สภา กทม. ตัดงบ โครงการห้องเรียนปลอดฝุ่น ชี้ห้องเรียนไม่ต้องติดแอร์
สภา กทม. อนุมัติงบปี 67 90,000 ล้าน ตัดงบ โครงการห้องเรียนปลอดฝุ่น ชี้ห้องเรียนไม่จำเป็นต้องติดแอร์ ให้ปลูกต้นไม้ทดแทน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยฝ่ายบริหาร ส.ก.ทั้ง 50 เขต เข้าร่วมการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยที่สอง (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2566 โดยมี นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม
โดยนาย สุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 รายงานผลการพิจารณาของคณะกรรมการวิสามัญ รายละเอียดการปรับลด รวมถึงข้อสังเกตทั่วไป และข้อสังเกตเฉพาะหน่วยงาน ซึ่งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยได้ตั้งเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 90,570,138,630 บาท
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การพิจารณา คณะกรรมการวิสามัญได้พิจารณาร่างข้อบัญญัติฯ เริ่มจากชื่อร่างข้อบัญญัติ หลักการ เหตุผล คำปรารภ ตัวร่างข้อบัญญัติ เรียงตามลำดับแล้วจึงพิจารณารายละเอียดของงบประมาณรายจ่ายจนจบ โดยมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงบประมาณกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงรายละเอียดประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ กรรมการวิสามัญฯได้ขอสงวนความเห็นเพื่อให้สภากรุงเทพมหานครวินิจฉัยในรายการของสำนักการศึกษา สำนักการระบายน้ำ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักสิ่งแวดล้อม และสำนักพัฒนาสังคม
นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 รายงานผลการพิจารณาของคณะกรรมการวิสามัญ รายละเอียดการปรับลด รวมถึงข้อสังเกตทั่วไป และข้อสังเกตเฉพาะหน่วยงาน ซึ่งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยได้ตั้งเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 90,570,138,630 บาท
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การพิจารณา คณะกรรมการวิสามัญได้พิจารณาร่างข้อบัญญัติฯ เริ่มจากชื่อร่างข้อบัญญัติ หลักการ เหตุผล คำปรารภ ตัวร่างข้อบัญญัติ เรียงตามลำดับแล้วจึงพิจารณารายละเอียดของงบประมาณรายจ่ายจนจบ โดยมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงบประมาณกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงรายละเอียดประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ กรรมการวิสามัญฯได้ขอสงวนความเห็นเพื่อให้สภากรุงเทพมหานครวินิจฉัยในรายการของสำนักการศึกษา สำนักการระบายน้ำ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักสิ่งแวดล้อม และสำนักพัฒนาสังคม
นายสุทธิชัยกล่าวว่า งบประมาณที่ผ่านคณะกรรมการวิสามัญฯ ในครั้งนี้มีมากกว่า 90,000 ล้านบาท กรรมการได้พิจารณาโดยยึดหลักความคุ้มค่า เป็นประโยชน์กับประชาชน รวมถึงสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจสังคมในปัจจุบัน
“ขอบคุณกรรมการและอนุกรรมการ ที่ได้ร่วมกันกลั่นกรองงบประมาณในครั้งนี้ และขอบคุณหัวหน้าหน่วยงานที่ได้ร่วมชี้แจงรายละเอียดและตอบข้อซักถามของคณะกรรมการ ขอบคุณฝ่ายเลขานุการ สำนักงานเลขานุการสภากรุงเทพมหานคร และสำนักงบประมาณที่ได้ร่วมปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเท เสียสละมาต่อเนื่อง 45 วัน ทำให้กรุงเทพมหานครได้มีงบประมาณที่มีประสิทธิภาพ” นายสุทธิชัยกล่าว
สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.ประจำปี 2567 ของกรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้น 90,570,138,630 บาท เรียงลำดับหน่วยงาน/เขตที่ได้รับงบประมาณสูงสุดและน้อยสุด ดังนี้
หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ สำนักการโยธา จำนวน 10,199,547,439 บาท สำนักการระบายน้ำ จำนวน 7,860,495,076 บาท และสำนักสิ่งแวดล้อม จำนวน 7,673,180,800 บาท
หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณน้อยที่สุด 3 ลำดับ คือ สำนักงานเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จำนวน 71,184,800 บาท สำนักงบประมาณ จำนวน 85,596,510 บาท สำนักงานเลขานุการสภากรุงเทพมหานคร จำนวน 189,471,700 บาท
สำนักงานเขตที่ได้รับงบประมาณมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ สำนักงานเขตลาดกระบัง จำนวน 774,356,920 บาท สำนักงานเขตหนองจอก จำนวน 754,150,533 บาท และสำนักงานเขตจตุจักร จำนวน 701,898,570 บาท
สำนักงานเขตที่ได้รับงบประมาณน้อยที่สุด 3 ลำดับ คือ สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ จำนวน 237,412,410 บาท สำนักงานเขตบางรัก จำนวน 251,616,775 บาท และ สำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย จำนวน 275,383,900 บาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบ “ปรับลดงบโครงการปรับปรุงห้องเรียนปลอดฝุ่น” เพิ่มเติม
โดยโครงการที่คณะกรรมการวิสามัญฯ ได้ขอสงวนความเห็นไว้เพื่อขอให้สภากรุงเทพมหานครวินิจฉัย ได้แก่ นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ส.ก.เขตลาดกระบัง นางกนกนุช กลิ่นสังข์ ส.ก.เขตดอนเมือง น.ส.รัตติกาล แก้วเกิดมี ส.ก.เขตสายไหม นายวิรัช คงคาเขตร ส.ก.เขตบางกอกใหญ่ ขอสงวนความเห็นในประเด็นโครงการการปรับปรุงห้องเรียนปลอดฝุ่นชั้นอนุบาล 6 กลุ่มเขต โดยขอให้ตัดเนื่องจากไม่คุ้มค่ากับงบประมาณในการปรับปรุง และให้ความเห็นว่าการเขียนโครงการต้องเขียนให้สอดคล้องกับนโยบายของผู้ว่าฯ กทม.เรื่องเส้นเลือดฝอย การประมาณการเพื่อทำโครงการควรวิเคราะห์ให้สมเหตุผล ซึ่งคำขอรับงบประมาณทุกกลุ่มเขตไม่มีการให้รายละเอียดแต่อย่างใด ไปจนถึงเหตุผลว่า การปรับปรุงห้องเรียนโดยการจัดซื้อเครื่องปรับอากาศอาจเป็นการแก้ไขปัญหาไม่ถูกวิธี ต้นทางการแก้ปัญหาคือการปลูกฝังให้เด็กได้เรียนรู้การปลูกต้นไม้เพื่อกรองฝุ่น ควรปลูกฝังให้เด็กมีความรักและผูกพันกับต้นไม้ และอาจร่วมด้วยการงดกิจกรรมการแจ้ง และการหมั่นทำความสะอาด
ทั้งนี้ ความปลอดภัยของเด็กเป็นเรื่องสำคัญ แต่การนำเด็กไปไว้ในห้องปรับอากาศตลอดเวลาเหมาะสมและปลอดภัยหรือไม่ รวมถึงงบประมาณค่าไฟที่จะต้องเพิ่มขึ้นมา อย่างไรก็ตามหากกรุงเทพมหานครจะเสนอโครงการพร้อมรูปแบบการติดตั้งโซลาเซลล์ในคราวเดียวกันจะเหมาะสมมากกว่า
อย่างไรก็ดี ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร มีมติเห็นชอบกับผู้สงวนความเห็น ให้ตัดงบประมาณของสำนักการศึกษาในโครงการดังกล่าว ในวงเงิน 219,339,000 บาท
ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวชี้แจงในที่ประชุมว่า เรื่องนี้อยู่ในนโยบายการจัดพื้นที่ปลอดฝุ่นให้กลุ่มเปราะบาง อายุ 1-6 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงอายุที่สมองจะสามารถพัฒนาได้ดีที่สุด
“หลายครั้งเราละเลยการสอนให้เด็กกลุ่มนี้ ประกอบกับเด็กเล็กใส่หน้ากากทำได้ยาก จึงได้เกิดแนวคิดทำเรื่องห้องเรียนปลอดฝุ่น หลายครั้งที่ได้ไปเยี่ยมโรงเรียนและเห็นว่าเด็กอยู่ในห้องเรียนที่ร้อน ห้องของเด็กที่เป็นอนาคตของชาติ การลงทุนงบประมาณกับเด็กถือเป็นเรื่องที่คุ้มค่า อนาคตต้องมีการติดโซล่าเซลล์ให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเด็กรวยหรือเด็กจน ควรได้รับโอกาสในการเรียนในห้องเรียนปรับอากาศ” นายชัชชาติกล่าวฃ
จากนั้น ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครได้มีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ซึ่งจะได้จัดส่งให้ฝ่ายบริหารดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ข้อบัญญัติงบประมาณฉบับนี้จะใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป