ข่าว

เปิดใจ เจ้าหนี้ใจเด็ด ยอมเสียค่าทนาย 8 พัน ฟ้องลูกหนี้เบี้ยวเงิน 2 พัน เพราะคำพูดเดียว

เจ้าหนี้ใจเด็ด อมจ่ายค่าทนาย 8000 บาท ฟ้องลูกหนี้ เบี้ยวจ่ายค่าสินค้า 2266 บาท หลังผ่อนจ่ายมานาน 6 เดือน เจ้าหนี้เปิดใจทำไมยอมลงทุนขนาดนี้เพราะคำพูดเดียว

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก ณิชารีย์ พูนศรี หรือ “ทนายน้ำหวาน” ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวของลูกความที่ฟ้องเรียกค่าสินค้าจากลูกหนี้เป็นค่าสินคา 2,266 บาท โดยลูกหนี้ซื้อของแบบติดเครดิต เอาของไปขาย ไปกินจะหมดแล้ว ถึงสิ้นเดือนไม่จ่ายไม่โอน ผลัดจนกลายเป็นแหนม ผลัดมาเกือบปี เจ้าหนี้ทนไม่ไหวให้ทนายยื่นฟ้อง ค่าทนาย 8,000 บาท ก็ยอม

Advertisements

โดยเนื้อหาในโพสต์ ยังเปิดผยว่า ขึ้นศาลนัดแรก 27 กุมภาพันธ์ 2566 ลูกหนี้ขอผ่อนเดือนละ 500 บาท แต่เจ้าหนี้ไม่ยอม ให้เวลาแค่ 5 วัน แล้วก็เริ่มทยอยผ่อน ตั้งแต่วันที่ 1-5 มีนาคม ครั้งละ 200, 230, 200, 233 และ 1,400 บาท จนครบกำหนด 5 วัน เจ้าหนี้ได้ยอดครบ 2,266 บาท จบคดี สำหรับลูกหนี้บางคน มองว่า เงินน้อย โจทย์ไม่ฟ้องหรอก ไม่คุ้มค่าทนาย ประเด็นนี้ทนนายเจ้าของโพสต์ยืนยันว่า เป็นความคิดที่ผิด

ทั้งนี้ หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปจนกลายเป็นกระแส ทำให้ต่อมาได้มีผู้สื่อข่าวลงไปสัมภาษณ์ เจ้าหนี้รายดังกล่าวซึ่งเป็นแม่ค้าออนไลน์ ก็ได้เล่าเรื่องราวทั้งมหดที่เกิดขึ้นอย่างละเอยีด

โดยเริ่มจากลูกหนี้เป็นลูกค้าที่มาติดต่อซื้อของที่ร้าน ซึ่งก็ค้าขายกันมาปีกว่าแล้วจนไว้ใจ ให้ซื้อสินค้าแบบติดเครดิตไว้ได้ เอาสินค้าไปก่อน แล้วค่อยจ่ายเงินตอนสิ้นเดือน ยอดสินค้า 5,000 กว่าบาท

กระทั่งถึงวันครบกำหนดจ่ายในวันที่ 5 เมษายน เขาจ่ายมาแต่ไม่ครบจำนวน แบ่งจ่ายมาแล้วขอผลัดไปอีกเดือน ตนก็ไม่ว่าอะไร ถัดไปอีกเดือนก็จ่ายไม่ครบแล้วขอผลัดอีก ตนก็ยอม แต่ได้คุยกันว่า เดือนถัดไปขอจ่ายเต็มจำนวนนะ เขารับปาก แต่สุดท้ายก็ยังจ่ายไม่ครบอีก

จากนั้นเขาก็ไม่ติดต่อมาอีก มีแต่ฝ่ายเราที่ทักแชทไปหา เขาก็ตอบแต่ว่า เดี๋ยวสินเดือนดูให้ ผลัดไปเรื่อยๆ หนักสุดช่วงเดือนตุลาคม ที่เขาเมินเฉย ไม่อ่านแชท

Advertisements

สุดท้ายตัดสินใจไปโพสต์ที่หน้าเฟซบุ๊กเขา บอกว่า “อ่านข้อความหน่อยนะคะ” เขาถึงส่งข้อความมาหาทางแชท ว่า “อยากได้เงินก็เงียบๆๆ หน่อยนะ ขอบล็อกนะ สิ้นปีโอนให้”

เมื่อได้อ่านข้อความดังนั้น ทางเจ้าหนี้ต้นเรื่องของเราจึงตอบกลับไปว่า ?

“นั้นขอฟ้องหน่อยนะคะ” ฝ่ายเจ้าหนี้ยอมรับรู้สึกเสียความรู้สึกมาก ไม่เคยไปก่อกวน แค่บอกให้อ่านข้อความ แถมลูกหนี้ยังบอกว่า อยากได้ให้ไปฟ้องเอา จึงตัดสินใจปรึกษาทนายและได้คำแนะนำให้ส่งหนังสือทวงและไกล่เกลี่ย

โดยส่งไป 2 รอบ ลูกหนี้ติดต่อกลับมาด้วยคำพูดที่ทำร้ายจิตใจมา ว่า ไปเจอกันที่ศาล จึงตัดสินใจฟ้อง

นอกจากนี้เจ้าของวเรื่องยังบอกว่า มีหลายคนสอบถามเรื่องค่าจ้างทนายคุ้มกับที่ฟ้องร้องไปรึเปล่า คำตอบของทางเจ้าหนี้ยืนยันชัดว่า ตนเห็นว่าคุ้ม เพราะทนายตั้งใจทำคดีมากและอยากให้เป็นตัวอย่าง ไม่อยากให้มีเคสแบบี้ไปทำกับใครอีก ไม่อยากให้มีใครมาโดนเหมือนตน.

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button