ข่าวดาราบันเทิง

โหดเจอเก๋า เป็ก-เก่ง ลายพราง เปิดใจชีวิตเรือนจำ เสียเลือดเป็นขัน เพราะวัฒนธรรมสักลาย

โหดเจอเก๋า เป็ก-เก่ง ลายพราง เปิดใจครั้งแรกชีวิตในเรือนจำ เล่านาทีปล้นตอนนั้นทำไปเพราะสนุก เข้าไปเจอสังคมสุดโหดทำเสียเลือดเป็นขัน แม้เคยถูกด่าสารพัดแต่วันนี้ภูมิใจเลี้ยงครอบครัวได้

ล่าสุดในรายการคนละเป็ก Ep.7 l พะเยา โหดเจอเก๋าเรื่อง(ที่ไม่อยาก)เล่าในเรือนจำ โดยมี “เป็ก สัณณ์ชัย” เป็นผู้ดำเนินรายการเชิญน้องสุดที่รัก “เก่ง ลายพราง” มาแคมป์ปิ้งที่จังหวัดพะเยา พร้อมเผยที่มาความสนิทและเรื่องราวชีวิตในเรือนจำสุดโชกโชนที่ไม่เคยบอกใคร

เป็ก เริ่มเปิดรายการว่าเขาและเก่งสนิทกันมานานหลายปีแล้ว เก่งจึงเล่านาทีเจอกันครั้งแรกว่า “วันแรกที่พี่เจอหน้าผม พี่มองหน้าผมแล้วพี่บอกว่า มึงสักค…อะไรเยอะแยะ ตอนแรกผมไม่รู้จักพี่ ผมเจอพี่ที่บ้านพี่วัน วันเกิดพี่วัน ตอนหลังก็มาเจอกันบ่อย” พอกูเกิลทีหลังเก่งถึงได้รู้ว่าเป็ก สัณณ์ชัยคือใคร

เจอกันครั้งแรกเป็กถามเก่งว่าสักทำไมเยอะแยะ

เมื่อเป็กถามว่าติดคุกมาทั้งหมดกี่ปีเก่งตอบว่า โทษ 20 ปี อีกคดี 15 ปีแล้วก็ยกฟ้อง รวม ๆ แล้วเกือบ 30 ปี แต่ติดจริง 12 ปี 1 เดือน ติดตั้งแต่อายุ 21 เป็นสาเหตุที่เป็กแซวว่า “นี่ไงมึงถึงไม่รู้จักกู เราก็มารู้จักกันตอน 30 กว่านี่แหละ”

เป็กบอกว่าที่เขารักกับเก่งได้เพราะรู้ว่าจริง ๆ แล้วตัวตนเขา(เก่ง)เป็นอย่างไร อาจจะไม่เหมือนที่คนภายนอกมองเข้ามา เขารู้ว่าเก่งคิดอะไรมิเช่นนั้นคงไม่พามารายการคนละเป็กในฐานะน้องรักคนสนิท

เมื่อถามถึงรอยสักบนตัวเก่งบอกว่าเริ่มลุกลามมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ข้อมือ ข้อเท้า สักเองบ้าง สักให้เพื่อนบ้าง พอเข้าไปในเรือนจำยิ่งเป็นสังคมของที่นั่น ทุกคนต้องแก้ผ้า เห็นหมดว่าทำอะไร ตั้งแต่สักลายจนถึงตัดแต่งอวัยวะเพศผ่าโฟล์ค ผ่าเบนซ์ ซึ่งทุกคนมองเป็นศิลปะ

เก่งเล่าว่าตอนแรกที่เข้าไปมีสักลายนิดหน่อยเป็นอักขระข้างหลัง จนเริ่มสักไปเรื่อย ๆ ขึ้นหัว ขึ้นหลัง ขึ้นหน้า สักขอบตา หยดน้ำตา สักปากแม้ว่าตนจะรู้สึกเจ็บก็ตาม

เก่ง ลายพรางถูกมองว่าเขาเป็นคนไม่ดี

เป็กให้เก่งอธิบายเรื่องผ่าโฟล์คกับเบนซ์ว่าคืออะไร เก่งบอกว่าเป็นการแต่งเติมอวัยวะเพศของคนข้างใน แม้ว่าเก่งจะพอใจของเดิมที่มีอยู่ แต่คนในห้องประมาณ 30-40 คนทำแบบนี้เกือบหมดและตนโดนท้าทายจึงตัดสินใจทำ ทีแรกจะเอาสี่แฉกเรียกว่าเชฟ แต่ผ่าไปทีแรกทนไม่ไหวลดเหลือโฟล์คพอเพราะเจ็บจนน้ำตาไหล ตอนผ่าเลือดไหลออกมาเป็นขัน สุดมาก

