5 เรื่องเข้าใจผิด ‘ทำหมันชาย’ จู๋ไม่แข็ง น้ำหนักเพิ่ม ไม่ติดโรค จริงไหม?
เผย 5 เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับทำหมันชาย วิธีการคุมกำเนิดที่ประหยัดสุด ประสิทธิภาพสูง แต่บุรุษไม่ค่อยนิยม
ปัจจุบันวิธีคุมกำเนิดนั้นทำได้หลากหลายรูปแบบ แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้คนมักจะโฟกัสไปที่การคุมกำเนิดจากทางฝ่ายหญิงเสียมาก โดยไม่รู้ว่าการคุมกำเนิดจากฝ่ายนั้นมีประสิทธิสูง แถมค่าใช้จ่ายก็ยังน้อยกว่าเป็นเท่าตัว นั่นก็คือวิธี “ทำหมันชาย” ซึ่งถือเป็นการผ่าตัดคุมกำเนิดที่เจ็บน้อยสุด และปลอดภัยที่สุด หากลงมือทำโดยผู้เชี่ยวชาญ
แต่ก็ยังมีหลายคนที่เข้าใจว่าทำหมันชายเป็นการตัดตอนลูกอัณฑะทิ้งไปเหมือนทำหมันสัตว์เลี้ยง ทำให้สมรรถภาพทางเพศเสื่อม หรือฮอร์โมนในร่างกายทำงานผิดปกติ น้ำหนักเพิ่มขึ้น เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้ไม่เป็นความจริงแม้แต่ประการเดียว วันนี้เดอะไทยเกอร์จึงได้รวบรวม 5 เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับทำหมันชาย มาฝากทุกคนกันด้วย ไว้ศึกษาเป็นความรู้เพื่อการวางแผนครอบครัวในอนาคต
ไขข้อสงสัย 5 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการทำหมันชาย
1. หลังทำหมันมีเพศสัมพันธ์ได้ทันที ไม่ท้อง
เป็นเรื่องที่หลายคนเข้าใจผิดมานาน สำหรับการทำหมันชายว่าหากหลังผ่านการผ่าตัดทำหมันแล้วจะสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ในทันทีโดยฝ่ายหญิงไม่เสี่ยงตั้งครรภ์ เป็นชุดความคิดที่ผิดมหันต์
ข้อแนะนำหลังการทำหมันชายควรงดมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 7-10 วัน ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ไหมที่ผูกปลายทออสุจิหลุด หลังผ่านพ้นช่วงเวลาอันตรายไปแล้ว หากท่านชายต้องการจู๋จี๋กับสุภาพสตรีในระยะ 1-3 เดือนแรก ก็ควรสวมถุงยางป้องกันไว้ด้วย
เนื่องจากหลังการผ่าตัดและเย็บแผลแล้ว จะยังคงมีตัวอสุจิค้างอยู่ในถุงอสุจิ หรือ ที่ปลายท่อนำอสุจิ ดังนั้นเพื่อป้องกันการปฏิสนธิ จึงขอแนะนำให้สวมถุงยางในระยะแรกหลังผ่าตัดไปก่อน
2. ทำหมันชายคุมกำเนิดได้ 100%
อีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนเข้าใจผิดมาโดยตลอด คือการทำหมันชายสามารถคุมกำเนิดได้ 100% ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าไม่มีการคุมกำเนิดแบบใดที่ป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิเต็มที่ 100%
แต่อัตราการล้มเหลวเกิดการตั้งครรภ์หลังทำหมันชายมีเพียง 0.15% ในปีแรกเท่านั้น อีกทั้งยังมีโอกาสที่หมันจะหลุดได้อีกด้วย (เฉพาะการทำหมันด้วยวิธีผูก) แต่ก็เป็นอัตราการผิดพลาดที่น้อยมาก ๆ เช่นเดียวกัน
3. ทำหมันแล้วเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
เรื่องเข้าใจอีกประการที่สร้างความหวาดกลัวให้ท่านชายทั่วโลก คือหลังทำหมันชายแล้วสมรรถภาพทางเพศจะเสื่อมลง เรื่องนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตอบเองเลยว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากการทำหมันในเพศชายไม่ใช่การตัดลูกอัณฑะแบบน้องแมว
ดังนั้นความเข้าใจที่ว่าผู้ชายจะหลั่งไม่เหมือนเดิมนั้นไม่เป็นความจริง เพราะการทำหมันชายจะทำเพียงผูกหรือตัดท่อนำเชื้ออสุจิเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวอสุจิหลั่งออกมาที่ปลายอวัยวะเพศ แต่ยังมีการหลั่งน้ำอสุจิตามปกติเพียงแต่ไม่มีตัวอสุจิให้ปฏิสนธิ
หรือความเชื่อว่ามีฮอร์โมนผิดปกติหลังการทำหมันเป็นองค์ความรู้ที่สร้างความเข้าใจผิดไปไกลมาก เนื่องจากอัณฑะเป็นอวัยวะที่ผลิตตัวอสุจิและผลิตฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) ฮอร์โมนที่ช่วยส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศ
อย่างไรก็ดี ฮอร์โมนดังกล่าวจะทำหน้าที่ของตัวเองผ่านทางเส้นเลือด ดังนั้นการทำหมันที่เกี่ยวข้องกับท่อนำอสุจิจะไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนอย่างแน่นอน รับรองว่าท่านชายยังคงฟิตปึ๋งปั๋งเตะปี๊บดังป้าบเหมือนเดิม
4. ทำหมันชายแล้วน้ำหนักเพิ่มขึ้น
เรื่องน้ำหนักเพิ่มหลังการทำหมันชายก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนเข้าใจผิดมาโดยตลอด อย่างที่กล่าวไปในเบื้องต้น การทำหมันในเพศชายไม่มีความเกี่ยวข้องกับเส้นเลือด หรืออวัยวะที่เกียวกับการย่อยอาหาร ดังนั้นการทำหมันชายจึงไม่มีผลต่อน้ำหนักตัว ดังนั้นถ้าไม่อยากอ้วนลงพุง ท่านชายควรกินอาหารที่มีประโยชน์ ลดน้ำตาล แป้ง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
5. ทำหมันชายป้องกันโรคติดต่อทางเพศ
ประการสุดท้ายที่ยังมีใครหลายคนเข้าใจผิดอยู่ คือหลังการทำหมันชายมีเพศสัมพันธ์ได้แบบไม่ต้องป้องกัน ทั้งนี้การทำหมันชายเป็นเพียงการคุมกำเนิดเท่านั้น ไม่ได้เป็นการตรวจรักษาโรค ดังนั้นหากต้องการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยก็ยังคงแนะนำให้สวมถุงยางขณะมีเพศสัมพันธ์ไว้ด้วย
และทั้งหมดนี้ก็คือ 5 ความเชื่อที่หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำหมันในเพศชาย ซึ่งในความเป็นจริงการทำหมันชายไม่ได้น่ากลัวหรือเจ็บมากอย่างที่เข้าใจ ถ้าใครสนใจวางแผนครอบครัวว่าไม่ต้องการมีบุตร การทำหมันชายก็เป็นอีกหนึ่งวิธีคุมกำเนิดที่แพทย์แนะนำ