‘แอนโทนี ฮ็อปกินส์’ พ้อแรง รับบทโอดินในหนังธอร์ เป็นชีวิตที่แสนจะไร้ค่า
นักแสดงรุ่นใหญ่ “แอนโทนี ฮ็อปกินส์” (Anthony Hopkins) เจ้าของรางวัลออสการ์ 2 สมัย วัย 85 ปี คิดว่าการเป็นนักแสดงในจักรวาลภาพยนตร์ Marvel เป็นเรื่องที่ไม่มีความหมายต่อตัวเขาเองเลยแม้แต่น้อย
โดยแอนโทนีรับบท “เทพเจ้าโอดิน” ในภาพยนตร์เรื่อง Thor: The Dark World เมื่อปี 2011 ก่อนจะกลับมารับบทเดิมอีกครั้งในภาคต่อ Thor: Ragnarok ในปี 2017 และจากข้อมูลที่แอนโทนีเคยให้ไว้ เขากล่าวว่าประสบการณ์ในการเล่นหนังกับมาร์เวลเป็นอะไรที่ไม่ค่อยน่าปลื้ม
“พวกเขาให้ฉันสวมชุดเกราะ สวมเครา นั่งบนบัลลังก์แล้วตะโกนนิดหน่อย” แอนโทนีกล่าวกับนิตยสาร The New Yorker “แต่ถ้าคุณนั่งอยู่หน้าจอ Green Screen การแสดงทั้งหมดของคุณก็จะไร้ประโยชน์ในทันที” นอกจากนี้แอนโทนียังกล่าวอีกด้วยว่า “ท้ายที่สุดแล้วจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลก็กลืนกินทั้งวงการฮอลลีวูด”
ทั้งนี้แอนโทนีก็ได้กล่าวขอบคุณผู้กำกับเคนเนธ (Kenneth Branagh) สำหรับการกู้คืนความศรัทธาในวงการภาพยนตร์ให้กับเขา หลังจากที่แอนโทนีได้แสดงในภาพยนตร์ Thor ภาคแรก โดยแอนโทนีกล่าวชื่นชมเคนเนธว่าเป็นผู้กำกับที่ทัศนคติดีมาก และสามารถดึงพลังในตัวนักแสดงออกมาได้ เมื่อครั้งที่ทั้งสองคนได้ร่วมกัน ทว่าเคนเนธกลับไม่ได้กำกับภาพยนตร์ Thor ในภาคต่อ ๆ มา
ดูเหมือนว่าช่วงนี้กระแสการพูดถึงภาพยนตร์มาร์เวลจะมาแรงทั้งในเชิงบวกและเชิงลบจริง ๆ เพราะก่อนหน้านี้นักแสดง “คริส เฮมส์เวิร์ธ” (Chris Hemsworth) ก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์เหมือนกันว่าภาพยนตร์เรื่อง Thor ภาคล่าสุดมันดูติ๊งต๊องจนเกินไป
หรือจะเป็นอย่างที่ผู้กำกับดังหลายคนออกมาพูดว่ามาร์เวลนั้นได้กลืนกินอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ยุคสมัยนี้ผู้ชมไม่ได้รับชมหนังที่มีคุณภาพจริง ๆ อย่างที่ควรจะได้รับ