ไลฟ์สไตล์

ก่อนสวยต้องรู้ ‘กลูต้า’ คืออะไร กินแล้วขาวจริง หรือแค่ข่าวลวง

ตีแผ่ความจริงที่หลายคนยังไม่รู้ กลูต้า คืออะไร สารต้านอนุมูลอิสระยอดฮิตที่สาว ๆ ผู้อยากผิวใสนิยมซื้อมาลองกินลองใช้ โดยไม่สนอันตรายที่อาจเกิดกับร่างกาย แล้วอันตรายที่ว่ามีจริงหรือเป็นแค่การตลาด กินแล้วขาวจริงไหม มีข้อเสียอะไรบ้าง ทีมงาน Thaiger รวบรวมทุกคำตอบมาให้คุณแล้วที่นี่ค่ะ

อยากผิวขาวผิวใสต้องใช้ กลูต้า เรื่องจริงหรือหลอก?

กลูต้า คืออะไร รวมถึงข้อดีของกลูต้า

เริ่มกับคำถามที่ว่ากลูต้าคืออะไรกันแน่ กลูต้า หรือ กลูตาไธโอน (Glutathione) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายของมนุษย์ผลิตได้เอง มีหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลาย ยับยั้งการเสื่อมของเซลล์ กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย รวมถึงช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นโลหะหนัก สารระเหย เป็นต้น

กลูตาไธโอนเป็นโปรตีน ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิด ได้แก่ ซิสเตอิน
(Cystein), ไกลซิน (Glycine) และ กลูตาเมท (Glutamate) หากจำชื่อไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่เอาเป็นว่าคุณสมบัติของกลูตาไธโอนถือว่ามีประโชยน์ต่อร่างกายจริง ๆ ผ่านการทำงานร่วมกับสารอื่น ๆ นั่นเอง

กลูต้า กินแล้วขาวจริงไหม

ข้อเสียของกลูต้า

ร่างกายของคนเราสามารถรับปริมาณกลูต้าที่เหมาะสมได้ประมาณ 60 – 250 กรัมต่อวัน หากได้รับมากกว่านี้จะส่งผลเสียต่อเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง หากเมลานินลดลงผิวหนังก็จะเหี่ยวย่นเร็วยิ่งขึ้น

นอกจากนี้การได้รับกลูตาไธโอนเข้าร่างกายมากเกินไป ยังส่งผลเสียต่อจอประสาทตาและการมองเห็นอีกด้วย รวมถึงผู้ที่แพ้เสี่ยงต่อการเกิดการแพ้ขั้นรุนแรง หากได้รับกลูต้าที่ปนเปื้อนหรือไม่บริสุทธิ์

กลูต้ากินแล้วขาวจริงไหม

ไม่จริง เพราะกลูตาไธโอนเป็นโมเลกุลที่มีขนาดใหญ่ ไม่สามารถดูดซึมผ่านกระเพาะอาหารหรือทางเดินอาหารได้ นอกจากนี้กลูต้ามักสลายตัวได้ง่าย ๆ ตั้งแต่อยู่ในทางเดินอาหาร

ดังนั้นโฆษณาชวนเชื่อที่ทำให้เราคิดการกินกลูต้าช่วยให้ผิวขาวนั้น ทั้งรูปแบบแคปซูล ยาเม็ด ยาน้ำ จึงไม่เป็นความจริง เป็นการเสียเงินโดยใช่เหตุและไม่เกิดประโยชน์กับร่างกายอีกด้วย

กลูต้า กินแล้วขาวจริงไหม

กลูต้า กินหรือฉีดช่วยผิวขาวได้มากกว่า

เมื่อได้ทราบไปแล้วว่าการกินกลูต้าไม่ได้ช่วยให้ผิวขาวจริง ถ้าเช่นนั้นควรฉีดกลูต้าเข้าผิวไปเลยได้ไหม จะได้ผลมากกว่าการกินหรือเปล่า

คำตอบคือการฉีดได้ผลกว่าการกิน แต่หากหวังผลให้ผิวขาวจริง ๆ จะต้องไปฉีดเข้าเส้นเลือดดำตรง ๆ กันไปเลย และต้องไปค่อนข้างถี่ โดยแพทย์จะฉีดกลูต้าร่วมกับวิตามินซีในความเข้มข้นสูง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างมาก

ทั้งนี้ก็มีอันตรายที่ต้องเตรียมใจรับให้ดี เพราะการฉีดกลูต้าความเข้มข้นสูงทำให้เกิดอาการช็อกได้ หากบางรายแพ้รุนแรงก็อาจมีอาการกล้ามเนื้อสั่น หลอดลมตีบ หายใจติดขัด ประสาทหลอน เม็ดสีที่จอตาลดลง กระทบการมองเห็น หรือถึงแก่ชีวิตได้เลย

