โหนกระแส แฉคดีตำรวจข่มขืน-รีดเงิน 3 แสน งัดประโยคเด็ดบอก “ดูแลรอบนอก”
รายการโหนกระแส คุ้ยปมฉาว 7 ตำรวจชุดสืบปทุมธานีรีดเงิน 3 แสน เปลี่ยนจากคดียาเคเป็นยาบ้า 2 เม็ด ฉาวหนักเรียกเงินเพิ่มแถมขอมีเพศสัมพันธ์ บอกเป็นดูแลรอบนอก หัวอกสามีประกันออกมรู้ข่าวเลือดขึ้นหน้า
วันที่ 13 ธันวาคม 2566 เอ หญิงสาวผู้เสียหายซึ่งตกเป็นเหยื่อของ 7 ตำรวจกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดปทุมธานี รีดทรัพย์เป็นจำนวนกว่า 300,000 บาท แลกกับการเปลี่ยนข้อหาจากครอบครองเคตามีน ยาเสพติดที่ออกฤทธิ์หลอนประสาทรุนแรงเป็นมียาบ้า 2 เม็ด ออกมาให้สัมภาษณ์กับ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ผู้ดำเนินรายการ โดยเปิดเผยรายละเอียดอย่างถี่ถ้วนในวันเกิดเหตุ 23 พ.ย.66ที่เธอและสามีถูกถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี บุกเข้าจับกุม โดยฝ่ายชายมียาเคในครอบครอง ตอนที่ถูกจับตำรวจจับแยกทั้งคู่ออกจากกัน โดยฝ่ายชายไปขึ้นรถตำรวจ ส่วนฝ่ายหญิงขึ้นรถของตำรวจ
ระหว่างที่ถูกควบคุมตัวบนรถ ผู้เสียหาย เล่าว่า ทางเจ้าหน้าที่มีการพูดกับเธอว่า “โทษหนักนะ ติดคุกนานแน่ จะให้ช่วยไหม” จากนั้นเหยื่อจึงสอบถามขั้นตอนช่วยเหลือนั้นเป็นอย่างไร กระทั่งสุดท้ายจากผู้ต้องหาคดียาเสพติดจึงกลายเป็นมีคดีสลดเพิ่มตามมา
“คนที่ต่อรองกับหนู เขาก็เรียกหนูไปอีกชั้นหนึ่ง บอกว่าคุยกับนายให้แล้วนะ จบที่ 3 แสน” เอ ผู้เสียหาย กล่าวกับ หนุ่ม กรรชัย ก่อนที่ตัวเธอจะสอบถามกับเจ้าหน้าที่ซึ่งยื่นข้อเสนอให้ว่า จ่ายแล้วจบใช่หรือไม่ ? เมื่อคำตอบคือใช่ เธอเองจึงตกลงยินยอมจะจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้
ต่อมา กรรชัย ถามจ่าย 3 แสนบาทแล้วจบเลย ? ผู้เสียหายก็บอกว่า แค่เปลี่ยนจากคดีครอบครองเคตามีนเป็นมียาบ้า 2 เม็ด และจะช่วยให้สามีไม่ติดคุก
เมื่อมีการตกลงรับข้อเสนอกันแบบลับ ๆ ตำรวจที่ถูกกล่าวหาจึงพาเหยื่อไปตระเวนกดเงิน ทำธุรกรรมต่าง ๆ จนกดเงินสดมาได้ 3 แสนบาท
ตระเวนกดเงินเสร็จ ขอเงินเพิ่ม เหยื่อสาวเล่าสามีรู้ทำใจไม่ได้
หลังจากมีการพาฝ่ายหญิงไปตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็มจนเงินที่เรียกครบตามที่เรียกไว้ โดยผุ้เสียหายโอนไปทั้งหมด 3 ครั้ง เจ้าหน้าที่นายหนึ่งก็บอกกับผู้เสียหายช่วยขนาดนี้ ไม่ได้อะไรเลย เงิน 3 แสนก็ต้องให้นายหมด แล้วแบบนี้จะดูแลยังไง
“ก็คือเขาบอก เนี่ยคุยกับนายแล้วจะดูแลxxxยังไง ดูแลรอบนอก ก็ถามว่ารอบนอกคืออะไร ก็คือรบนอก ก็คือก้อนนี้xxxไม่ได้อะไรเลย” เหยื่อเล่าหลังจากโอนเงินเธอก็ยังถูกรีดไถเพิ่มด้วยการขอเงินเพิ่มอีกจำนวน 30,000 บาท
“เขาบอกว่าขออีก 3 หมื่นกับขอนอนด้วย”
ผู้เสียหายยอมรับว่า ช่วงเวลาดังกล่าวตัวเธอเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ขัดขืนได้ยากลำบาก ทำให้ในที่สุดต้องยอมทำตามที่เสนอ ยอมให้เงินไป แล้วยอมให้ตำรวจมีสัมพันธ์ด้วย หลังจากนั้นตำรวจก็เอาตัวแฟนหนุ่มไปฝากขัง นอนในห้องขัง 1 คืน แล้วฝ่ายหญิงไปจ่ายเงินประกันตัวในเช้าวันรุ่งขึ้น 5,000 บาท ไม่ต้องเข้าเรือนจำ แต่ต้องไปรายงานตัวตามกำหนด
พอกลับมาอยู่บ้าน สามีสังเกตความผิดปกติของแฟน มีอาการซึมเศร้า ไม่พูดไม่จา ไม่ยอมกินข้าว จนเค้นถามจนทราบความจริงที่เล่นเอาแทบล้มทั้งยืนว่า วันที่สามีถูกควบคุมตัวเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เมื่อทราบเรื่องทั้งหมด ฝ่ายหญิง เผยว่า สามีเธอโกรธแค้นมากและต้องการจะเอาผิดตำรวจนายนี้ให้ถึงที่สุด แล้วต่อมาสามีได้ไปปรึกษากับตำรวจนายหนึ่งว่าจะเอาผิดตำรวจที่ทำกับเมียอย่างไรได้บ้าง ตำรวจที่ให้คำปรึกษาบอกว่า ถ้าลุยเองคงยาก แนะนำให้ไปร้องสายไหมต้องรอดจะมีน้ำหนักมากกว่า จนนำไปสู่การร้องกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ซึ่งถึงตอนนี้ความคืบหน้าทางคดีได้มีการสั่งย้ายพร้อมกับตั้งคณะสอบสวนข้อเท็จจริงโดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและเร่งสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว หากทำผิดจริง ต้องโดนโทษทั้งทางวินัยและอาญา
ทั้งนี้ ในส่วนของข้อมูลเพิ่มเติมในวันเกิดเหตุ มีตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดปทุมธานีทั้งสิ้น 7 นาย บวกกับอีก 1 ราย เป็นอาสาสมัครตารวจบ้าน หรือ อส.ตำรวจ.