ข่าว

‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ เจอคุกอ่วม 1,115 ปี ปรับอีก 145 ล้าน ข้อหาฉ้อโกง

ศาลอาญาพิพากษา ประสิทธิ์ เจียวก๊ก ติดคุก 1,115 ปี ปรับอีก 145 ล้านบาท ฉ้อโกงลงทุนซื้อ-หลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนม

ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษา คดีฉ้อโกงประชาชนหมายเลขดำ อ.1837/2564 ที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ฟ้อง บริษัท วีเลิฟยัวแบ็ก (ไทยแลนด์) จำกัด จำเลยที่ 1.น.ส.อมราภรณ์ หรือ พันตรีหญิงแพทย์หญิงอมราภรณ์ วิเศษสุข จำเลยที่ 2.บริษัท เหนือโลก จำกัด โดย นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก กรรมการผู้จัดการ ในฐานะนิติบุคคล จำเลยที่ 3.นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก อดีตประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน นักธุรกิจพันล้าน จำเลยที่ 43 นายกิตติศักดิ์ เย็นนานนทน์ จำเลยที่ 5.น.ส.ณัฐวรรณ อุตตมะปรากรม จำเลยที่ 6.บริษัท เอ็มโกลด์ ฟิวเจอร์ จำกัด โดย นางสาวสิริมา เนาวรัตน์ กรรมการผู้จัดการ จำเลยที่ 7. น.ส.สิริมา เนาวรัตน์ จำเลยที่ 8 และ นายกิตติวัฒน์ อ่วมอารีย์ จำเลยที่ 9 ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิด พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 3, 4, 5, 9, 11, 12, 15 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14(1) ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91, 341, 343 และให้พวกจำเลยคืนหรือใช้เงินแก่ผู้เสียหายที่ยังไม่ได้รับคืน ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ

คดีนี่ฝ้อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 2563 ถึงวันที่ 19 เม.ย. 2564 พวกจำเลยได้ร่วมกันและแยกกันกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันด้วยการหลอกลวงและแสดงข้อความอันเป็นเท็จโดยการโฆษณาชักชวนประชาชนมาร่วมลงทุนซื้อขาย ฝากขายสินค้าแบรนด์เนม เช่น หลุยส์ วิตตอง ชาแนล แอเมส กุชชี่ และสินค้าทำความสะอาดสินค้าแบรนด์ เนม เป็นต้น ในหลายรูปแบบคิดโดยจะให้ผลประโยชน์ตอบแทน ร้อยละ 40.15-51.1ต่อปี ซึ่งเป็นผลประโยชน์ตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยตามที่สถาบันการเงินกฎหมายกำหนดที่ร้อยละ 3.25 ต่อปี จนมีประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อร่วมลงทุนกับพวกจำเลยตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่พวกจำเลยตั้งขึ้น ทั้งที่ความจริงแล้วพวกจำเลยไม่มีเจตนานำเงินจากประชาชน และผู้เสียหายไปลงทุนในธุรกิจดังกล่าว เป็นเพียงอุบายเพื่อนำเงินลงทุนมาเพื่อเป็นประโยชน์แก่พวกจำเลยเท่านั้น สร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาลกว่า 1,000 ล้านบาท ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยตามความผิดด้วย

ในวันนี้ ศาลได้อ่านคำพิพากษาให้นายประสิทธิ์ จำเลยที่ 4 ฟังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนท์ไปที่เรือนจำกลางบางขวาง จ.นนทบุรี

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้วเห็นว่า พยานโจทก์เบิกความสอดคล้องรู้เห็นด้วยตัวเอง สมเหตุสมผลมีรายละเอียดเชื่อมต่อเป็นลำดับเรื่องราวความเป็นมาของการกระทำความผิดตั้งแต่เปิดธุกิจของ จำเลยที่ 1,3,4 มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ส่วนที่ จำเลยที่ 1,3,4 ต่อสู้คดีอ้างว่ามีแผนการธุรกิจและคำนวณตามโมเดลธุรกิจดังกล่าวมีความเป็นไปได้ที่จะให้ผลตอบแทนสูงนั้นเป็นเพียงแนวคิดเบิกความลอยๆ ที่โฆษณาหลอกลวงว่าประชาชนผู้เสียหายจะได้รับผลตอบแทนจำนวนมากนั้นไม่สามารถกระทำได้จริง พยานและหลักฐานของ จำเลยที่ 1,3,4 ยังมีข้อพิรุธ น่าสงสัยไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์

มีปัญหาต้องวินัฉัยว่า จำเลยที่ 2 ,5-9 กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า พยานโจทก์ยังไม่มีหน้ำหนักให้รับฟังเพื่อลงโทษจำเลยที่ 2,5-9 จึงพิพากษายกฟ้องแต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์

พิพากษาว่า จำเลยที่ 1,3,4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341, 342 พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14(1) ประกอบมาตรา 83 เป็นความผิดกฎหลายบทต่างกัน ให้ลงโทษ ฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนที่เป็นหนักสุด ให้จำคุก นายประสิทธิ์ จำเลยที่4 กระทงละ 5 ปี จำนวน 321กระทง รวม 1,155 ปี และปรับจำเลยที่ 1,3 และ4 รายละ 5 แสนบาท รวม 321 กระทง รวมเป็นเงิน 145,500,000 บาท อย่างไรก็ตามกฎหมายกำหนดให้จำคุกไม่เกิน 20 ปี คงจำคุกนายประสิทธ์ จำเลยที่ 4 รวม 20 ปี และให้ จำเลย 1,3 และ4 ร่วมกันชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหายอัตราร้อยละ 5 ไม่เกินร้อยละ 7.5 ต่อปีนับตั้งแต่วันฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 2,5-9 พิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์

ทั้งนี้อธิบดีศาลได้มีความเห็นแย้งเนื่องจากเห็นว่าจำเลยทั้ง 9 ราย มีพฤติการณ์และหลักฐานที่เชื่อได้ว่าร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เป็นตัวการร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มีการกระทำเป็นขบวนการ และความสัมพันธ์ใกล้ชิดเชื่อมโยงกับนายประสิทธิ์และบริษัท ไม่อาจอ้างได้ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำของจำเลยจึงเห็นว่าจำเลยทั้งเก้ามีความผิดตามฟ้อง

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button