ข่าว

“อิหร่าน” ช่วย “ฮามาส” วางแผน โจมตีอิสราเอล คาดเตรียมการนานหลายเดือน

สื่อนอกรายงาน เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของ “อิหร่าน” ช่วยกลุ่ม “ฮามาส” ก่อการร้าย วางแผนลอบโจมตี “อิสราเอล” เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

เมื่อวานนี้ (8 ต.ค. 66) สำนักข่าวต่างประเทศ Nypost ได้ออกมารายงานว่า ทางการของประเทศอิหร่าน ได้ช่วยกลุ่มผู้ก่อการร้ายฮามาส วางแผนในการโจมตีอิสราเอล และอนุมัติไฟเขียวให้ปฏิบัติการในระหว่างการประชุมที่เบรุต

จากการรายงานพบว่า เจ้าหน้าที่จากกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามอันโด่งดังของอิหร่าน ได้ทำงานร่วมกับองค์กรก่อการร้ายในฉนวนกาซาตั้งแต่เดือนสิงหาคม เพื่อวางแผนการโจมตีอิสราเอลในวันที่ 7 ต.ค. โดยได้ส่งจรวดและปืน พร้อมกระสุนหลายพันนัด ข้ามชายแดนอิสราเอลหลบซ่อนจากป้อมปราการ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่าหนึ่งพันราย

การโจมตีดังกล่าว ถือเป็นการละเมิดรัฐยิวที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามยมคิปปูร์ เมื่อปี 1973 โดยมีการคาดการณ์ว่า เจ้าหน้าที่อิหร่าน ตลอดจนกลุ่มฮามาสและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอน ได้ร่วมกันปรับปรุงแผนยุทธวิธี และยุทธศาสตร์สำหรับการโจมตี ในระหว่างการประชุมหลายครั้งในกรุงเบรุต

อิหร่าน สนับสนุน ฮามาส โจมตีอิสราเอล
ภาพจาก nypost

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จากฝั่งสหรัฐอเมริกา ยังไม่ยืนยันว่ารายงานดังกล่าวเป็นความจริงมากน้อยเพียงใด “เรายังไม่เห็นหลักฐานที่แสดงว่า อิหร่านเป็นผู้กำกับหรืออยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ แต่แน่นอนว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ยาวนานร่วมกัน” แอนโทนี บลินเกน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวกับซีเอ็นเอ็นเมื่อวันอาทิตย์

ทว่าหากพิสูจน์ได้ว่า อิหร่านมีส่วนร่วมในการโจมตีอิสราเอล คาดว่าจะยิ่งทำให้เกิดความตึงเครียดในสงคราม ทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างแน่นอน

สำหรับสงครามระหว่างฮามาสและอิสราเอลในปัจจุบัน ได้เริ่มต้นอย่างจริงจังในเช้าวันเสาร์ เวลาประมาณ 06.30 น. ในงานเทศกาลดนตรีของอิสราเอล และมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 1,100 ศพ โดยในจำนวนนั้นมีแรงงานไทยรวมอยู่ด้วย 12 ชีวิต.

Eye Chanoknun

นักเขียนประจำ Thaiger จบจากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์เขียนงานผ่านเว็บไซต์ด้านความงามและแฟชั่นชื่อดังของไทยมากกว่า 3 ปี ปัจจุบันชื่นชอบการเขียนข่าวบันเทิง ภาพยนตร์ ซีรีส์ k-pop และไลฟ์สไตล์ เพื่อนำมาบอกเล่าผ่านตัวอักษร ด้วยมุมมองใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ชวนให้ติดตาม ช่องทางติดต่อ eye@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button