ไลฟ์สไตล์

รวม 10 ซีรีส์ฝึกภาษาอังกฤษ 2023 สำเนียงฟังง่ายพูดตามได้ชัวร์

เช็กลิสต์ 10 ซีรีส์ฝึกภาษาอังกฤษ 2023 หาดูได้ง่ายใน Netflix และ Disney+ พัฒนาทักษะการฟังและการพูดให้คล่องเหมือนเจ้าของภาษามาเอง

ทักษะด้านภาษาอังกฤษ ถือเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของหลายสายอาชีพ วันนี้เราเลยถือโอกาส พาทุกคนไปรู้จัก 10 ซีรีส์ฝึกภาษาอังกฤษ 2023 เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเอง เพราะหลายคนยืนยันว่า หนึ่งในวิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษ ด้วยตัวเอง ก็คือการฟังและการพูดตามบทซีรีส์ที่เราชื่นชอบ งานนี้บอกเลยว่านอกจากจะได้ความรู้ ยังรู้สึกสนุกไม่มีเบื่ออีกด้วย ฉะนั้นหากใครพร้อมแล้ว ไปดูด้วยกันได้เลย

10 ซีรีส์ฝึกภาษาอังกฤษ 2023 แบบง่าย ๆ

การเรียนภาษาอังกฤษผ่านซีรีส์เป็นวิธีที่สนุกและมีประสิทธิภาพในการพัฒนาทักษะภาษา โดยสามารถเริ่มได้ง่าย ๆ จากการเลือกซีรีส์ที่ตัวเองชอบ เปิดซับไตเติ้ลหรือคำบรรยายายในภาษาไทยรอบหนึ่ง แล้วกลับไปดูเป็นภาษาอังกฤษ

จากนั้นดูอีกรอบโดยไม่ต้องเปิดคำบรรยาย ก็จะช่วยให้เราสังเกตการใช้ภาษา คำศัพท์ และการออกเสียงได้มากขึ้น ซึ่งผู้เรียนสามารถกดหยุดเพื่อฝึกพูดตามตัวละครได้เช่นกัน โดยเราได้ลิสต์ซีรีส์ดี ๆ ที่ง่ายต่อการฝึกภาษามาฝากกัน ดังนี้

1. Friends

“Friends” เป็นซิทคอมอเมริกันยอดนิยมที่ออกอากาศตั้งแต่ปี 1994 ถึง 2004 มีให้ได้ชมใน Netflix ว่าด้วยเรื่องราวชีวิตของเพื่อนหกคน ได้แก่ เรเชล, รอสส์, โมนิก้า, แชนด์เลอร์, โจอี้ และฟีบี้ ที่อาศัยอยู่ในเมืองนิวยอร์ก โดยเรื่องทั้งหมดเริ่มขึ้นเมื่อเรเชลหนีงานแต่งงานของเธอและย้ายไปอยู่กับโมนิก้าเพื่อนสมัยมัธยมของเธอ โดยโมนิก้าเป็นเชฟและเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของรอสส์

ด้านรอสส์ก็มีปัญหาเรื่องภรรยาที่ต้องหย่าร้างกันเพราะเธอเป็นเลสเบี้ยน และการได้เจอกับเรเชลครั้งนี้ ก็ได้จุดประกายความรู้สึกดี ๆ ในอดีตกลับขึ้นมาอีกครั้ง ในส่วนของแชนด์เลอร์และโจี้ ทั้งสองคนเป็นรูมเมทร่วมห้อง ที่พักอาศัยอยู่ตรงข้ามห้องของโมนิก้าและเรเชล โดยแชนด์เลอร์คือเพื่อนสนิทของรอสส์ตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลับ ส่วนฟีบี้เธอเป็นหมอนวด ที่เคยเป็นรูมเมทเก่าของโมนิก้า และมีชีวิตในวัยเด็กที่เหนือจินตนาการของทุกคน

ซีรีส์เรื่อง Friends ดำเนินเรื่องด้วยการพาตัวละคร เผชิญความท้าทายของชีวิตทั้งในเรื่องส่วนตัว การทำงาน ความสัมพันธ์กับคนรักและความพิเศษระหว่างกลุ่มเพื่อน ซึ่งจะมีด้วยกัน 10 ซีซั่น รวมทั้งหมด 236 ตอน

ซีรีส์ฝึกภาษาอังกฤษ 2023
ภาพจาก Netflix

2. How I Met Your Mother

“How I Met Your Mother” เป็นซิทคอมอเมริกันที่ออกอากาศตั้งแต่ปี 2548 ถึง 2557 เล่าเรื่องโดย Ted Mosby (แสดงโดย Josh Radnor) เกี่ยวกับเรื่องราวที่เขาได้พบกับแม่ของลูก ๆ

ภายในซีรีส์เราจะได้เห็นเท็ด ผ่านมุมมองความรักในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับโรบิน และชีวิตในการทำงานเป็นสถาปนิก ตลอดจนเรื่องราวความสัมพันธ์ของมาร์แชลและลิลี่พัฒนาขึ้นเช่นกันเมื่อพวกเขาดำเนินชีวิตแต่งงานและวางแผนที่จะสร้างครอบครัว โดยสิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความนิยม คือลักษณะการเล่าเรื่องและการใช้ทุกตลกที่ทำได้เบาสมองควรค่าแก่การดูมาก ๆ

ซีรีส์ฝึกภาษาอังกฤษ 2023
ภาพจาก Netflix

3. Black Mirror

“Black Mirror” เป็นซีรีส์วิทยาศาสตร์ของอังกฤษที่ออกอากาศครั้งแรกในปี 2011 บอกเล่าเรื่องราวด้านมืดของเทคโนโลยีและผลกระทบที่มีต่อสังคมและพฤติกรรมมนุษย์ แต่ละตอนของ “Black Mirror” เป็นเรื่องราวแบบสแตนด์อโลน ซึ่งมีตัวละครและฉากที่แตกต่างกัน

ซีรีส์เรื่องนี้ได้สร้างสรรค์เรื่องราวออกมาแตกต่างกันไปในแต่ละอีพี ซึ่งสะท้อนผลกระทบของโซเชียลมีเดีย อันตรายของปัญญาประดิษฐ์ ผลที่ตามมาจากโลกเสมือนและเกม รวมถึงการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในทางที่ผิด โดยเป็นหนึ่งในซีรีส์น้ำดีที่กระตุ้นความคิด และได้รับบทวิจารณ์ทางสังคมที่เฉียบคมมากทีเดียว

ซีรีส์ฝึกภาษาอังกฤษ 2023

4. Stranger Things

“Stranger Things” เป็นซีรีส์แนวสยองขวัญ-วิทยาศาสตร์ที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงปี 1980 ณ เมืองฮอว์กินส์ รัฐอินเดียนา ซีรีส์เริ่มต้นด้วยการหายตัวไปของเด็กหนุ่มชื่อ วิล ขณะที่การค้นหาวิลเข้มข้นขึ้น เพื่อนของเขาอย่างไมค์ ดัสติน และลูคัส ก็เริ่มได้เจอกับความลึกลับและปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่เชื่อมโยงกับการหายตัวไปของวิล

นอกจากนี้พวกเขายังได้พบกับหญิงสาวลึกลับที่มีพลังพิเศษ เมื่อเรื่องราวดำเนินไปเรื่อย ๆ เราจะได้พบกับความแฟนตาซีน่าตื่นเต้นของโลกในอีกมิติหรือ Upside Down พร้อมกับความสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อนที่เติบโตขึ้น เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คนสนใจอยากเรียนภาษาอังกฤษด้วยซีรีส์ไม่ควรพลาด

ซีรีส์ฝึกภาษาอังกฤษ 2023
ภาพจาก Netflix

5. Ginny and Georgia

“Ginny and Georgia” เป็นซีรีส์ของ Netflix ที่ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กสาวชื่อจินนี่กับจอร์เจียแม่ของเธอ ซีรีส์นี้เป็นละครแนว Coming-of-Age ที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว ความรัก และการค้นพบตัวตนของตัวเอง โดยเริ่มเรื่องราวด้วยการที่แม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างจอร์เจีย ได้พาจินนี่และออสตินย้ายไปอยู่เมือง Wellsbury รัฐแมสซาชูเซตส์ เพื่อเริ่มต้นใหม่

ที่นี่จินนี่ได้เจอกับมิตรภาพและความรัก ทั้งยังต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องเชื้อชาติและการต่อสู้เพื่อตัวตนของเธอ นอกจากนี้เรายังได้เห็นความสัมพันธ์ของสองแม่ลูกที่มีความตึงเครียดขึ้น เนื่องจากการปิดบังซ้อนเร้นชีวิตในอดีตของจอร์เจีย ทั้งยังมีปัญหาเรื่องโรคซึมเศร้า ชีวิตเซ็กซ์วัยรุ่นและ LGBTQ+ เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย

เรียกได้ว่า Ginny and Georgia คือซีรีส์น้ำดีที่มีเนื้อหาเข้าใจง่าย ดำเนินเรื่องไว มีความเฉียบคมของบท และสามารถนำไปใช้เรียนภาษาอังกฤษได้อย่างดี เนื่องจากเราจะได้ยินบทสนทนาที่ตัวละครพูดกัน ใกล้เคียงกับที่ชาวต่างชาติพูดในชีวิตจริง

ซีรีส์ฝึกภาษาอังกฤษ 2023
ภาพจาก Netflix

6. The Office

“The Office” เป็นซิทคอมสไตล์ล้อเลียน ชีวิตประจำวันของพนักงานที่ทำงานที่สแครนตัน สาขาเพนซิลเวเนียของบริษัท Dunder Mifflin Paper ซึ่งได้รับการรีเมคจากซีรีส์อังกฤษในชื่อเดียวกัน แต่เวอร์ชันอเมริกามีนักแสดงและโครงเรื่องที่ต่างออกไป

ซีรีส์เรื่องนี้ขึ้นชื่อเรื่องอารมณ์ขัน ซึ่งมักมาจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ และความเข้าใจผิดที่ตัวละครเผชิญอยู่ นอกจากนี้แล้วซีรีส์ยังมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับประเด็นความรัก มิตรภาพ และการเมืองในที่ทำงาน มาพร้อมกับการไต่เต้าทางการทำงานเพื่อให้เป็นมืออาชีพที่สุด งานนี้ใครอยากได้ความสนุกโปกฮาไปพร้อมกับการเรียนภาษาอังกฤษ ก็ไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่อง The Office เด็ดขาดเลย

ซีรีส์ฝึกภาษาอังกฤษ 2023
ภาพจาก Netflix

7. Locke and Key

“Locke and Key” เป็นซีรีส์ดราม่าสยองขวัญเหนือธรรมชาติบน Netflix ซึ่งอิงจากหนังสือการ์ตูนชื่อเดียวกัน ว่าด้วยเรื่องราวของครอบครัว Locke ที่ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านบรรพบุรุษของพวกเขาที่ Keyhouse หลังจากที่พ่อของพวกเขาถูกฆาตกรรมลง ก่อนจะพบว่าในบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยกุญแจพิเศษ ที่ช่วยให้พวกเขามีพลังเหนือมนุษย์

ภายในเรื่องนี้เราจะได้เห็นสามพี่น้องตระกูล Locke ต่อสู้กับปีศาจ ที่กำลังวางแผนขโมยกุญแจไปทำเรื่องชั่วร้าย ตลอดจนได้พบกับมิตรภาพความรัก และการช่วยเหลือกันระหว่างพี่น้อง ถือเป็นซีรีส์น้ำดีที่ได้รับกระแสตอบรับในเชิงบวกมากทีเดียว

ซีรีส์ฝึกภาษาอังกฤษ 2023
ภาพจาก Netflix

8. Heartstopper

“Heartstopper” เป็นซีรีส์ออริจินัลของ Netflix เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่โรแมนติกระหว่างสองนักเรียนมัธยมปลาย Charlie Spring และ Nick Nelson ในโรงเรียนชายล้วน

เมื่อมิตรภาพของชาร์ลีและนิคเติบโตขึ้น ชาร์ลีก็พบว่าตัวเองตกหลุมรักนิค อย่างไรก็ตาม นิคพยายามที่จะทำใจกับความรู้สึกของตัวเอง เพราะเขาเชื่อมาตลอดว่าตัวเองชอบผู้หญิง โดยซีรีส์จะถ่ายทอดให้เราได้เห็นความสัมพันธ์ที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ของพวกเขา ในขณะที่พวกเขากำลังค่อย ๆ รับรู้ถึงความรู้สึกที่มีต่อกัน รวมไปถึงความท้าทายในการเปิดเผยตัวตนลึก ๆ ของตนเอง

ซีรีส์นี้ได้รับการยกย่องในเรื่องการนำเสนอประเด็น LGBTQ+ ที่สมจริงและความละเอียดอ่อน ทั้งยังสามารถบอกเล่าชีวิตรักที่ยากลำบากของเยาวชน LGBTQ+ในการเปิดเผยตัวตน ต่อสังคมเพื่อนและครอบครัวออกมาได้อย่างดีเยี่ยม

ซีรีส์ฝึกภาษาอังกฤษ 2023
ภาพจาก Netflix

9. Grey Anatomy

“Grey’s Anatomy” เป็นซีรีส์ดราม่าเกี่ยวกับการแพทย์ ที่ออกอากาศมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 2005 และดำเนินมาถึง 17 ซีซั่นแล้ว ในเรื่องนี้เราจะได้เห็นชีวิตส่วนตัวและการทำงานของแพทย์กลุ่มหนึ่งที่โรงพยาบาล Seattle Grace (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Grey Sloan Memorial Hospital) ในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน

ตลอดทั้งซีรีส์ ตัวละครต้องเผชิญกับความท้าทายและการเติบโตของชีวิต ซึ่งรวมไปถึงการสูญเสียเพื่อนร่วมงานและคนที่รัก สะท้อนความสัมพันธ์ที่โรแมนติก และความก้าวหน้าในอาชีพ ที่อัดแน่นไปด้วยอารมณ์และความดราม่า จนทำให้”Grey’s Anatomy” ประสบความสำเร็จในเชิงวิจารณ์และเชิงพาณิชย์ ได้รับรางวัลและการเสนอชื่อมากมาย ซึ่งหากใครอยากเรียนศัพท์ภาษาอังกฤษที่เฉพาะทางด้านการแพทย์มาก ๆ ไม่ควรพลาดเรื่องนี้เลย

ซีรีส์ฝึกภาษาอังกฤษ 2023
ภาพจาก ABC.com

10. Modern Family

ปิดท้ายกันไปด้วย “Modern Family” ซิทคอมยอดนิยมของอเมริกา เกี่ยวกับชีวิตของครอบครัวสามครอบครัวที่เชื่อมโยงกัน แต่ละครอบครัวมีความเป็นเอกลักษณ์และนิสัยใจคอที่ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวพวกแม่ลูกสาม ครอบครัวคู่รักเกย์ และครอบครัวที่มีพ่อเลี้ยงลูกเลี้ยงกับแม่ชาวโคลอมเบีย

ทำให้เราได้เห็นความท้าทายและเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งงาน การอุปการะเด็ก การเลี้ยงลูก การเปลี่ยนแปลงทางอาชีพ ชีวิตวัยรุ่น และการเปิดเผยตัวตนของครอบครัว LGBTQ+ เป็นเหตุให้ซีรีส์เรื่องนี้ ได้รับการยกย่องด้านความหลากหลาย และเหมาะที่จะนำมาใช้เป็นซีรีส์สำหรับฝึกภาษาอังกฤษนั่นเอง

ซีรีส์ฝึกภาษาอังกฤษ 2023
ภาพจาก Disney+

จบกันไปแล้วกับ 10 ซีรีส์ฝึกภาษาอังกฤษ 2023 สำหรับคนที่กำลังฝึกภาษาเพิ่มเติม งานนี้บอกเลยว่ามีมาให้เลือกครบทุกสไตล์ รับรองว่านอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังสนุกเพลินเพลินไม่มีเบื่ออีกด้วยนะ.

Eye Chanoknun

นักเขียนประจำ Thaiger จบจากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์เขียนงานผ่านเว็บไซต์ด้านความงามและแฟชั่นชื่อดังของไทยมากกว่า 3 ปี ปัจจุบันชื่นชอบการเขียนข่าวบันเทิง ภาพยนตร์ ซีรีส์ k-pop และไลฟ์สไตล์ เพื่อนำมาบอกเล่าผ่านตัวอักษร ด้วยมุมมองใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ชวนให้ติดตาม ช่องทางติดต่อ eye@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button