ชายดวงดี เก็บก้อนกรวดใส ในอุทยานเลื่องชื่อเรื่องการขุดหาเพชร ส่งไปตรวจสอบพบว่า แท้จริงคือ เพชรบริสุทธิ์ไร้สีหนัก 4.87 กะรัต
แข่งเรือแข่งพายแข่งกันได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนา แข่งกันไม่ได้จริง ๆ วันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม 2566 เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ UPI รายงานว่า นักท่องเที่ยวชายชาวอเมริกันรายหนึ่ง เดินทางไปเยี่ยมชมอุทยานแห่งรัฐเครเตอร์ออฟไดมอนด์ส (Crater of Diamonds State Park) ในอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนจะพบว่าก้อนกรวดใสที่เก็บได้คือ เพชรบริสุทธิ์ 4.87 กะรัต
อุทยานแห่งรัฐเครเตอร์ออฟไดมอนด์ส เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ขึ้นชื่อเรื่องอัญมณีล้ำค่ามากมาย ก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวไม่น้อยที่เดินทางมาขุดหาเพชร อีกทั้งบางส่วนยังพบเจอเพชรด้วยความบังเอิญเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวรายนี้
นักท่องเที่ยวผู้โชคดีมีชื่อว่า เจอร์รี อีแวนส์ (Jerry Evans) จากเมืองเลอเพนโต เขาเพิ่งมาเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติในเมืองเมอร์ฟรีสโบโรเป็นครั้งแรก แล้วได้พบกับก้อนกรวดสีใสดูสวยงาม เขาจึงเก็บเอาไว้ในกระเป๋า
เจอร์รีบอกกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งรัฐอาร์คันซอว่า เขาไม่รู้ว่าคืออะไร เพราะวัตถุประหลาดชิ้นนี้ดูใสมาก ตอนแรกคิดว่าเป็นเศษแก้วด้วยซ้ำ แต่ก็เลือกที่จะเก็บมาเพราะคิดว่าอาจเป็นเพชรก็ได้ ซึ่งหลังจากชมอุทยานเรียบร้อย เขาก็ส่งก้อนกรวดใสไปให้สถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งอเมริกา หรือ จีไอเอ (GIA) เพื่อตรวจสอบวัตถุดังกล่าวให้แน่ใจ
หลังส่งกรวดใสให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบไม่นาน เขาก็ทราบว่า สิ่งที่เขาคิดว่าเป็นแก้วในตอนแรก แท้จริงคือเพชรน้ำหนัก 4.87 กะรัต เป็นเพชรบริสุทธิ์ แทบไม่มีสีเลย
เจอร์รีเล่าว่า ตอนที่รู้ว่าเก็บเพชรได้ เขาดีใจแทบสิ้นสติ ต่อมาเขาได้ติดต่อกับอุทยานแห่งรัฐเครเตอร์ออฟไดมอนด์ส เพื่อขึ้นทะเบียนการค้นพบเพชรเม็ดนี้
ต่อมาเวย์มอน ค็อกซ์ (Waymon Cox) ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานได้แถลงข่าวการค้นพบเพชร 4.87 กะรัต โดยบอกว่า ทางอุทยานได้รับอีเมลจำนวนมากจากนักท่องเที่ยว พวกเขาต้องการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบวัตถุที่พบภายในอุทยาน แต่เท่าที่จำความได้ นี่เป็นครั้งแรกที่มีนักท่องเที่ยวส่งวัตถุที่พบได้ไปให้ GIA ตรวจสอบ
ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานกล่าวด้วยว่า ทางอุทยานดีใจที่เจอร์รี นำเพชรเก่าแก่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ มาขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการ โดยเพชรที่เจอร์รีพบในครั้งนี้ เป็นเพชรที่ใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ขุดพบเพชรสีน้ำตาลขนาด 9.07 กะรัต เมื่อปี 2563
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง : UPI
