บันเทิงบันเทิงเกาหลี

BLACKPINK เส้นทางสู่ความสำเร็จกับการลุ้นการต่อสัญญากับทาง YG

ย้อนรอยดูเส้นทางแห่งความสำเร็จและประวัติของสาวๆวง BLACKPINK แห่งค่าย YG Entertainment ที่กว่าจะได้เดบิวต์มาเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นเบอร์ 1 แห่งยุคเจน 3 ทั้ง 4 สาวนั้นได้ผ่านอุปสรรคและความท้าทายอะไรกันมาบ้างถึงได้มาเป็น BLACKPINK ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีผู้คนรู้จัก รักและชื่นชมได้อย่างมากมายขนาดนี้ วันนี้เรามาย้อนรอยความทรงจำแห่งความสำเร็จของทั้ง 4 สาวกัน

ประวัติวง BLACKPINK กว่าจะมายืนแถวหน้าของโลก

ภาพจาก : funcurve

ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ.2559 วันที่ 8 สิงหาคม ทางค่าย YG Entertainment ได้มีการเดบิวต์เกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ในรอบ 7ปี ภายใต้ชื่อ “BLACKPINK” โดยมีสมาชิกทั้งหมด 4 คน ได้แก่ จีซู (Kim Ji Soo) สาวเกาหลีที่เป็นพี่ใหญ่จากกรุงโซล , เจนนี่ (Jennie Kim) สาวเกาหลีที่ได้ไปเติบโตใช้ชีวิตในประเทศนิวซีแลนด์ตั้งแต่เด็ก , โรเซ่ (Rosé) อีกหนึ่งสาวเกาหลีที่เกิดและเติบโตในประเทศออสเตรเลีย และ ลิซ่า (Lisa) สาวชาวไทยที่ต้องต่อสู้กับวัฒนธรรมที่ต่างและภาษาที่ไม่คุ้นเคยแต่ก็ได้มาเดบิวต์ในวงการเคป็อป

สาวๆทั้ง 4คน ได้ถูกจับตามองตั้งแต่มีการปล่อยคลิปซ้อมเต้นโคฟเวอร์อย่างเพลง Bitch better than money ของคุณแม่ Rihanna ที่โด่งดังจนใครๆก็พูดถึงแต่บุคคลที่ถูกพูดถึงมากที่สุดนั่นก็คือ ลิซ่า สาวหน้าม้าผมบลอนด์ที่มีไลน์เต้นแข็งแรง คมชัด จนใครๆที่ได้เข้าไปดูก็ถูกลิซ่าดึงดูดสายตาไปตามๆกันและยังคงเป็นที่พูดถึงกันมาจนถึงปัจจุบันว่าคลิปการซ้อมเต้นครั้งนี้ถือว่าเป็นการเชิญชวนให้ใครหลายๆเข้ามารู้จักสาวๆ BLACKPINK กันอย่างล้นหลาม

อัลบั้มเดบิวต์แรกที่ทางสาวๆ BLACKPINK ได้ปล่อยออกมา มีชื่อว่า “Square One” พร้อมกับซิงเกิ้ลเพลง “Whistle” ที่ต่อมาก็ได้ขึ้นเป็นอันดับ 1 บน Gaon Digital Chart และยังมีอีกหนึ่งซิงเกิ้ลที่ได้ขึ้นเป็นอันดับ 1 บน Billboard World Digital Song chart ก็คือเพลง “Boombayah” นั้นเอง นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเพลงของสาวๆก็ได้รับความสนใจในวงการเคป็อปเป็นอย่างมาก จนกระทั่งเมื่อปี 2561 เพลง “DDU-DU DDU-DU” ก็ได้ขึ้นเป็นอันดับที่ 55 บนบิลบอร์ดชาร์ต 100 แถมยังกลายเป็นกระแสดังมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกที่ได้ขึ้นแสดงบนเวทีเทศกาลดนตรีระดับโลก

