ข่าว

สนามบินเชียงใหม่ ป่วน ! เหตุ ผู้โดยสารอาหรับ “ลืมของ” ตอนกำลังบินขึ้น

สนามบินเชียงใหม่ เกือบวุ่น หลังเหตุ ผู้โดยสารอาหรับลืมของ อ้างข้างในมีเงินสิ่งของสำคัญ ก่อนต้องเชิญลงหลังเครื่องบินกำลังจะออกตัวแล้ว

เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2566 มีรายงานสถานการณ์วุ่นวายที่ สนามบินเชียงใหม่ ภายหลังจาก ผู้โดยสารชาวอาหรับกำลังยืนโวยวายอยู่ ซึ่งภาพในคลิปนั้นอธิบายว่า เป็นผู้โดยสารชาวอาหรับ ยืนโวยวายขอให้เครื่องหยุด ระหว่างที่เครื่องกำลังจะออก เพราะว่าลืมกระเป๋า อ้างว่าในนั้นมีเงิน และของสำคัญ

สำหรับเหตุการณ์นี้ อ้างอิงจากต้นโพสต์ในบัญชีติ๊กต๊อก (Tiktok) เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา โดยหลังจากที่ผู้โดยสารชาวต่างชาิ เริ่มโวยวายไปได้สักพัก ก็จะเห็นทางเจ้าหน้าที่รีบเข้ามาพูดคุยเจรจาด้วยทันที แต่ก็ไม่เป็นผล

ผู้ใช้งานยังระบุข้อความอีกว่า “ดีนะไม่นึกขึ้นได้ว่าลืมตอนเครื่องออกแล้ว สงสัยได้บินกลับ”

จากนั้นไม่นาน ก็ได้เสียงประกาศจากกัปตัน เข้ามายังห้องผู้โดยสาร โดยมีคำพูดว่า “ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขออนุญาตไม่เดินทางต่อ อาจจะต้องพาเครื่องกลับไปยังอาคารผู้โดยสาร และให้ผู้โดยสารท่านนั้นลง เพื่อความปลอดภัยของพวกเราทุกคน อาจจะใช้เวลา 5-10 นาที ต้องกราบขออภัยในความล่าช้า”

ทั้งนี้ เหตุการณ์ผู้โดยสารชาวอาหรับนี้ ยังถูกสำนักข่าวต่างประเทศ มีการไปนำสเนอต่อด้วย จนทำให้ทราบว่า เที่ยวบินที่เกิดเหตุนั้นคือสายการบินไทยสมายล์ เป็นเครื่องบินแอร์บัส A320 เที่ยวบินที่ THD103 ซึ่งจะเดินทางจากสนามบินเชียงใหม่ไปลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ผู้โดยสารบนเที่ยวบินดังกล่าวที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า นักท่องเที่ยวหัวร้อนบ่นว่ากระเป๋าที่มีเงินและของสำคัญข้างในยังอยู่ที่สนามบินและเขาต้องการที่จะไปนำมันมา ซึ่งเป็นการก่อกวนมากและพวกเขาไม่สนใจเลยว่าจะทำให้คนอื่นๆ ต้องเดินทางล่าช้า

ขณะที่ เว็บไซต์เดลีมิเรอร์ (Daily Mirror) ของอังกฤษ ระบุว่า เหตุการณ์นักท่องเที่ยวระบเิดอารมณ์โวยวายให้กัปตันหันหัวเครื่องบินกลับไปที่อาคารผู้โดยสารเพราะลืมสัมภาระ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2566 ที่สนามบินเชียงใหม่ ทางภาคเหนือของไทย ดูคลิป คลิก.

 

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button