ข่าว

คนไทยในอิสราเอลเล่า กองกำลังฮามาส พูดไทย พยายามล่อคนไทยออกไป

คนไทยในอิสราเอลเล่า กองกำลังฮามาส พูดไทย พยายามล่อคนไทยออกไป พูดคำว่า “สวัสดีครับ” แต่สำเนียงเหมือนต่างชาติ เลยไม่เชื่อ

จากกรณีเหตุความขัดแย้งระหว่างกองกำลังฮามาสและอิสราเอลที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสองฝั่งรวมเกือบ 4,000 ศพ ในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้นมีชาวไทยรวมอยู่ด้วย 28 ศพ บาดเจ็บ 16 ราย และถูกจับเป็นตัวประกัน 17 รายนั้น

Advertisements

นายเกรียงศักดิ์ พันธุ์สุรี หนึ่งในบรรดาแรงงานไทยที่เผชิญเหตุร้ายจากประเทศอิสราเอลเปิดเผยและกลับถึงไทยได้เล่าว่า ตนไปทำงานที่อิสราเอลเกือบจะ 5ปี อีก 5 เดือนก็จะครบสัญญา โดยทำงานด้านเกษตร ที่หมู่บ้าน เย -ชา -มิต -คิม สำหรับวันที่เกิดเหตุเป็นวันที่ 7 ตุลาคม ช่วงเช้า ฝั่งทางปาเลสไตน์ มีการยิงจรวดเข้ามาทางฝั่งอิสราเอลก่อน ตอนแรกคิดว่าเป็นการสู้รบยิงกันปกติทั่วไปตามที่เราเคยพบเจอ และไม่คิดว่าจะมีทหารภาคพื้นบุกเข้ามาด้วย แรงงานชาวไทยอย่างพวกตนก็ไม่ได้ตั้งตัวว่าจะมีการหลบซ่อนตัวอย่างไร จากนั้นก็มีเสียงปืนในจุดที่ตัวเองอยู่ ไม่คิดว่าจะมีการกราดยิง

ตนจึงไปแอบดูตามกล่องใส่มันฝรั่ง ตอนแรกคิดว่าเป็นทหารของฝั่งอิสราเอล แรงงานคนไทยหลายคนก็เลยไม่ได้หลบ จากนั้นมีคนเข้ามาหลบซ่อนตัว แล้วทหารก็ยิงปืนใส่เข้ามา แรงงานคนไทยจึงวิ่งหลบซ่อนตัวเข้าป่าไป โดยซ่อนตัวตั้งแต่คืนวันที่ 7 จนถึงวันที่ 8 ช่วงเที่ยงจึงออกมาและกลับมายังแคมป์คนงานเพื่อทำกับข้าวกินและพักผ่อน

ต่อมา ช่วงเย็นประมาณ 4-5 โมงเย็นแรงงานไทยก็พากันเข้านอน แต่ตอนนั้นตนกำลังโทรศัพท์พูดคุยกับทางบ้าน จู่ๆมีเสียงปืนดังขึ้นอีก กลุ่มเพื่อนแรงงานที่ได้ยินเสียงก็วิ่งหลบออกไปกันหมด ตนกับเพื่อนอีกคนหลบอยู่ในห้อง ไม่สามารถออกมาได้ เสียงปืนสงบเสียงระเบิดก็ตามมา 2 ครั้ง สักพักทหารกลุ่มฮามาสก็มาเรียกคนไทยให้ออกมา โดยพูดเป็นภาษาไทยว่า “สวัสดีครับ” แต่ก็ไม่มีใครออกไป ตอนนั้นตนก็ได้ยิน ฟังสำเนียงเหมือนชาวต่างชาติพูดไทย คือพูดไม่ชัด ก็เลยไม่มีใครกล้าออกไป

“ไม่นานจากนั้นมีการจุดไฟเผาแคมป์คนงาน ตนและเพี่อนคนงานอยู่ไม่ได้ จึงวิ่งออกมาก่อน และไปหลบซ่อนตัวในป่า และก็โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือกับทหารอิสราเอลให้มาพาตัวออกไป”

ทั้งนี้นายเกรียงศักดิ์ไม่ใช่คนเดียวที่พูดว่าฮามาสพยายามหลอกล่อให้คนไทยออก โดยนายประเสริฐ อายุ 34 ปี แรงงานอิสราเอลชาวจังหวัดนครพนม เล่านาทีหนีตายให้กับทีมข่าวฟังว่า ตนเพิ่งไปทำงานได้เพียง 1 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมามีการปะทะกันทางอากาศเป็นระยะ แต่ในครั้งนี้เป็นการประทะครั้งใหญ่ที่สุดและมาทุกรูปแบบ ทั้งทางอากาศ ทางน้ำ และภาคพื้นดิน

Advertisements

โดยในวันที่ 7 ตุลาคม เวลาประมาณ 7 โมง ตนกำลังขับรถไถเพื่อที่จะออกไปทำงาน ขับไปยังไม่ถึงไร่ ก็ต้องรีบจอดรถหลบข้างทางเพราะมีการยิงจรวดมาหลายร้อยลูก ตนต้องจอดรถและเข้าไปหลบใต้รถไถ จากนั้นได้โทรหานายจ้างแต่นายจ้างบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวคงจะหยุดให้ไปทำงานต่อได้เลย แต่ตนดูแล้วไม่มีท่าทีว่าจะหยุด จึงรีบขับรถไถกลับแคมป์ ระหว่างที่เดินทางกลับไปในหมู่บ้าน นาทีนั้นเห็นมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายไล่กราดยิงคนในหมู่บ้าน ตนจึงรีบเข้าแคมป์และไปหลบอยู่ในห้อง

แต่ปรากฏว่ามีกลุ่มฮามาส 3 คน เข้ามาในแคมป์ มาพังแคมป์และหาอาวุธมีดต่างๆ ตนจึงล็อกห้องและหลบอยู่ด้านใน แต่กลุ่มฮามาสเดินมาเคาะห้องและเรียกว่า “ไทยแลนด์ ไทยแลนด์” ตนคิดทันทีเลยว่าไม่น่าใช่ เพราะปกติไม่มีใครเรียกแบบนี้ จึงไม่ออกไป จากนั้นได้โทรหานายจ้างว่ามีกลุ่มฮามาสมา นายจ้างจึงได้พาทหารมาช่วย

ทหารมาช่วยประมาณ 30 นาย จึงได้จับกุมกลุ่มฮามาสไป และพาตนออกไปยังจุดที่ปลอดภัย ในนาทีก่อนที่ทหารจะมา ตนคิดว่ายังไงก็ไม่รอดแล้วชีวิตนี้ คิดถึงพ่อแม่ คิดถึงประเทศไทย และภาวนาขอให้ตนปลอดภัย สุดท้ายก็ได้รับการช่วยเหลือรู้สึกดีใจมาก

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button