นอกจากนี้สาวๆ BLACKPINK ยังเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกที่ได้ขึ้นแสดงในเทศกาลงานดนตรีระดับโลกอย่าง Coachella 2019 ในวันที่ 12 เมษายน และ 19 เมษายน หลังจากที่สาวๆได้ขึ้นทำการแสดงก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างมากมายทั้งทางแฟนคลับของสาวๆเองและยังรวมไปถึงคนนอกด้อมต่างก็มีความประทับใจ ชื่นชมและให้ความสนใจในการแสดงบนเวทีของสาวๆ และถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ให้วงการเพลงเกาหลีใต้วงแรกที่ได้แสดงคอนเสิร์ตในเทศกาล Coachella อีกด้วย และด้วยสถานการณ์การระบาดอย่างหนักของโรคโควิด-19 ทำให้เทศกาล Coachella 2020 มีเกณฑ์ต้องเลื่อนออกไป

ภาพจาก : Event Pop

การคัมแบคกลับมาของ BLACKPINK ในอัลบั้ม Born Pink ที่มาพร้อมกับประกาศ World Tour

หลังจากที่ห่างหายไปนาน BLACKPINK ก็ได้กลับมาคัมแบคด้วยการปล่อยอัลบั้ม “Born Pink” และซิงเกิ้ลแรกที่ปล่อยออกมานั้นชื่อ “Pink Venom” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 หลังจากที่ปล่อยซิงเกิ้ลแรกได้ไม่นานก่อนตามมาด้วยเพลง “Shut Down” ในวันที่ 16 กันยายน 2565 โดยเพลงในอัลบั้มนี้มีทั้งหมด 8 เพลง ได้แก่ Pink Venom , Shut Down , Typa Girl , Yeah Yeah Yeah , Hard to love , The happiest Girl , Tally และ Ready For Love

หลังจากที่สาวๆปล่อยอัลบั้ม Born Pink ออกมาได้ไม่นานก็ได้ประกาศจัดเวิลด์ทัวร์ BLACKPINK Born Pink World Tour โดยการจัดคอนเสิร์ตจะเริ่มที่โซล ประเทศเกาหลีใต้ ที่แรกตั้งแต่วันที่ 15-16 ตุลาคม 2565 ก่อนที่จะประกาศเวิลด์ทัวร์รอบโลกยาวจนถึงเดือน มิถุนายน 2566 ในวันที่ 7-8 มกราคมที่ผ่านมา BLACKPINK [Born Pink ] World Tour Bangkok ก็ได้มาจัดที่สนามกีฬาแห่งชาติ (ศุภชลาศัย) ได้มาสร้างความประทับใจให้กับเหล่าบลิ๊งค์กว่า 80,000 คน รวมทั้ง 2 รอบการแสดง

ภาพจาก : YG Entertainment

และในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ทาง OFFICIAL BLACKPINK ก็ได้ประกาศลงทางอินสตราแกรมว่ามีการจัด “BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK ENCORE” ขึ้นอีกครั้งในวันที่ 27-28 พฤกษาคม 2566 ที่ ราชมังคลากีฬาสถาน ทำเอาแฟนๆชาวไทยทุกคนล้วนดีใจและตื่นเต้นกับการมาอันคอร์ที่ประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง

การกลับมาบนเวทีเทศกาลดนตรี Coachella ของ BLACKPINK อีกครั้งหนึ่ง

ภายในปี 2566 นี้ก็ถือว่าเป็นอีกปีที่ทางเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่าง Coachella ก็ได้เชิญ BLACKPINK มาอีกครั้งหนึ่งแต่ครั้งนี้สาวๆได้ร่วมเป็นหนึ่งในเฮดไลน์ของงานซึ่งปีนี้จัดขึ้นในวันที่ 14-16 เมษายน และ 21-23 เมษายน จัดแสดงที่ Empire Polo Club เมืองอินอิโอ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา การกลับมาขึ้นเวทีเทศกาลดนตรีระดับโลกครั้งนี้ของสาวๆทำให้ได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาดเพราะโชว์แต่ละเพลงที่สาวๆได้เลือกขึ้นไปแสดงนั้นล้วนมาพร้อมกับความอลังการ น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก

