สยอง! แพทย์เจอ พยาธิตัวกลม 8 เซนติเมตร อาศัยอยู่ในสมอง เคสแรกของโลก
สุดสยอง แพทย์เจอ พยาธิตัวกลม 8 เซนติเมตร อาศัยอยู่ในสมอง หลังจากที่ผู้ป่วยมีอาการหลงลืมและซึมเศร้า ถือเป็นเคสแรกของโลก
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม เว็บไซต์ สกายนิวส์ รายงานเรื่องราวสุดสยองในประเทศออสเตรเลีย โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2564 หลังจากที่หญิงชาวอังกฤษวัย 64 ปีที่อาศัยในออสเตรเลีย ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังมีอาการปวดตัว ท้องเสีย ไอแห้ง และมีเหงื่อออกตอนกลางคืน เป็นแบบนี้ตลอดนานสามสัปดาห์
และในปี 2565 อาการของเธอแย่ลง โดยเธอเริ่มมีอาการหลงลืมและซึมเศร้า ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องส่งตัวไปให้ผู้เชี่ยวชาญในโรงพยาบาลกรุงแคนเบอร์ราเพื่อทำการแสกน MRI ก่อนจะพบต้นเหตุสุดสยอง
แพทย์เจอพยาธิตัวกลมอาศัยอยู่ในแผลบนสมองส่วนหน้าขวาของเธอ โดยเจ้าหน้าที่แพทย์ต้องทำการผ่าตัดเพื่อนำพยาธิตัวกลมตัวดังกล่าวออกมา ซึ่งพบว่ามันมีขนาดยาว 8 เซนติเมตรและมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 มิลลิเมตร
พยาธิตัวดังกล่าวเป็นตัวอ่อนขั้นที่สาม มาจากสายพันธุ์ Ophidascaris robertsi nematode ซึ่งมักจะพบในทางเดินอาหารของงูหลามคาร์เพทที่อาศัยในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย
แพทย์คาดว่าหญิงคนดังกล่าวน่าจะติดเชื้อเพราะทานพืชผักหรือหญ้าชนิดทานได้ที่ปนเปื้อนของเสียจากงู และไข่ของพยาธิได้ฟักตัวในร่างกายของเธอก่อนมันจะเดินทางขึ้นไปอาศัยในสมอง และส่งผลให้เธอมีอาการป่วย อย่างไรก็ตามแพทย์ไม่สามารถยืนยันสาเหตุที่แท้จริงได้
ทั้งนี้การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในโลกที่มีการพบพยาธิเป็นอาศัยอยู่ในสมองของผู้ป่วย