‘ชูวิทย์’ ลั่นพร้อมจ่าย 10 เท่า หากมอบหลักฐานซื้อเสียงให้ : เลือกตั้ง 66
ชูวิทย์ ลั่น พร้อมจ่ายเป็น 10 เท่า หากมอบหลักฐานซื้อเสียงให้ พรรคจ่ายให้ 3 พัน ตนพร้อมจ่าย 3 หมื่น เชิญชวนช่วงนี้เศรษฐกิจแย่ ค่าไฟแพง มาหาเงินเถิด
นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กพูดถึงการซื้อเสียงในช่วงการเลือกตั้งปี 66 โดยประกาศลั่นว่าตนพร้อมจ่ายเงินเป็น 10 เท่าของพรรคการเมืองที่เข้ามาซื้อเสียง หากส่งหลักฐานการซื้อเสียงให้ตน โดยนาย ชูวิทย์ ระบุว่า “ประเทศไทยราคาถูก
การซื้อเสียง ถือเป็นการลงทุนการเมืองไทยที่ถูกแสนถูก ด้วยหลักฐาน 100% มีเอกสาร และพยานยืนยันตามกฎหมาย ในราคาเพียง 3,000 บาท ประเทศไทยถูกขาย และนักการเมืองมาซื้อเพื่อไปเป็นรัฐบาล ใช้นโยบายแปรเป็นทุนกลับมาสะสมหมุนเวียนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ประชาชนจะเปลี่ยนการเมืองไทยด้วยมือของเราเอง ไม่ใช่นักการเมือง แจ้งเหตุซื้อเสียงให้ชูวิทย์ใน inbox เพื่อความเข้มแข็งของประชาชนพลเมืองไทย ต้องมีชื่อผู้สมัคร ส.ส. ผู้รับเงิน เหตุการณ์ คลิป หรือรูปถ่าย หลักฐาน พยาน เพียงพอที่จะยื่น กกต. ทุกอย่างเป็นความลับ
ขณะนี้ อสม. จำนวนมากหลงผิดทำงานให้พรรคการเมืองบางพรรค จดชื่อชาวบ้าน เบอร์โทร และเก็บบัตรประชาชนในแทบทุกเขต เป็นเครื่องมือชั่วคราวของพรรคการเมือง เป็นตัวแทนจ่ายเงินให้ชาวบ้านมาฟังประชุมย่อย 100 – 300 บาทต่อคน ฟังปราศรัย 200 – 400 บาทต่อคน หากมารถกระบะบรรทุก 5 คน เหมาได้ 1,000 – 1,500 ต่อคัน การจ่ายเงินซื้อเสียง มัดจำบางส่วน 500 บาทต่อคน และยึดบัตรประชาชนเอาไว้
หากจำเป็นต้องใช้ ขอยืมกลับไปได้ แล้วเอามาให้เก็บไว้ใหม่เพื่อเป็นหลักประกันสัญญาใจ จนถึงวันเลือกตั้ง คืนบัตรประชาชน จ่ายที่เหลืออีก 1,500 บาท จังหวัดที่มีหลักฐาน ได้แก่ อำนาจเจริญ โดยเฉลี่ย เงินจากผู้สมัครไปถึงชาวบ้าน รวม 3,000 บาทต่อคน ยกเว้นในพื้นที่เศรษฐกิจ ค่าครองชีพสูงอย่างภาคใต้ฝั่งอันดามัน ไม่ว่า ภูเก็ต พังงา กระบี่ พุ่งสูงไปจนจบกระบวนการ 4,000 บาทต่อคน เราทุกคนมีหน้าที่ชี้แจงให้คนแก่คนเฒ่า หรือชาวบ้านที่อยู่บ้านนอกได้รู้ว่า ให้เก็บเงินที่ ส.ส. หรือตัวแทนให้มาไว้เป็นหลักฐาน พร้อมยืนยันการซื้อเสียง โดยให้การกับ กกต.
ผมยินดีมอบรางวัลให้มากกว่าที่ได้รับจากผู้สมัคร ส.ส. จำนวน 10 เท่า เช่น หากท่านได้รับมาจากผู้สมัคร 3,000 บาทผมจะมอบให้ท่าน 30,000 บาท เป็นเงินสดทันทีที่ท่านให้การต่อ กกต. หรือ แค่ผมรับว่าหลักฐานครบ ไม่ต้องรอ กกต. หรือศาลตัดสิน
ช่วงนี้เศรษฐกิจแย่ ค่าไฟแพง มาหาเงินใช้กันเถิดพี่น้องชาวไทย
ผมจ่ายสด มากกว่านักการเมือง
หมดเท่าไหร่เท่ากัน”