ทากลูต้าให้ผิวขาวได้ผลหรือไม่

ไม่ได้ผลเช่นกัน เพราะโมเลกุลของกลูตาไธโอนไม่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบครีมหรือเจลก็ตาม

ประโยชน์ของกลูตาไธโอนมีอะไรบ้าง

คุณสมบัติของกลูตาไธโอนมีประโยชน์มากกว่าช่วยผิวขาวอย่างที่หลายคนเข้าใจ โดยมีประโยชน์ที่เห็นได้ชัด 2 ประเด็น ดังนี้

ช่วยชะลอวัย

กลูตาไธโอนเป็นตัวช่วยสำคัญในการชะลอวัย โดยสถิติทางการแพทย์พบว่าผู้ที่ร่างกายขาดกลูตาไธโอนหรือสังเคราะห์ได้น้อย มักจะมีอาการป่วยโรคต่าง ๆ เช่น เอดส์ มะเร็ง ปอด โรคแทรกซ้อนทางระบบประสาท

โดยพบว่าผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ นักกีฬา คนเหล่านี้จะมีปริมาณกลูตาไธโอนในร่างกายที่ค่อนข้างสูงนั่นเอง

กลูต้ากินแล้วชะลอวัย

ประโยชน์ทางการแพทย์

มีการนำกลูตาไธโอนมาใช้รักษาอาการผิดปกติในร่างกาย เช่น ภาวะเป็นหมันในเพศชาย, มะเร็งกระเพาะอาหาร, มะเร็งต่อมลูกหมาก, ปลายประสาทอักเสบ เป็นต้น ด้วยการฉีดเข้าหลอดเลือดดำหรือกล้ามเนื้อ โดยมีผลข้างเคียงคือผู้รับการรักษาจะมีผิวขาวขึ้นจากสีผิวเดิม

ผลข้างเคียงนี้ทำให้หลายคนนำกลูตาไธโอนมาใช้ในวงการความงาม ปรับเปลี่ยนสีผิวให้ขาวขึ้น แม้จะมีการนำกลูตาไธโอนมาใช้ในการแพทย์ แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีการรับรองจากองค์การอาหารและยาแต่อย่างใด และยังเป็นการนำยามาใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์ด้วย

ระวัง! ใครบ้างที่ไม่ควรใช้กลูต้า

สำหรับเด็กเล็ก ทารก ผู้ที่มีครรภ์ และผู้ที่อยู่ระหว่างการให้นมบุตร ควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมที่มีกลูตาไธโอนเข้าร่างกายเพิ่มอีก เนื่องจากร่างกายสามารถผลิตกลูตาไธโอนได้ตามธรรมชาติอยู่แล้ว

สรุปได้ว่า กลูต้า หรือ กลูตาไธโอน จะช่วยให้ผิวขาวได้ด้วยการฉีดเท่านั้น แต่ก็ต้องปรึกษาแพทย์ให้ดีเพราะมีผลข้างเคียง ส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ส่วนการกินกลูต้ารวมถึงการทานั้นไม่ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้จริง

นอกจากนี้เด็กเล็ก คุณแม่ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการรับประทานสารอาหารที่มีกลูตาไธโอน แม้กลูต้าจะมีประโยชน์แต่หากร่างกายได้รับมากเกินไปก็ก่อให้เกิดโทษได้เช่นกัน ดังนั้นเราจึงไม่ควรคาดหวังผลพลอยได้จากคุณสมบัติในระยะสั้น เพราะอาจก่อให้เกิดโทษในระยะยาวได้

ยุค 2023 แล้วไม่ว่าจะสีผิวไหน ขาวกว่า เข้มกว่าหรือคล้ำกว่า หากเรามั่นใจและชื่นชอบความเป็นตัวเอง ความมั่นใจนั้นจะส่งผ่านออกมาและทำให้คุณดูมีเสน่ห์ได้อย่างแท้จริง เชื่อใจทีมงาน Thaiger ได้เลย

ขอบคุณข้อมูลจาก : pharmacy.mahidol.ac.th

Lalita C.

นักเขียนคอนเทนต์ SEO แห่งทีมไทยเกอร์ไทย คลุกคลีกับการเขียนตั้งแต่สมัยเรียน ชอบการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ติดตามข่าวสารจากโลกออนไลน์ นำมาสรุป เล่าเรื่องให้เข้าใจง่าย ผ่านมุมมองน่าสนใจที่คนมักจะมองข้าม ทั้งข่าวบันเทิง บทความ งานเขียนแนวไลฟ์สไตล์ รวมถึงทุกอย่างที่อยากให้นักอ่านได้รู้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button