ข่าว

หนุ่มหน้ายักษ์ เดินสมัครงานจนเปลี้ย ไม่มีที่ไหนรับ วอนสังคมกลับตัวแล้วไม่ใช่ขี้คุก

วอนสังคมให้โอกาส หนุ่มสักหน้ายักษ์ อายุ 44 ปี เปิดใจ ขอย่ามองแต่ภายนอก หลังไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีคนรับ เผยปัจจุบันกลับตัวกลับใจหวังทำงานหาเลี้ยงครอบครัว หลังล่าสุดเมียตกงาน ยืนยันตั้งใจหากินสุจริตไม่ยุ่งเกี่ยวสิ่งผิดกฎหมาย

กลายเป็นข่าวที่หลายคนให้ความสนใจกันไม่น้อย กับกรณีของ นายณรงค์ เพ็งกลัด อายุ 44 ปี หรือ ป๋องหน้ายักษ์ ไซโล ชายหนุ่มวัย 44 ปี ที่ได้ออกมาขอร้องสังคมผานสื่อมวลชน ขอโอกาสได้มีงานทำหาเลี้ยงครอบครัว เนื่องจากปัจจุบันได้เดินทางไปสมัครงานอยู่หลายที่ แต่แล้วปรากฏไม่มีที่ไหนยอมรับเข้าทำงาน แม้แต่ที่เดียว เพราะเห็นว่า นายณรงค์ หนุ่มมีรอยสักยักษ์บนใบหน้า มีประวัติและสักลายเต็มตัว

ชายวัยกลางคนยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้ ตนเองนั้นเป็นคนมีประวัติไม่ดี แต่พอพ้นโทษออกมามีครอบครัว มีภรรยามีลูก ก็กลับตัวไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่วกับยาเสพติดและสิ่งผิดกฏหมายอีกเลย

ส่วนเรื่องรอยสักตามตัวและใบหน้า เนื่องจากตนเองมีศรัทธาในท้าวเวสสุวรรณ จึงได้ทำการสักใบหน้ายักษ์แล้วก็เริ่มปฏิญาณตนจะเป็นคนดีหากินสุจริตตั้งแต่นั้นมา

จากนั้นเริ่มหันหน้าเข้าวัด เพื่อเข้าไปช่วยงานภายในวัดจนมีพระภายในวัดสงสาร เอาอาหารเอาขนมมาให้ตนและครอบครัวกินเพื่อลดค่าใช้จ่ายภายในบ้าน

สุดท้ายขอวอนช่วยให้โอกาสกับคนที่กลับตัวกลับใจเป็นคนดี อย่ามองแต่ภายนอกว่าเป็นคนขี้คุกหรือเห็นสักเต็มตัวเต็มใบหน้า อยากขอโอกาสให้มีที่ยืนอยู่ในสังคมและใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป

ด้าน นายดนัย อายุ 43 ปี เพื่อนป๋องหน้ายักษ์ เผยว่า เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ จะพักอาศัยอยู่ในวัด แต่ป๋องอาศัยอยู่ในชุมชนบริเวณวัด สมัยก่อนป๋องแสบมากชอบหาเรื่องและข้องเกี่ยวกับยาเสพติด จนชาวบ้านบริเวณนั้นไม่ค่อยมีใครกล้ายุ่ง ถูกตำรวจจับหลายรอบหลายคดี พูดง่ายๆ คือเข้าออกเรือนจำมาครึ่งชีวิต แต่พอป๋องมีครอบครัวก็เริ่มปรับตัวเองใหม่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เริ่มทำมาหากิน รับจ้างทำงานและขายของ

จนเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาเริ่มขายของไม่ค่อยดี ทำให้ไม่มีเงินไว้ใช้จ่าย แต่ก็พยายามหางานทำ ไปสมัครงานอยู่หลายที่แต่ไม่มีที่ไหนรับเพราะเห็นว่ามีประวัติและสักลายเต็มตัว เต็มใบหน้า

ทั้งนี้ เพื่อนเริ่มกลับใจไม่คิดหวนกลับไปเป็นคนเกเรยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด คิดว่าอยากให้สังคมให้โอกาสกับคนกลับตัวกลับใจมาเป็นคนดี เพื่อให้คนเหล่านี้ได้มีจุดยืนในสังคมต่อไป.

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button