บันเทิง

‘แพรรี่ ไพรวัลย์’ แจงปมถูกฟ้องหมิ่น เผยไม่หนักใจ แถมลั่นแรง “ระวังปาราชิก”

สืบเนื่องจากกรณีที่ “ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช” ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมด้วย “ทนายประยุทธ ประเทศเสนา” นำหลักฐานยื่นฟ้องศาลดำเนินคดีกับ “แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร” ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ในวันที่ 9 มิถุนายน 2566 นี้

ด้านฝ่ายแพรรี่เมื่อทราบข่าวก็ไม่อยู่เฉย ออกแถลงการณ์ต่อหน้าสื่อภายในวันเดียวกันเพื่อชี้แจงต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในทันที โดยแพรี่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่ารู้ตัวอยู่แล้วว่าจะโดนฟ้อง เพราะอีกฝ่ายขู่ฟ้องมา 2-3 ครั้ง แต่ ณ ขณะนั้นยังข้องใจอยู่ว่าตนเองโพสต์อะไรที่เข้าข่ายให้ถูกฟ้องหรือไม่ กระทั่งวันนี้หลังมีข่าวออกมาจึงได้รู้ว่าสาเหตุที่ฟ้องมาจากโพสต์เรื่องพระสูบบุหรี่

Advertisements

โดยในเรื่องนี้ แพรรี่มองว่าศาสนาเป็นสถาบันหลักของชาติ พระสงฆ์เป็นนักบวชในศาสนา จึงควรเป็นแบบอย่างของสาธุชน เมื่อเห็นพระประพฤติไม่เหมาะสมก็อยากจะแสดงความคิดเห็นเพื่อให้ศาสนาพุทธเป็นไปในทางที่ดีขึ้น โดยใช้สิทธิ์อันชอบธรรมในการที่ตนจบเปรียญธรรม 9 ประโยค มาวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้

ส่วนเรื่องว่ากังวลใจหรือหนักใจไหม ด้านแพรรี่กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ก็ปล่อยให้ศาลพิจารณาในลำดับถัดไป ทั้งนี้ก็ได้โต้แย้งว่าตนไม่ได้ไปผสมโรงคอมเมนต์ที่หมิ่นประมาทอีกฝ่าย เพิ่งเห็นตอนที่ทางทนายอนันต์ชัยโพสต์ด้วยซ้ำ

ทั้งนี้แพรรี่ก็ได้อ่านคำฟ้องแล้ว กำลังรอหมายศาลตัวจริง และเตรียมตัวฟ้องกลับ เนื่องจากในร่างคำฟ้องมีการอ้างว่าแพรรี่ไปทำให้จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 กระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท โดยในส่วนนี้แพรรี่มองว่าเป็นการใส่ความ ไม่ใช่ข้อเท็จจริง และชี้แจงว่ากับจพเลยที่ 2 และ 3 ไม่ได้รู้จักหรือติดต่อกันเป็นการส่วนตัวแม้แต่น้อย

สำหรับประเด็นการฟ้องร้องที่เกิดขึ้น แพรรี่มองว่าในฐานะสาธุชนที่ถวายข้าวถวายน้ำให้พระ ก็ควรจะมีสิทธิ์ติเตียนหากเห็นว่าพระสงฆ์ประพฤติผิด ซึ่งหากเมื่อไรที่ชาวบ้านตำหนิพระแล้วมีทนายมาไล่ฟ้องแบบนี้ทุกกรณี ศาสนาก็จะอยู่ไม่ได้ ในส่วนนี้เองแพรรี่ก็ได้ยกตัวอย่างขึ้นมาว่าในสมัยพุทธกาลหากชาวบ้านติติงพระสงฆ์ ถ้าเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ พระพุทธเจ้าก็จะนำไปบัญญัติเป็นสิกขาบท

อย่างไรก็ดี แพรรี่ให้ความรู้ว่าตามหลักแล้วพระสงฆ์ก็ถือเป็นพลเมือง มีสิทธิขอความอารักขา แต่ต้องระวังในเรื่องการฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล โดยเฉพาะคดีแพ่งที่ทำให้ฆราวาสเสียทรัพย์ ซึ่งเป็นเรื่องหมิ่นเหม่อาจทำให้ปาราชิกได้ สุดท้ายแพรรี่กล่าวว่ารู้สึกหวังในตัวทนายอนันต์ชัยที่ก่อนหน้านี้ก็ยังเคยมีการให้คำแนะนำกัน แต่พอเกิดเรื่องฟ้องร้องก็ทำให้รู้ว่าหากเรายึดที่ตัวบุคคล แทนที่จะยึดตัวหลักธรรม ก็จะทำให้หลงทางได้

Advertisements
แพรรี่ ไพรวัลย์
ภาพจาก : ไพรวัลย์ วรรณบุตร
แพรรี่ไพรวัลย์
ภาพจาก : ไพรวัลย์ วรรณบุตร
แพรรี่ ไพรวัลย์
ภาพจาก : ไพรวัลย์ วรรณบุตร
แพรรี่ไพรวัลย์
ภาพจาก : ไพรวัลย์ วรรณบุตร
แพรรี่ ไพรวัลย์
ภาพจาก : ไพรวัลย์ วรรณบุตร

Mothana

นักเขียนข่าวที่ Thaiger การศึกษาทางด้านภาษา จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความเชี่ยวชาญด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จึงรับหน้าที่เขียนบทความไลฟ์สไตล์บันเทิง เศรษฐกิจ อยากเป็นสื่อกลางคอยขุดคุ้ยประเด็นตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงใหญ่โตมาเขียนให้ทุกคนได้อ่าน เพราะมีความเชื่อว่าสื่อที่ดีย่อมเป็นหนทางนำผู้อ่านไปสู่งานเขียนที่ดีได้ ติดต่อได้ทาง tangmo@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button