นอกจากผลงานทางด้านดนตรีแล้วทั้ง4สาวก็ยังเอาดีทางด้านอื่นๆอีกมากมายอย่าง จีซูที่ล่าสุดก็ได้มีผลงานด้านการแสดงซีรีส์เรื่อง Snowdrop (2021) ซึ่งครั้งนี้จีซูได้แสดงบทนำอย่างเต็มตัวแถมยังสามารถคว้ารางวัลต่างๆกลับมาได้อีกมากมาย เช่น 2022 Kmmunity K’tizens’ Choice Awards – Actress of the Year (Snowdrop,2021) และผลงานการแสดงจากเจนนี่สาวน้อยแก้มเกี๊ยวที่ได้รับเชิญไปร่วมแสดงในซีรีส์ THE IDOL ซึ่งเป็นโปรเจ็คซีรีส์ใหญ่ของทาง HBO MAX ที่สร้างและนำแสดงโดย The Weeknd พร้อมกับ Lily-Rose Depp , Troye Sivan และนักแสดงคนอื่นๆอีกมากมาย

ภาพจาก : INKI Style

แต่เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2566 เป็นที่รู้กันว่าทางสาวๆ BLACKPINK นั้นได้หมดสัญญากับทางค่ายต้นสังกัดอย่าง YG Entertainment แล้ว สำนักงานข่าวต่างประเทศมีรายงานว่าแฟนคลับของ BLACKPINK และนักลงทุนทั้งหลายต่างมีความกังวลว่าทางสาวๆ BLACKPINK นั้นจะมีการต่อสัญญากับทางค่ายเดิมหรือไม่ นับจากวันที่ 8 สิงหาคม แล้วก็ถือว่าเป็นเวลาหลายเดือนที่ทางค่ายต้นสังกัดยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัดว่าทั้ง4สาวนั้นจะต่อสัญญากันหรือไม่ มีเพียงแต่ข่าวลือที่ว่าตอนนี้มีโรเซ่คนเดียวที่ยังคงต่อสัญญากับทาง YG ส่วนลิซ่า เจนนี่ และจีซูนั้นอาจจะไม่ได้ต่อสัญญากับทางต้นสังกัดแล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีข่าวออกมาว่าทางเจนนี่และจีซู ได้ออกมาก่อตั้งเอเจนซี่เป็นของตนเอง (One-man Agency)

ภายในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 ได้มีการรายงานข่าวจากสำนักข่าวเกาหลี Munhwa llbo เกี่ยวกับการต่อสัญญาของ BLACKPINK กับค่ายต้นสังกัด YG Entertainment โดยมีการเผยว่า BLACKPINK ได้ตกลงที่จะดำเนินกิจกรรมต่อไปในฐานะกลุ่ม ส่วนสัญญาพิเศษส่วนบุคคลระหว่างสมาชิกแต่ละคนยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ภายหลังข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ทางแหล่งข่าวจาก YG Entertainment ได้ตอบกลับรายงานดังกล่าวโดยได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการต่อสำนักข่าว Newsen ว่า “ยังไม่มีอะไรยืนยันใดๆ และเรากำลังหารืออยู่

Sarocha Somboo

นิวค่ะ นักเขียนที่ Thaiger มาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เอกภาพยนตร์และการถ่ายภาพ มีความเชี่ยวชาญในหัวข้อบันเทิงเกาหลี ด้านแฟชั่นความสวยความงาม และทุกเรื่องราวไลฟ์สไตล์ เขียนบทความออกมาได้อย่างบันเทิง อ่านสนุก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button