ควันหลงเลือกตั้ง! สรุปดราม่า ปลาส้มพะเยาผสมแป้ง ทำคนพะเยาเดือด จนต้องแจ้งความเพจดังในเฟซบุ๊ก หลังโพสต์แซะจนสร้างความเสียหาย เหตุพรรคสีน้ำเงินชนะในพื้นที่
กลายเป็นประเด็นดราม่าเดือดที่หลายคนให้ความสนใจ สำหรับ ‘ปลาส้มพะเยา’ ของดีขึ้นชื่อจากเมืองพะเยา ที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือโจมตีทางการเมือง เมื่อเพจดังผู้ติดตามหลายแสน โพสต์แซะจนเข้าข่ายหมิ่นประมาท สร้างความเสื่อมเสียให้กับมูลค่าปลาส้ม, ชาวพะเยา และผู้หญิงในพื้นที่ ล่าสุดทางเพจรีบโพสต์ขอโทษ ทว่าชาวบ้านได้ส่งเรื่องถึงตำรวจแล้ว เตรียมเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และ 328
ย้อนกลับไปในวันนับคะแนนเลือกตั้ง ได้มีเพจชื่อดังรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ว่า “พะเยาชอบแป้งเหรอครับ ควันหลงเลือกตั้ง 66” และ “งดกินปลาส้มพะเยา 4 ปีครับ เพราะว่าผสมแป้งครับ” ซึ่งคาดว่ามีสาเหตุมาจากการเห็นผลคะแนนเสียงเลือกตั้งของชาวพะเยา ซึ่ง ส.ส. แบ่งเขต จากพรรคหนึ่งชนะไปทั้ง 3 เขต ตางจากจังหวัดอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง
หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปไม่นาน ก็ได้กลายเป็นไวรัลที่ผู้คนนำไปแชร์ต่อ อีกทั้งทางเพจยังได้ออกมาโพสต์เพิ่มเติมอีกว่า “จีบสาวพะเยาง่ายมาก แค่บอกว่ามีแป้ง เขาก็เลือกเธอแล้ว 5555+” และ “สาวเชียงคำ, สาวดอกคำใต้ เป็นสาวสวยมาก ๆ แต่ถ้าชอบแป้ง ผมไม่จีบแล้วครับ”
ต่อมาในวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 เพจดังกล่าวได้ออกมาขอโทษต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า “ถึงคนพะเยาผมรู้สึกผิดที่โพสต์ไม่คิด อินกับการเมืองตลอด 4 ปี ที่จะมีการเลือกตั้ง ผมขอโทษที่พูดไม่คิด ขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ขอบพระคุณอย่างสูง”
แต่งานนี้ดูเหมือนจะสายเกินไป เพราะข้อความก่อนหน้านั้นได้สร้างความไม่พอใจให้ชาวพะเยา และผู้ประกอบการธุรกิจปลาส้มเป็นอย่างมาก เนื่องจากมองว่าเป็นการดูหมิ่น สร้างความเสื่อมเสียง ทั้งยังเหยียดหยามผู้หญิง ตลอดจนไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น จนอาจนำไปสู่ผลกระทบต่อตลาดปลาส้มและสินค้าโอท็อปในจังหวัด
เป็นเหตุให้ น.ส.พัชริน จำรัส อายุ 40 ปี เจ้าของแบรนด์ปลาส้มแม่ทองปอนด์ เดินทางไปแจ้งความกับ สภ.เมืองพะเยา เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยแจ้งให้มีการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อเฟซบุ๊ก และ TikTok ข้างต้น ตามความผิดอาญาฐานหมิ่นประมาท มาตรา 326 และ 328
ทั้งนี้เจ้าของแบรนด์ปลาส้มได้บอกว่า รู้สึกกังวลและเสียใจ อีกฝ่ายไม่น่านำสินค้าชุมชนพะเยาไปโยงการเมือง เกรงว่าจะมีผลกระทบในอนาคต และอาจทำให้คนเข้าใจผิดเรื่องส่วนผสมของปลาส้ม พร้อมแนะให้เพจดังกล่าวอยู่ในขอบเขต อย่าสร้างความแตกแยกจนเกิดความเสียหาย.