เมื่อเป็กถามถึงเรื่องที่กระทำผิดว่า “แล้วทำไมถึงคิดไปปล้น ฆ่าเขาอะ” เก่งเผยว่า “ผมไม่ได้ทำไปเพราะว่าฐานะไม่ดีนะ แต่ว่าที่ทำไปเพราะความสนุก” และจะทำให้เขาเจ็บก็ต่อเมื่อเขาไม่ยอมให้ เราก็จะมีฟันบ้างจนบางคนก็แขนห้อย ตอนเข้าไปปล้นมอเตอร์ไซค์ที่เขาขี่อยู่แล้วเขาตกใจ ไม่ให้เรา เราก็ฟัน

ถามว่าโดนจับได้ยังไง เก่ง เผยว่า ทุกคนมารวมตัวที่ห้องผม ผมเหมือนหัวหน้าเพื่อน วันที่จับตำรวจมากันเยอะมาก ก็จับกันได้เป็นสิบ ๆ คน กลุ่มลายพรางมีกันเป็นร้อย คนที่โดดเด่นคือผม

“คนที่บ้านผมไม่มีใครสัก บุหรี่ไม่สูบ มีผมคนเดียวที่เหี้…แล้วก็เลว แต่ในวันนั้นที่พ่อแม่คอยด่าตลอด พอมาถึงวันนี้เราก็ภูมิใจนะ คนที่ดูแลเขาคือคนที่เขาเคยว่าว่าเป็นคนที่เลว เป็นคนที่เหี้…. ไม่ดีในสายตาเขา แต่ในวันนี้เราสามารถรับผิดชอบครอบครัวได้ โดยที่สักเต็มหน้าเต็มตัวแบบนี้” เก่งเล่า

เป็กแชร์มุมมองต่อว่า “คนเราถ้าใช้กรรมไปแล้ว เราเริ่มใหม่มันก็โอเค ไม่งั้นเราคงคบกันไม่ได้หรอก ยืนยันได้ว่าเก่งนี่โอเคแหละที่คิดได้แบบนี้”

เป็ก-เก่งในรายการคนละเป็ก สัมภาษณ์เรื่องราวชีวิตสุดโหด

ท้ายรายการเป็กให้เก่งเล่าถึงเจาะลึกถึงสิ่งดี ๆ ที่เจอในเรือนจำบ้างว่ามีอะไร เก่งบอกว่าคงเป็นเรื่องสังคม เพื่อนในนั้น วันที่ไม่มีพ่อแม่ ญาติมาหาก็ยังมีเพื่อน

ส่วนเรื่องที่เก็บมาไว้ตอนท้ายอย่างเรื่องช่วยตัวเอง เก่งเล่าว่ามีหลายแบบ ใครไม่มีเงินก็ต้องช่วยตัวเอง ในกรณีชอบผู้ชายด้วยกันก็ต้องจีบกันหรือหาวิธีที่จะได้คนนั้นมา เรียกว่า “หน้าอ่อน” ใครหน้าหวาน ไม่มีรอยสักก็จะเป็นที่หมายปอง

สุดท้ายเก่ง เลือกถาม เป็ก ว่า “พี่เลือกมาตั้งแคมป์กับผม ทำไมพี่ถึงรักผม ผมมีภาพลักษณ์ไม่ดี” เป็กตอบ “คนละเป็กพี่เลือกแต่คนที่พี่รักพี่สนิท”

เป็ก บอกกว่าอาจจะดูภายนอกไม่ดี แต่จิตใจดี มันสื่อสารถึงกันได้ด้วยจิตใจ ด้วยความคิดก็โอเคแล้วนะ มันถึงเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทน้องสนิทพี่ได้ ถ้าจะดูคนละเป็ก มันก็คงมีแค่ปีเดียว แล้วก็วนเพื่อนเรากลับมา เพราะพี่มีเพื่อนไม่เยอะ พี่รักคนไม่เยอะ ก็อยู่กันแบบนี้แหละ

Peangaor

นักเขียนประจำ Thaiger จบการศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ มศว เชี่ยวชาญข่าวบันเทิงและบทความไลฟ์สไตล์ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำมาชี้แจงแตกประเด็นในรูปแบบย่อยง่ายเหมือนเพื่อนเล่าให้ฟัง รวมถึงเรื่อง Pop culture ซีรีส์ อาหาร และเทรนด์แฟชั่นที่กำลังอินเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ preme@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button