2 สาวร้องสื่อ ถูกหนุ่มกร่างตบหน้าหน้าโรงหนัง โวมีเส้น ตำรวจไม่กล้าดำเนินคดี
2 สาวเข้าร้องสื่อ ถูกหนุ่มกร่างตบหน้าหน้าโรงหนัง กลัวคดีไม่คืบหลัง ผู้ก่อเหตุโวว่ารู้จักคนใหญ่คนโต ตำรวจไม่กล้าดำเนินคดี
นางสาวเฌอ อายุ 27 ปี และ นางสาววรรณ อายุ 26 ปี พนักงานประจำบริษัทฯแห่งหนึ่ง ได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าวหลังจากที่ทั้งสองถูกชายที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนตบหน้าและทำลายทรัพย์สิน ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ริมถนนสุขุมวิท ใกล้แยกแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังกลัวคดีไม่คืบ เพราะชายผู้ก่อเหตุอ้างว่ารู้จักคนใหญ่คนโต ตำรวจไม่กล้าดำเนินคดี
ผู้เสียหายทั้งสองคนเล่าว่า เมื่อเวลา 19.45 น. วันที่ 9 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา ตนและเพื่อนได้ไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ของห้างสรรพสินค้า ระหว่างที่กำลังดูหนัง มีกลุ่มผู้ชาย 1 และผู้หญิง 2 คน พูดคุยกันเสียงดังลั่นมาจากทางด้านหลัง โดยพูดคุยเสียงดังนานกว่าครึ่งชั่วโมง ตนจึงตัดสินใจหันไปบอกว่า “พี่คะ รบกวนเบาเสียงหน่อยนะคะ”
แต่ฝ่ายชายพูดสวนกลับมาว่า “แล้วมึงมีปัญหาอะไร มึงเพิ่งจะเคยเข้ามาดูหนังหรือ อีบ้านนอก!! ถ้ามึงอยากดูเงียบๆ ก็กลับไปดูที่บ้านมึงดิ ที่นี่เขาดูกันแบบนี้ ” พร้อมกับใช้เท้าถีบเบาะนั่งด้านหน้า ตนพยายามอธิบายว่า “ไม่ได้ปัญหาอะไรค่ะ แต่ที่นี่มันในโรงหนังและส่งเสียงดังกันมันนานแล้ว” แต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่ยอมหยุด และตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายตลอดเวลา พร้อมทั้งขู่ว่า “เดี๋ยวมึงเจอกูข้างนอก” ตนและเพื่อนเห็นท่าไม่ดี จึงเลือกที่จะเงียบ เมื่อหนังใกล้จะจบ ชายคนดังกล่าวได้ลุกขึ้นออกไปก่อนหนังจะจบประมาณ 15 นาที ส่วนตนรอดูจนหนังก็รีบเดินออกจากโรงภาพยนตร์เพื่อเดินทางกลับทันที เพราะไม่อยากมีปัญหา
ระหว่างที่กำลังจะเดินไปลงลิฟต์ ชายคนดังกล่าวได้มายืนดักรอที่ด้านหน้าโรงหนัง โดยสวมหมวกแก็ปและสวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ขณะนั้นตนเห็นท่าไม่ดีและคิดว่ามีเรื่องแน่ๆ จึงแอบบันทึกเสียงการสนทนาไว้ก่อน โดยชายคนดังกล่าว ได้เข้ามาพูดจาหาเรื่อง ตนก็พยายามอธิบายและไม่อยากจะมีเรื่อง แต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่ยอมหยุด โดยมีผู้หญิง 2 คนที่มาด้วยกันพยายามห้าม แต่สุดท้ายชายคนดังกล่าว ได้ผลักตนจนล้ม และเพื่อนพยายามเข้าไปดันตัวชายคนดังกล่าวออก แต่ถูกตบจนล้มและเตะซ้ำ ก่อนที่จะมีพลเมืองดีเข้ามาช่วย
ตอนนั้นตนกลัวมาก พยายามอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดให้ชายคนดังกล่าวฟัง ในเรื่องมารยาทในโรงหนัง ถึงขึ้นต้องค้นหาข้อมูลในกูเกิลมาเปิดให้ดู แต่ชายคนดังกล่าวไม่มีท่าทีจะหยุด ตนจึงตัดสินใจจะโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ แต่ก็ถูกแย่งโทรศัพท์มือถือแล้วเขวี้ยงลงกับพื้น โทรศัพท์มือถือได้รับความเสียหาย โดยชายคนดังกล่าวพูดขู่ว่า “ถ้ามึงแจ้งตำรวจ เต็มที่กูก็เสียแค่สองพัน สองคน ก็แค่ 4 พัน กูรู้จักคนใหญ่คนโตเยอะ ตำรวจทำอะไรกูไม่ได้หรอก” ตอนนั้นยอมรับว่าทำอะไรไม่ถูก แถมอายและกลัวมาก เพื่อเป็นการจบปัญหา จึงตัดสินใจยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป จากนั้นตนรีบขับรถไปยัง สภ.แหลมฉบัง เพื่อแจ้งความกับตำรวจ แต่ด้วยความกลัวจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากถูกขู่จะตามมาเอาเรื่องอีก และกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว