอยืนยันว่าไม่มีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลายแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังกังวลว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเมืองไทยระยะยาว เช่นกระทบความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างศาลรัฐธรรมนูญและฝ่ายนิติบัญญัติในอนาคต
อาจจะกระทบต่อความเข้าใจและความหมายของคำว่าระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นมนุษย์ หลักการเมืองไม่มีความชัดเจนแน่นอน อะไรที่เคยทำได้ในอดีต อาจกลายเป็นการล้มล้างการปกครองได้ในปัจจุบันและอนาคต ยังกระทบเรื่องสำคัญเช่นการตีความว่าอะไรคือการล้มล้างการปกครอง อาจจะเกิดปัญหาที่เราเข้าใจหลักเกณฑ์ไม่ตรงกัน มีความคลุมเครือ ทั้งในการตีความข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และเจตนา
คำวินิจฉัยในวันนี้อาจจะก่อให้เกิดปัญหาต่อดุลยภาพระหว่างประชาธิปไตยและสถาบันในระบอบการเมืองไทยในอนาคต อาจจะทำให้สังคมสูญเสียโอกาสในการใช้ระบอบรัฐสภา ในการหาข้อยุติความขัดแย้งความคิดเห็นที่ต่างกันในอนาคต
สุดท้ายคำวินิจฉัยในวันนี้อาจจะส่งผลกระทบ ให้ประเด็นเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์อาจจะเป็นปมปัญหาขัดแย้งยิ่งขึ้น อาจจะส่งผลกระทบด้านลบต่อสถาบันเสียอีก
พรรคก้าวไกลขอขอบคุณทุกกำลังที่ส่งให้หลังคำวินิจฉัย อย่างไรก็ตามคำวินิจฉัยในวันนี้จะไม่กระทบแค่พรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่จะกระทบต่อความเป็นประชาธิปไตยของประเทศและสิทธิเสรีภาพของทุกคน สิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นเรื่องของเราทุกคน ไม่ใช่แค่ของพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องของอนาคตของประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ด่วน! ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย แก้ ม.112 ล้มล้างการปกครอง สั่งยุติการกระทำ
